บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 60

บทที่ 60 หินแร่จากสนามรบบรรพกาล
“ท่านเซียน เราคิดถึงท่านมาก!”

“ท่านมาเหตุใดไม่แจ้งข้าก่อนล่ะขอรับ!”

ครั้นเห็นเสิ่นเทียน สี่คนก็รีบตรงเข้ามาต้อนรับเขา

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย รีบพูดว่า “ห้ามมากอดขาอีก!”

สี่คนมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเงียบๆ

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ผลสรุปของการวิเคราะห์ร่วมกันไม่ผิด

จะประจบท่านเซียนเหมือนเดิมเป็นครั้งที่สองไม่ได้

สยงเหมิ่งมีนิสัยตรงไปตรงมาจึงพูดออกมาทันที

“ท่านเซียนรู้อนาคตจริงๆ ท่านมาไขข้อสงสัยให้เราใช่หรือไม่”

เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย “ไขข้อสงสัยรึ ไขข้อสงสัยอะไร”

หลิวไท่อี่กล่าว “ท่านเซียนเอ้าเทียนอยู่สูงสุด เราอยากให้เถ้าแก่ซ่งรับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ของลัทธิขอรับ”

เถ้าแก่ซ่งรีบส่ายหน้า “มิกล้าๆ ท่านเซียน นะ…นี่มันไม่เหมาะสมเลย!”

เสิ่นเทียนฟังสี่คนเถียงกันพลางรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้คงไม่ใช่คนโง่หรอกกระมัง!

ลัทธิปรมาจารย์เซียนอะไร ก็แค่กลุ่มผู้คลั่งไคล้อย่างไม่เป็นทางการข้าไม่ใช่รึ!

ก็แค่ตำแหน่งผู้อาวุโสกลุ่มผู้คลั่งไคล้คนเดียว ควรค่าให้พวกเจ้าแย่งชิงกันรึ

เสิ่นเทียนขบคิดแล้วก็ว่า “ตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่คือใคร”

หลิวไท่อี่ยกมือขึ้นช้าๆ “ตอนนี้ข้ารับหน้าที่อยู่ขอรับ”

เสิ่นเทียนถามอีก “แล้วเหตุใดต้องให้เถ้าแก่ซ่งล่ะ”

หลิวไท่อี่ตอบอย่างจริงจัง “ข้าน้อยไร้คุณธรรมไร้ความสามารถ ไม่มีหน้าครองตำแหน่งเป็นหมาหวงก้างจริงๆ เถ้าแก่ซ่งเป็นเถ้าแก่น้ำดีที่มีชื่อเสียงของสวนหมื่นวิญญาณเรา

ถ้าเขารับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ ภายภาคหน้าลัทธิปรมาจารย์เซียนเราก็จะมีเงินทุน อีกอย่าง พี่น้องในลัทธิซื้อแร่วิญญาณยังได้ลดราคาด้วย แบบนี้จะดึงดูดให้พี่น้องมาร่วมลัทธิเรามากขึ้นไปอีก”

หลิวไท่อี่พูดจบ เถ้าแก่ซ่งหน้าดำขึ้นหลายระดับ

‘เหอะๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้ามันต้องมีเจตนาไม่ดี บอกจะให้ข้าเป็นผู้มีอำนาจของลัทธิปรมาจารย์เซียน มันก็แค่อยากให้ข้าเป็นคนโดนเอาเปรียบไม่ใช่รึ

คอยหมุนเวียนเงินทุนให้ลัทธิปรมาจารย์เซียนหรือ?’

เถ้าแก่ซ่งสื่อว่าต้องการให้เสิ่นเทียนพูดบ้าง

ไม่ว่าจะศิลาวิญญาณกี่ก้อนเขาก็ยินดีประเคนให้ เพราะนั่นคือการขอวาสนา

ปัญหาคือ สมาชิกพวกนั้นในลัทธิปรมาจารย์เซียนเป็นเพียงผู้มีวาสนาของท่านเซียนเท่านั้น

พวกเขาไม่ได้สนิทสนมกับเถ้าแก่ซ่ง มีสิทธิ์อะไรจะได้ลดราคา

เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าเจ้าพวกนี้อยากจะเอาเปรียบข้า!

……

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “มันก็มีเหตุผลอยู่บ้าง เถ้าแก่ซ่งเจ้าคิดว่าอย่างไร!”

ถ้าเสิ่นเทียนไม่อยู่ เถ้าแก่ซ่งจะปฏิเสธอย่างไม่ลังเลแน่นอน ปัญหาคือท่านเซียนเหมือนจะรู้อนาคตถึงได้มาถามด้วยตนเอง นี่ทำให้เถ้าแก่ซ่งอดเกิดความคิดบางอย่างขึ้นในใจมิได้

หรือท่านเซียนกำลังทดสอบความซื่อสัตย์ของข้าอยู่ ว่ายินดีจะถวายตัวเองเพื่อลัทธิปรมาจารย์เซียนหรือไม่?

พอนึกถึงตรงนี้ เถ้าแก่ซ่งก็กัดฟัน

ขอแค่ได้ต่อวาสนากับท่านเซียน ข้าขอสู้สุดใจ!

เขาพยักหน้าว่า “ข้ายินดีสร้างคุณูปการเพื่อลัทธิเรา ถ้าข้าเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของลัทธิ ก็ยินดีจะแบกรับเงินทุนทั้งหมดของลัทธิ อย่างเช่นสาวกลัทธิค้นวิญญาณประเมินแร่ในร้านข้า จะได้สิทธิพิเศษแปดจุดแปด!

อย่างเช่นสาวกลัทธิเปิดได้ของดีในร้านข้า จะลดค่าผ่าหินให้ครึ่งหนึ่ง”

…..

พอได้ฟังปณิธานอันยิ่งใหญ่ของเถ้าแก่ซ่งแล้ว

เสิ่นเทียนอึ้งไปเลย

ใช้ได้เลย!

ตาแก่นี่ไม่เสียดายเลยหรือ!

แม้กำไรของร้านแร่วิญญาณจะมากน่าดูจริงๆ แต่การลดราคาอย่างเถ้าแก่ซ่งคงมีรายได้ลดน้อยลงมากในช่วงเวลาสั้นๆ แน่นอนถ้าลัทธิปรมาจารย์เซียนยิ่งใหญ่ก็จะมีลูกค้ามาร้านวิญญาณสวรรค์จำนวนมาก

ส่วนได้ส่วนเสียในนั้น ต้องดูว่าจากนี้ลัทธิปรมาจารย์เซียนจะพัฒนาไปเป็นอย่างไร

ไม่ว่าอย่างไร สำหรับเถ้าแก่ซ่งแล้วนี่คือการเดิมพันกล้าได้กล้าเสีย

มีความเด็ดขาดแบบนี้ได้ ตาแก่นี่ไม่ธรรมดาเลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน