บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 61

บทที่ 61 กำลังจะเกิดเรื่องราวใหญ่โต
เมื่อเห็นการเลือกของเสิ่นเทียนแล้ว จางอวิ๋นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงนางจะไม่ได้ศึกษาการค้นวิญญาณประเมินแร่พิเศษ แต่ก็เติบใหญ่ในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตั้งแต่เยาว์วัย เคยพบปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณมาไม่น้อย

ปกติหินแร่วิญญาณที่มีรอยแตกทุกส่วนแบบนี้จะถูกเรียกว่า ‘แร่ลายแมงมุม’

แร่ชนิดนี้คือแร่ขยะที่เป็นที่ยอมรับ เพราะชั้นป้องกันแร่วิญญาณเสียหายแล้ว

แม้ข้างในจะมีสมบัติอะไรจริงๆ ก็สูญเสียพลังแก่นรากไปได้ง่ายมาก

นานวันเข้า ต่อให้เป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดก็ยังเสียพลังแก่นรากไปจนหมดสิ้น

…….

“สหายเสิ่น เจ้าคิดว่าในนี้มีของอยู่จริงๆ รึ”

จางอวิ๋นซีพูดด้วยความจนปัญญา “ดูมันไว้ใจไม่ค่อยได้เลยนะ!”

พอเห็นว่าจางอวิ๋นซีกล้าสงสัยการเลือกของเสิ่นเทียน เถ้าแก่ซ่งก็โมโหแล้ว

เขาแค่นเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง “ในเมื่อแม่นางให้ท่านเซียนช่วย ไฉนถึงไม่เชื่อท่านเซียนล่ะ ทักษะวิชาวิญญาณของท่านเซียนส่องประกายวาววับมาแต่โบราณกาล คิดหรือว่าจะสู้แม่นางน้อยไม่ได้”

จางอวิ๋นซีมองเถ้าแก่ซ่งด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าคิดจะหลอกกันรึ”

แร่ลายแมงมุมเป็นแร่ขยะที่เป็นที่ยอมรับในวงการแร่วิญญาณ แทบจะไม่มีทางเปิดได้สมบัติล้ำค่าเลย

เว้นแต่ในนั้นจะผนึกทองคำเซียน ดินดำ หรือวารีแท้ที่ไม่ย่อยสลายไปตามกาลเวลา แต่สมบัติอัศจรรย์ฟ้าดินเช่นนี้หายากยิ่ง มองไปทั้งแดนบูรพายังมีจำนวนนับนิ้วได้

ปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณหลายคนมุมานะบากบั่นเที่ยวสืบหาหลายร้อยปีปานหนึ่งวัน ก็ยังหาเจอยาก

แม้แร่นี้จะใหญ่มาก ทั้งยังขุดมาจากสนามรบบรรพกาลจริงๆ แต่มองจากรอยแตกทั่วทั้งหินแล้ว มันไม่มีทางมีค่าถึงหนึ่งแสนศิลาวิญญาณ อัตราที่จะเปิดได้สมบัติล้ำค่าสูงสุดต่ำเกินไปจริงๆ!

……

คำพูดของจางอวิ๋นซีทำให้เถ้าแก่ซ่งหน้าแดง

“คนสว่างไม่พูดจาลับๆ ล่อๆ ข้ายอมรับว่ามีส่วนที่ข้าขึ้นราคาด้วย ข้าซื้อแร่ลายแมงมุมนี่มาในราคาห้าหมื่นศิลาวิญญาณ และที่แขวนราคาไว้หนึ่งแสนศิลาวิญญาณ ก็เป็นกฎการตั้งราคาปกติในการค้าอยู่แล้ว แต่ในเมื่อท่านเซียนเลือกแร่นี้ ข้ากล้ารับรองเลยว่าจ่ายหนึ่งแสนศิลาวิญญาณนี่ได้กำไรมหาศาลแน่นอน!”

เถ้าแก่ซ่งยืดคอพูดอย่างถูกต้องชอบธรรม

“ถ้าแม่นางซื้อหินแร่นี้ไม่ไหวก็จะไม่ซื้อก็ได้ แต่ข้าห้ามเจ้าสงสัยท่านเซียน ถ้าเจ้าไม่ซื้อแร่นี้ ข้าจะผ่าแร่นี้เอง แล้วเอาสมบัติในนั้นออกมาทันที จะได้ให้เด็กน้อยอย่างเจ้าได้ประจักษ์ความสามารถของท่านเซียนชัดๆ!”

พูดจบ เถ้าแก่ซ่งก็มองเสิ่นเทียนด้วยความเฝ้ารอคอย

“ถ้าท่านเซียนจะซื้อ จ่ายห้าหมื่นศิลาวิญญาณก็เอาไปเลย ข้าจะผ่าแร่ให้ท่านโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วย!

ไม่อย่างนั้นท่านเก็บไว้เองเถอะ! แม่นางหนูนี่จะต้องเสียใจภายหลัง!”

เจินจื้อเจี่ยกับสยงเหมิ่งที่อยู่ข้างๆ มองจนอึ้งไปแล้ว

หลิวไท่อี่ตีอกชกหัว ทำหน้าเสียดาย

โอกาสดีเยี่ยมที่จะได้ประจบท่านเซียนอีกครั้งเฉียดผ่านตัวเขาไป!

เพราะเหตุใด เหตุใดเถ้าแก่ซ่งถึงแทรกเข้าไปได้อย่างเลิศล้ำสุดยอดเช่นนี้

ส่วนข้าเองก็รู้อยู่ว่าควรทำอย่างไร แต่กลับช้ากว่าเถ้าแก่ซ่งไปหนึ่งก้าวหรือ

สวรรค์ ในเมื่อให้กำเนิดอี่แล้วไฉนต้องให้กำเนิดซ่งด้วย!

อีกด้าน จางอวิ๋นซีมองเสิ่นเทียนกับเถ้าแก่ซ่ง

การเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ในสายตานางเหมือนหน้าม้าแร่ในสวนแร่วิญญาณอย่างยิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะเสิ่นเทียนดูไม่เหมือนคนเลว ตอนนี้จางอวิ๋นซีคงโมโหไปแล้ว!

เฮ้อ ตกลงควรจะเชื่อเขาดีหรือไม่!

……..

คิ้วภายใต้หน้ากากขนหงส์ของจางอวิ๋นซีขมวดขึ้นเล็กน้อย

สารภาพตามตรง นางรู้ว่าปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณบางคนมีฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ พวกเขาเปิดได้สมบัติอัศจรรย์สะเทือนโลกได้จากในแร่ขยะที่มีสภาพแย่

แต่เสิ่นเทียนดูหนุ่มไปจริงๆ และที่สำคัญกว่านั้นคือ ตอนที่เสิ่นเทียนเลือกแร่ จางอวิ๋นซียังสังเกตปฏิกิริยาเป็นพิเศษ

นักชีพจรวิญญาณแทบทุกคนเวลาใช้วิชาลับค้นวิญญาณจะใช้จิตสัมผัสของตน ด้วยเหตุนี้ถ้าเป็นผู้มีขอบเขตพลังสูงสัมผัสอย่างละเอียด จะจับระลอกคลื่นจิตสัมผัสได้

แต่จากที่จางอวิ๋นซีสังเกต ตอนที่เสิ่นเทียนตรวจดูแร่วิญญาณพวกนั้นเขาไม่ได้ใช้วิชาลับกระแสจิตเลย

เขาเพียงแค่มองรูปลักษณ์แร่วิญญาณพวกนี้ตามอำเภอใจง่ายๆ แล้วก็เลือกเป้าหมาย

ต่อให้เป็นปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณพวกนั้นก็ไม่มีทางมีความสามารถเช่นนี้

แร่ลายแมงมุม ไม่ต้องใช้วิชาลับกระแสจิตจะมองออกได้อย่างไร

เรื่องนี้ล้มล้างความรู้ความเข้าใจของจางอวิ๋นซีไปหมด!

……

จางอวิ๋นซีมองแร่ลายแมงมุมตรงหน้า รู้สึกสับสนในใจเล็กน้อย

……….

เถ้าแก่ซ่งถืออุปกรณ์มีดแบบพิเศษที่ใช้ผ่าแร่เดินมาตรงหน้าแร่ลายแมงมุม

สารภาพตามตรง หลายสิบปีมานี้เขาไม่เคยผ่าแร่เองเลย

เถ้าแก่ซ่งสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะกวัดแกว่งมีด

ทักษะการใช้มีดผ่าแร่ของเขาลึกล้ำอย่างยิ่ง เมื่อเขากวัดแกว่งมีดอย่างต่อเนื่อง เปลือกหินก็ถูกออกมาทีละชั้น

หินแร่วิญญาณยักษ์สูงเท่าคนในตอนแรกลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว

จางอวิ๋นซีมองหินแร่วิญญาณนั้นอย่างเย็นชา ไม่เกิดคลื่นอารมณ์ใดๆ ในใจ

นางมั่นใจในศักยภาพและสายตาของตนอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นปรมาจารย์ชีพจรวิญญาณระดับดวงจิตดรุณก็ไม่มีทางหลบสัมผัสของนางได้

ในเมื่อนางสัมผัสไม่ได้ว่าเสิ่นเทียนใช้จิตสัมผัสตรวจสอบ เช่นนั้นเสิ่นเทียนก็ไม่ได้ตรวจสอบเลย

ในสถานการณ์แบบนี้ นางคิดไม่ออกเลยว่าเสิ่นเทียนมองออกได้อย่างไรว่าในแร่มีสมบัติ!

สหายเสิ่น เจ้ามีใบหน้าสง่าผ่าเผยทั้งยังจิตใจดีบริสุทธิ์ ข้าจะไม่ยอมให้เถ้าแก่ชั่วช้าคนนี้ดึงให้เจ้าหลงผิดเด็ดขาด!

ใช่ ตอนนี้ในสายตาจางอวิ๋นซี เสิ่นเทียนคือหน้าม้าที่เถ้าแก่ซ่งหามา นางจะช่วยให้เสิ่นเทียนกลับเนื้อกลับตัวใหม่

จะไม่ให้ทำผิดร่วมกับเถ้าแก่ซ่งต่อไปเด็ดขาด!

……

เมื่อหินแร่เล็กลงเรื่อยๆ ทุกคนก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกตินิดๆ

เสิ่นเทียนเดินช้าๆ มาตรงหน้าต่างร้านวิญญาณสวรรค์ ก่อนเงยหน้ามองฟ้ามืดมิด

ก่อนจะเห็นว่าตอนนี้มีเมฆดำหนาทึบมารวมกันบนฟ้าเหนือสวนหมื่นวิญญาณ

เสียงฟ้าผ่าดังกึกก้องกลางชั้นเมฆหนานั้น

ธงตั้งตรงของสวนหมื่นวิญญาณส่งเสียงดังพึ่บพั่บ!

เหมือนกำลังจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้น!

……………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน