บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 66

บทที่ 66 ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมองวิชาแปลงโฉมข้าออก
อีกด้านหนึ่ง

เถ้าแก่ซ่งมองประกายสายฟ้าที่กำลังหมุนวนตรงปลายนิ้วตนก่อนมองเสิ่นเทียนแวบหนึ่ง ประกายในแววตาเขาพลันเร่าร้อนขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ท่านเซียน ท่านคาดการณ์ผลลัพธ์เช่นนี้ไว้ก่อนแล้ว”

คาดการณ์ผลลัพธ์เช่นนี้ไว้ก่อนแล้วหรือ

แน่นอนว่าไม่มีทางคาดการณ์ได้

…….

ความสามารถของเสิ่นเทียนในตอนนี้ทำได้แค่มองโชคลิขิตของอีกฝ่ายด้วยหางตาของพระเจ้า ถ้าเป็นสิ่งที่เขาเข้าไปแทรกแซงแล้วจะเกิดการแปรเปลี่ยน เขาจะมองไม่เห็น

อย่างเช่นคัมภีร์มารสู่สุริยันที่เสิ่นเทียนให้กุ้ยกงกง แน่นอนว่านี่คือโชคลิขิตอันยิ่งใหญ่ แต่เสิ่นเทียนไม่เห็นล่วงหน้าว่าตนเองจะให้คัมภีร์มารสู่สุริยันกับเขา

เพราะอนาคตมีทิศทางนับไม่ถ้วน เสิ่นเทียนก็คือตัวแปรในนั้น

เพราะโชคลิขิตเหล่านั้นที่เกิดขึ้นระหว่างหนึ่งความคิดเขา เขาย่อมไม่อาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้า

……

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนไม่เห็นโชคลิขิตเหนือหัวพวกเถ้าแก่ซ่ง

คิดๆ ดูแล้วถ้าดำเนินไปตามเรื่องราวก่อนหน้านี้ พวกเขาจะไม่ได้รับแก่นรากอัสนีเทพ แต่บางทีเพราะเหตุผลที่โยงใยเป็นแมงมุม ทำให้ผลลัพธ์นี้ถูกเปลี่ยน

โชควาสนาพิเศษที่เกิดขึ้นเพราะเสิ่นเทียนแบบนี้ เขาก็ไม่อาจคาดการณ์ได้

แต่โอกาสดีๆ แบบนี้ เขาจะบอกว่าคาดการณ์ไม่ได้หรือ

เสิ่นเทียนยิ้มพลางลูบหนวดสองข้างของตน “เจ้าเดาสิ”

คำพูดของเสิ่นเทียนทำให้ประกายความเลื่อมใสในแววตาเถ้าแก่ซ่งเด่นชัดยิ่งขึ้น

ขอแค่ ‘กอดขาท่านเซียน’ ไว้ไม่สั่นคลอน ท่านเซียนก็จะไม่อยุติธรรมกับตาแก่อย่างข้าจริงๆ!

ดีนะที่ก่อนหน้านี้ตอนที่เดิมพันกับยัยเด็กสาวนั่น ข้าไม่ได้ปอดแหก ไม่อย่างนั้นจะได้แก่นรากอัสนีเทพนี่ได้อย่างไร

หืม ยัยเด็กนั่นไปไหนแล้ว

……

เถ้าแก่ซ่งงุนงงเล็กน้อย “ท่านเซียน ยัยหนูนั่นล่ะ!”

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย “ยัยหนูรึ เถ้าแก่ซ่งเจ้ายังกล้าเรียกแบบนั้นรึ”

เถ้าแก่ซ่งกล่าว “กล้าสงสัยการเลือกของท่านเซียน ยัยหนูนี่เป็นใครกัน”

เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้มชั่วร้าย “นางคือสตรีศักดิ์สิทธิ์จากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ จางอวิ๋นซี”

เสิ่นเทียนเพิ่งพูดจบ เถ้าแก่ซ่งก็ตาเหลือกขาวล้มลงกับพื้น

พระเจ้าท่านเซียนของข้า ยัยหนูนั่นคือสตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ

ท่านเซียนหาที่สิ้นสุดมิได้ ข้าจะเป็นลม!

เถ้าแก่ซ่งมองเสิ่นเทียนด้วยความคับอกคับใจ “ท่านเซียน ข้าทำเพื่อปกป้องเกียรติของท่าน ถึงได้ปากกล้ากับท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์

ทะ…ท่านช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่!”

เห็นเถ้าแก่ซ่งร้อนใจจนร้องไห้แล้ว เสิ่นเทียนถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

เขายิ้มว่า “วางใจเถอะ! เห็นแก่หน้าข้า นางจะไม่สร้างความลำบากให้เจ้า”

ในมุมมองของเสิ่นเทียน จางอวิ๋นซีไม่เหมือนคนใจแคบคิดเล็กคิดน้อย

อีกทั้งครั้งนี้ยังเปิดได้จี้หยกมังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ในร้านวิญญาณสวรรค์ นี่เป็นเรื่องน่ายินดียิ่งในรอบหมื่นปีของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

ในเรื่องนี้ ใครจะมีเวลามาจัดการตาแก่เถ้าแก่ซ่ง!

ทว่ากำไรร้อยละสิบที่ต้องแบ่งจากการผ่าแร่ เห็นทีเถ้าแก่ซ่งคงจะอดแล้ว

ถ้าเขาไปเอาที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไม่แน่ว่าอาจจะได้โชควาสนามาบ้างก็ได้

ปัญหาคือเขากล้าหรือไม่

เห็นแก่หน้าท่านเซียน นางจะไม่สร้างความลำบากให้ตาแก่อย่างข้ารึ

เสิ่นเทียนรับปากไปอย่างนั้น แต่กลับทำให้เถ้าแก่ซ่งเคารพยำเกรงมากขึ้น สมกับเป็นท่านเซียน ไม่อยากเชื่อว่าจะมีฐานะเทียบเท่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

มิหนำซ้ำแม้แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ยังให้เกียรติท่านเซียน

เถ้าแก่ซ่งพลันนึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านี้ตอนเดิมพันกับท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์ นางบอกว่าถ้าได้ของดีจะให้ท่านเซียนเปล่าๆ ไปเลย

ดังนั้นก่อนหน้านี้ ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์ตั้งใจประจบท่านเซียนหรอกหรือ

เฮือก หรือว่าฐานะของท่านเซียนจะสูงส่งกว่าท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์?

เถ้าแก่ซ่งอดตกตะลึงในใจมิได้

สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็จะแย่งชามข้าวกับพวกเขาด้วยหรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน