เสิ่นเทียนถือกระจกด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจ
ตัวเองในกระจกตอนนี้ยังคงมีคิ้วกระบี่ดวงตาดารา หล่อเหลาอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลจากการรับมรดกวิชาหรือไม่ ตรงระหว่างคิ้วยังปรากฏสัญลักษณ์หนึ่งด้วย
สัญลักษณ์นั้นเป็นสีทอง รูปทรงคล้ายกับสายฟ้าสายหนึ่ง ดูยิ่งใหญ่ทรงพลัง
แต่นี่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวงรัศมีเหนือศีรษะเสิ่นเทียนในยามนี้ เหนือวงรัศมีเขาไม่มีสีดำแม้แต่น้อย กลิ่นอายความซวยสีดำทั้งหมดหายไปแล้ว
บนวงรัศมีสีขาวส่องแสงพร่างพราว กระทั่งเสิ่นเทียนยังเห็นว่ารอบนอกวงรัศมีสีขาวเกิดแสงสีเขียวขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับพลังชีวิตเข้มข้น
แม้แสงสีเขียวนี่จะไม่ถือว่าสว่างไสวอะไรเป็นพิเศษ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือการเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่คนดวงซวยคนนั้นในอดีตอีกแล้ว
จากนี้เลี้ยงนก ไม่ต้องกังวลว่าจะจมน้ำตายในสระน้ำอุทยานหลวงอีก
จากนี้ปลูกดอกไม้ ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนเด็กดื้อจากตำหนักข้างๆ มาถอนทิ้งอีก
จากนี้เป็นวีรบุรุษช่วยหญิงงาม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเหยียบเปลือกกล้วยวิญญาณอีก
ข้าไม่ใช่เด็กหนุ่มคนนั้นในอดีตแล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ต่อจากนี้ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ให้มันสีเขียวสดขึ้นเรื่อยๆ!
…….
เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ้มจนแม้แต่หนวดตรงมุมปากยังกระดกขึ้น
“องค์ชาย เรื่องอะไรที่ทำให้ท่านมีความสุขเช่นนี้รึ”
กุ้ยกงกงกับฉินเกาเดินมาทางเสิ่นเทียนก่อนเอ่ยถาม
“ไม่มีอะไร ตระหนักรู้การบำเพ็ญเล็กน้อยเท่านั้น”
เสิ่นเทียนมองกุ้ยกงกงกับฉินเกา ก่อนจะอดอึ้งไปมิได้ เพราะเหนือศีรษะสองคนนี้ก็ปรากฏสัญลักษณ์สีทองเช่นกัน สัญลักษณ์สีทองนี้เหมือนกันบนหน้าผากเสิ่นเทียนมาก แทบจะทุกประการ
สองคนผมตั้งยุ่งเป็นกระเซิง หน้าดำมืด ประกอบกับสัญลักษณ์สีทองสว่างจ้านั่น ดูๆ ไปอย่าให้เอ่ยเลยว่ามันเฉียบคมเพียงใด
เสิ่นเทียนเหมือนนึกอะไรออกจึงรีบมองพวกหลิวไท่อี่ ก่อนจะพบว่าบนศีรษะหลิวไท่อี่ เจินจื้อเจี่ยและสยงเหมิ่งก็ปรากฏสัญลักษณ์เช่นกัน
เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เสิ่นเทียนถึงรู้สึกว่าสัญลักษณ์บนศีรษะตนถึงสีเข้มสุด
พวกกุ้ยกงกงและฉินเการองลงมา ส่วนพวกหลิวไท่อี่จางลงมาอีกเล็กน้อย
อีกทั้งหลังปรากฏสัญลักษณ์แล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกว่าพลังวิญญาณคบเพลิงในร่างกายเหมือนจะกะปรี้กระเปร่าขึ้น ราวกับเด็กน้อยเจอของอร่อยอะไรบางอย่าง
………..
“นี่ข้าเป็นอะไร” ตอนนี้เอง เถ้าแก่ซ่งฟื้นสติขึ้นมา
เขาหยัดกายขึ้นมาเนิบๆ ใบหน้าดำยิ่งกว่ากุ้ยกงกงเสียอีก
จุดที่ควรค่าเอ่ยถึงคือ ตรงระหว่างคิ้วเขาก็ปรากฏสัญลักษณ์สีทองเช่นกัน อีกทั้งสัญลักษณ์สีทองของเถ้าแก่ซ่งยังเข้มกว่าของพวกกุ้ยกงกง
เสิ่นเทียนคิดอะไรได้ จึงมองไปที่วงรัศมีเหนือหัวของทุกคน ก่อนจะพบว่าหลังจากปรากฏสัญลักษณ์สีทองแล้ว วงรัศมีของทุกคนเปลี่ยนไป
ระดับความสว่างของวงรัศมีทุกคนเพิ่มขึ้นมาก
จากคนที่ตอนแรกเขียวอ่อน ตอนนี้เป็นเขียวเข้มหรือเขียวแก่
คนที่ตอนแรกสีเขียวอมแดง ตอนนี้แสงสีแดงมากขึ้น กระทั่งปรากฏจุดสีแดง
โดยเฉพาะเถ้าแก่ซ่ง เดิมทีวงรัศมีเป็นสีเขียวอ่อน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นวงรัศมีสีเขียวมีจุดแดงแล้ว
เรียกได้ว่าดวงชะตาแกร่งขึ้น เหมือนลอกคราบใหม่!
เสิ่นเทียนอดคาดเดาอย่างหนึ่งในใจมิได้ หรือว่าสัญลักษณ์สายฟ้านี้จะเกี่ยวข้องกับจี้หยกคู่นั้น เพราะทุกคนได้แบ่งโชควาสนาของจางอวิ๋นซีไปด้วยเล็กน้อย ดังนั้นดวงชะตาของทุกคนที่นี่จึงเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย
พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็เอ่ยขึ้น “ทุกคนตรวจสอบตัวเองหน่อยว่ามีอะไรเปลี่ยนไปหรือไม่”
เมื่อได้ฟังคำพูดเสิ่นเทียนแล้ว ทุกคนอดอึ้งไปมิได้ ก่อนจะพบสัญลักษณ์สายฟ้าสีทองตรงระหว่างคิ้วคนอื่น
“ซู้ด เถ้าแก่ซ่ง ทำไมตรงระหว่างคิ้วถึงมีภาพสายฟ้าล่ะ?”
“เจ้ามีหน้ามาว่าข้ารึ บนหน้าผากเจ้ามีสัญลักษณ์โผล่มาต่างหากล่ะ!”
“บนหัวพวกเจ้าเหมือนจะมีสัญลักษณ์นี้กันหมดนะ หือ ข้าก็เหมือนกัน!”
…….
ทันใดนั้น เถ้าแก่ซ่งเหมือนนึกอะไรออก
เขาร้องตกใจว่า “หรือว่าจะเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน