บทที่ 493 ห้าดินแดนเปลี่ยนไป เหล่าโอรสสวรรค์กู่ก้อง!
เสิ่นเทียนเหยียบอากาศลงมาช้าๆ
พลังบำเพ็ญหลอมกายเทพมารทะลวงเคราะห์เกิดดับแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกว่าพละกำลังกายเนื้อมากมายมหาศาล
ตอนนี้ระดับความแกร่งของกายเนื้อเหมือนทองคำเซียนนอกฟ้า แข็งแกร่งทนทาน
ต่อให้เป็นผู้โดดเด่นในเซียนแท้ แค่ระดับความแกร่งของกายเนื้อก็ไม่อาจเทียบกับเขาได้
ครั้งนี้ได้ประโยชน์ไปอย่างมาก!
เสิ่นเทียนเบนสายไปมองเสิ่นเสี่ยว
พบว่าเสิ่นเสี่ยวเปล่งแสงเทพสว่างจ้า แสงเทพวนเวียน พลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่
กายเนื้อนางศักดิ์สิทธิ์บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนหยกขาวไขมันแพะ เหนือธรรมดา
ขณะเดียวกันกลิ่นอายพลังของเสิ่นเสี่ยวยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นางทะลวงระดับสร้างฐาน พลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ความเร็วเช่นนี้ช่างน่าเหลือเชื่อ
ต้องรู้ว่าเมื่อหลายวันก่อนเสิ่นเสี่ยวยังเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีพลังวิญญาณใดๆ เลย
ภายใต้การเสริมด้วยโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ากับคัมภีร์บรรพชนคบเพลิง พลังบำเพ็ญนางจึงเพิ่มขึ้นอย่างเร็วจนน่ากลัว
ไม่ใช่แค่นั้น เสิ่นเสี่ยวยังฝึกคัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้ากับคัมภีร์บรรพชนคบเพลิงสองวิชาสูงสุด
ดังนั้น นางจึงแผ่พลังเบิกฟ้าอันลี้ลับออกมา มากมายมหาศาล
นั่นคือการผสมกันระหว่างคัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้ากับคัมภีร์บรรพชนคบเพลิง จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้น
เพียงแต่ว่าพลังนี้ต่างกับเสิ่นเทียน
ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็มีกายเบิกฟ้าสวรรค์ประทาน จึงฝึกคัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้าได้ถึงจุดสูงสุดนานแล้ว
แต่เสิ่นเสี่ยวเป็นเพียงกายธรรมดา แม้จะผ่านการปรับแก้จากโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็ยังไปไม่ถึง
แต่เสิ่นเทียนไม่สนใจ เขากลับมีสีหน้าดีใจต่างหาก เพราะเขาพบปราณเบิกฟ้าในกายเสิ่นเสี่ยว ด้วยการเสริมจากวิชาสูงสุดทั้งสอง จึงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ปราณเบิกฟ้าจากเส้นเดียวในตอนแรกเติบโตมาเป็นหนึ่งก้อน ทั้งยังยกระดับขึ้นเรื่อยๆ
นี่คือผลมหัศจรรย์ที่มากับคัมภีร์บรรพชนคบเพลิง
หากให้เวลานางมากพอ หากเสิ่นเสี่ยวฝึกวิชาสูงสุดนี้จนชำนาญ บางทีอาจจะเดินบนเส้นทางของนางเองได้
ถึงอย่างไรคัมภีร์โบราณสองวิชานี้ก็มีความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด!
……
ตอนนี้เสิ่นเสี่ยวตื่นขึ้นมาช้าๆ
นัยน์ตานางขยับประกายสับสนเสี้ยวหนึ่ง
จากนั้นนางเพ่งสายตามองเสิ่นเทียน พลันเผยรอยยิ้ม
เสิ่นเสี่ยวเอ่ยขึ้น “อาจารย์ ข้ารู้สึกว่ามีกระแสอุ่นอยู่ในกาย”
เสิ่นเทียนยิ้ม “นี่คือพลังวิญญาณ ทำให้เจ้าแกร่งขึ้นได้!”
เขาอธิบายความรู้ในการบำเพ็ญให้เสิ่นเสี่ยวฟังง่ายๆ ช่วยนางฝึกฝน
เสิ่นเสี่ยวมีสีหน้าดีใจใหญ่ กำหมัดเล็กแน่น “เสี่ยวเสี่ยวจะตั้งใจฝึกบำเพ็ญ ภายภาคหน้าจะปกป้องอาจารย์เอง!”
เสิ่นเทียนยิ้มพลางลูบศีรษะนาง “ไปเถอะ เราออกจากที่นี่กันก่อน!”
เสิ่นเสี่ยวพยักหน้า ก่อนสองคนจะออกไปพร้อมกัน
……
สองคนพุ่งทะยานในทะเลอุดรไปเรื่อยๆ หมายจะตามหาขุมอำนาจห้าดินแดน
ระหว่างทางเจอวิญญาณร้ายออกอาละวาดตลอด ทุกที่มีแต่ควันไฟพวยพุ่ง ไฟสงครามดังสนั่นฟ้า การเข่นฆ่ามีให้เห็นทุกที่ ศพนอนเกลื่อนกลาด ชาวโลกไม่สงบสุข
เผ่าวิญญาณร้ายรุกรานมาครั้งใหญ่ สังหารสิ่งมีชีวิตห้าดินแดนไม่หยุดหย่อน
เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนกับเสิ่นเสี่ยวมีสีหน้าเย็นชาขึ้น เลือดในกายพวกเขากำลังเดือดพล่าน เพลิงโทสะพุ่งขึ้นฟ้า
เผ่าวิญญาณร้ายไม่มีความเป็นมนุษย์ที่กล่าวได้เลย แม้แต่เด็กเล็กคนธรรมดายังไม่ละเว้น ทำให้หลายพื้นที่กลายเป็นแดนมรณะ
เสิ่นเทียนเดินทางไปพลางสังหารไปพลาง สังหารเผ่าวิญญาณร้ายไปนับไม่หวาดไม่ไหว
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ในใจเสิ่นเทียนยิ่งเต็มไปด้วยความสงสัย
แม้ที่นี่จะถูกเผ่าวิญญาณร้ายรุกราน แต่ก็ยังมีผู้บำเพ็ญห้าดินแดน ทว่าในผู้บำเพ็ญพวกนี้ ไม่มีคนที่เสิ่นเทียนคุ้นตาเลย กระทั่งมรดกส่วนใหญ่ ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน
เสิ่นเทียนดวงตาวาววับ พูดงึมงำกับตัวเอง “ข้าข้ามมิติมากี่ปีกันแน่ หรือว่าสหายเก่าในอดีตพวกนั้นจะสิ้นชีพไปกันหมดแล้ว”
เสิ่นเทียนมีสีหน้าสงสัย ไม่เข้าใจจริงๆ
ที่นี่แปลกตามาก ไม่มีความรู้สึกร่วมกันเลย
เขาว่าจะไปดูที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ว่าจะเจอเบาะแสบ้างหรือไม่
…..
ตอนนี้เอง พลันปรากฏม่านสีดำยักษ์ลอยขึ้นมาตรงหน้า บดบังฟ้าบังดวงตะวัน
กลิ่นอายชั่วร้ายพุ่งขึ้นเส้นขอบฟ้า ปกคลุมเขตแดนนี้ไว้ทั้งหมด
หมอกดำลึกล้ำยิ่ง กลิ่นอายชั่วร้ายน่าสะพรึงถึงจิตใจคน
ใต้หมอกดำเป็นเมืองแห่งหนึ่ง เพียงแต่ตอนนี้เมืองเล็กไม่มีพลังชีวิตเลย ศพนอนเกลื่อนกลาด โลหิตไหลเป็นสายน้ำ
ที่นี่น่ากลัวยิ่งนัก เหมือนขุมนรกอยู่ทุกที่ ทำให้คนขนพองสยองเกล้า
เสิ่นเทียนเผยดวงตาเย็นชา ทำเสียงขึ้นจมูก “เผ่าวิญญาณร้ายอีกแล้ว! ยังเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดเผ่าวิญญาณร้ายออกมืออีก!”
กลิ่นอายพลังนั้นน่ารังเกียจยิ่ง ไปถึงระดับเตรียมเซียนแล้ว
บึ้ม!
เกิดเสียงดังสนั่นสะท้านฟ้าดิน
เสียงโกรธแค้นดังมาจากหมอกดำ “เดรัจฉาน แม้แต่คนธรรมดายังไม่ละเว้น!”
จากนั้นเป็นเสียงแหบแห้งแหลมเล็กดังขึ้น “เคี๊ยกๆ เอ๋าเลี่ย ข้ารู้ว่าเจ้าจะมา เจ้าทำลายแผนการใหญ่เผ่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ข้ามาหลายครั้งแล้ว เก็บเจ้าไว้ไม่ได้!
วันนี้ข้าจะกระชากวิญญาณเจ้ามาเซ่นไหว้ท่านวิญญาณศักดิ์สิทธิ์”
พลังบ้าคลั่งยิ่งแผ่มาจากหมอกชั่วร้าย สองคนปะทะกัน พลานุภาพพุ่งขึ้นฟ้าเก้าชั้น
เสิ่นเทียนเพ่งสายตามองเล็กน้อย ประกายเทพในดวงตาขยับวาววับ
เขาปลุกเนตรมรรคสวรรค์ประทานมองทะลุความว่างเปล่า พบว่าในหมอกชั่วร้ายมีสองร่างเงากำลังต่อสู้กันไม่หยุด
หนึ่งในนั้นสวมชุดคลุมเทา ถูกปราณชั่วร้ายปกคลุม เห็นได้ชัดว่าเป็นเตรียมเซียนเผ่าวิญญาณร้าย
กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่ไม่ขาดสาย เคลื่อนปราณชั่วร้ายไม่มีสิ้นสุดมาปกคลุมฟ้าบังดวงตะวัน
และตรงหน้าเขาเป็นบุรุษที่ถูกเรียกว่าเอ๋าเลี่ย
เขาสวมชุดนักรบเกราะมังกร มือถือทวนเทพมังกรเก้าทิศ พลังสั่นสะเทือนแปดทิศ
เอ๋าเลี่ยยืนกลางฟ้าดิน ทำให้หมื่นกฎเกณฑ์โหมซัดสาด ห้วงอากาศปั่นป่วน
เขาเหมือนราชานักรบที่สุดแห่งยุค ใช้กำลังปราบเหล่าเทพยดา องอาจห้าวหาญที่สุด
…..
เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย
เขารู้สึกว่าเอ๋าเลี่ยมีพลังบำเพ็ญแค่มหาอริยะสิบด่านเคราะห์
พลังบำเพ็ญสิบด่านเคราะห์ยังกล้าสู้กับเตรียมเซียนวิญญาณร้าย
หรือว่านี่จะเป็นโอรสสวรรค์สุดยอดที่ผงาดขึ้นในยุคหลังกัน
และในตอนนี้สองคนสู้กันแล้ว
“ฆ่า!”
เอ๋าเลี่ยคำรามเสียงเบา ยกทวนเทพมังกรเก้าทิศแทงไปข้างหน้า พริบตานั้นอำนาจเทพน่ากลัวหมุนม้วนออกไป
เกล็ดน้ำแข็งมากมายหมุนตลบ พลานุภาพโหมซัดสาดไปสามพันลี้
เอ๋าเลี่ยควงทวนยาว ลำแสงทวนปกคลุมโลก ยิงแสงเทพน่าพรั่นพรึงทะลวงฟ้าจักรวาล
ทว่าเตรียมเซียนวิญญาณร้ายมีสีหน้าเฉยชา ก่อนโบกมือตบไปทีหนึ่ง
ปราณชั่วร้ายมากมายรวมเป็นมือชั่วร้ายบังฟ้า ตบฟ้าดินแห่งนี้แตก ทำให้ลำแสงทวนมอดดับ
“ทวนออกมังกรเวียนว่าย!”
เอ๋าเลี่ยทำเสียงขึ้นจมูกเย็นชา เขาพุ่งขึ้น ปลายทวนยิงอานุภาพเทพไร้ขอบเขต
ทวนยาวเหมือนมังกรพุ่งขึ้นฟ้าเก้าชั้น
ทำให้ฟ้าดินพลิกกลับตาม
พริบตานั้นเตรียมเซียนวิญญาณร้ายถูกเขาทะลวง หน้าอกแตกเป็นรูยักษ์ ปราณชั่วร้ายกระจายไปรอบๆ
ตอนนี้เองห้วงมิติไหลหลาก มีเตรียมเซียนวิญญาณร้ายอีกตนก้าวออกมา จู่โจมเอ๋าเลี่ยจากข้างหลัง
บึ้ม!
เอ๋าเลี่ยกระเด็นถอยไป โลหิตไหลจากมุมปาก
เตรียมเซียนวิญญาณร้ายหัวเราะเยาะ “สังหารโอรสสวรรค์คนหนึ่งเท่ากับสังเวยโลหิตสิ่งมีชีวิตมากมาย!”
เขากำหมัดขวา ดาบโลหิตลอยขึ้นมาเล่มหนึ่ง สีแดงฉานแสบตา เต็มไปด้วยพลังชั่วร้าย
นี่คืออาวุธเซียนชั่วร้าย หลอมขึ้นจากชีวิตคน ชั่วร้ายถึงที่สุด
เตรียมเซียนตนนี้กวัดแกว่งดาบชั่วร้าย ปะทะกับเอ๋าเลี่ยคนนั้น
ขณะเดียวกัน เตรียมเซียนวิญญาณร้ายอีกตนปิดล้อมเข้ามา ร่วมมือกันจู่โจม
แก๊ง!
ดาบและกระบี่ตัดสลับ สะเก็ดไฟแตกกระเซ็น
แม้เอ๋าเลี่ยจะมีกำลังรบแข็งแกร่ง แต่รับมือกับเตรียมเซียนวิญญาณร้ายสองตนก็ยังลำบาก
เพียงชั่วครู่ก็ถูกโจมตีถอยไปไม่หยุด
“ตายเสียเถอะ!”
เตรียมเซียนวิญญาณร้ายควงดาบใหญ่ หมายจะฟันเขาเป็นสองส่วน
กรรซ์!
ตอนนี้เองเสียงมังกรดังสนั่นฟ้า
เอ๋าเลี่ยกลายเป็นมังกรดำหมื่นจั้งพุ่งขึ้นฟ้า อานุภาพน่าพรั่นพรึง
เขาควงกรงเล็บมังกรแหลมคม ฉีกห้วงอากาศ จู่โจมใส่เตรียมเซียนวิญญาณร้ายอย่างฉับพลัน
บึ้ม!
เพียงพริบตาเดียว ท้องนภาแตกกระจาย
กรงเล็บมังกรยักษ์บดบังดวงตะวัน ทำลายล้างทุกสิ่งอย่าง ถึงขนาดฉีกเลือดเนื้อหน้าอกเตรียมเซียนวิญญาณร้าย โลหิตอาบชุ่ม
เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนตาเป็นประกายเล็กน้อย
เอ๋าเลี่ย เป็นเผ่ามังกรดำ หรือว่าจะเป็นชนรุ่นหลังที่โชคดีรอดมาจากเกาะมังกรดำ
จากนั้นเสิ่นเทียนก็พบว่าเอ๋าเลี่ยไม่ใช่แค่เผ่ามังกรดำ สายเลือดมังกรในกายเขาสำเร็จถึงมังกรดำระดับสิบสอง!
นี่น่าเหลือเชื่อจริงๆ!
ต้องรู้ว่าสายเลือดที่แกร่งที่สุดของเกาะมังกรดำในตอนนั้นก็แค่มังกรดำระดับเก้า แน่นอนนี่ไม่รวมกายเทพมังกรของเสิ่นเทียน
กายเทพมังกรเหนือเกินกว่าที่สายเลือดมังกรดำระดับสิบสองจะเทียบได้
แต่นอกจากนี้ คุณสมบัติกายของเอ๋าเลี่ยเหนือกว่าอัจฉริยะทุกคนในเกาะมังกรดำตอนนั้น
……
เตรียมเซียนวิญญาณร้ายเงยหน้าคำรามขึ้นฟ้า “สมควรตาย กล้าทำร้ายร่างวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ข้า! ตายเสียเถอะ!”
เตรียมเซียนวิญญาณร้ายเผยหน้าตาดุร้าย กำดาบโลหิตวางตรงบาดแผล ย้อมเลือดชั่วร้าย
ทันใดนั้นแสงโลหิตพุ่งขึ้น น่าสะพรึงถึงจิตวิญญาณ ยิงพลังน่ากลัวยิ่งออกมา
พลังเลือดลมวนเวียนฟ้าเก้าชั้น ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี
เตรียมเซียนวิญญาณร้ายระเบิดพลัง รอบกายมีปรากฏการณ์น่ากลัวลอยขึ้น ทำให้คนหนาวสั่น
ขณะเดียวกัน เตรียมเซียนวิญญาณร้ายอีกตนยังกระตุ้นวิชาชั่วร้าย อัญเชิญมารร้ายมากมายพุ่งเข้ามา
เอ๋าเลี่ยหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ได้แต่ต้านไว้
สามคนพลันปะทะกันอย่างดุเดือด สู้กันหลายพันกระบวนท่า พลังน่ากลัวทำให้ห้วงอากาศแตกกระจาย
สุดท้ายเอ๋าเลี่ยต้านไม่ไหวถูกจู่โจมถอยไป เลือดนองพันลี้
เขาหน้าซีดขาว กัดฟันแน่น สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยอม
เตรียมเซียนวิญญาณร้ายสองตนนั้นก้าวเข้ามา พูดยิ้มเยาะ “จบแล้ว!”
พวกมันง้างดาบโลหิต เตรียมจะปลิดชีพเอ๋าเลี่ย
…..
โลกภายนอก เสิ่นเทียนเห็นภาพนี้พอดี
เขาหมุนตัวกลับมาพูดกับเสิ่นเสี่ยว “เสี่ยวเสี่ยว รอข้าอยู่ที่นี่!”
เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ปราณเบิกฟ้าหมุนม้วนออกไปปกป้องเสิ่นเสี่ยว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน