อย่าว่าแต่ขนาดพอเหมาะมากเลย แถมยังมีกลิ่นหอมจางๆ ด้วย
อืม หน้ากากบดบังใบหน้าข้าหมด พี่หกก็น่าจะจำข้าไม่ได้แล้วกระมัง!
สวมหน้ากากแล้วหยิบกระจกออกมาดู
เสิ่นเทียนแอบชื่นชมในใจ นี่มันใบหน้าอันสมบูรณ์แบบ!
เขาตามเถ้าแก่ซ่งเดินมาถึงห้องลับร้านวิญญาณสวรรค์
เมื่อผลักประตูใหญ่ห้องลับ คุณชายซ่งกำลังยืนพิงสัปหงก ทางด้านเสิ่นเอ้ามีรอยฝ่ามือกับลูกกลมๆ สีแดงเล็กบนใบหน้า เหมือนจะดีกว่าก่อนหน้านี้มากแล้ว
เสิ่นเทียนเห็นเสิ่นเอ้าที่โดนเชือกคล้องคอและมัดแขนสองข้างไว้ข้างหลังบนไม้กางเขนในสภาพอนาถาแล้ว มุมปากกระตุกเล็กน้อย “ซี้ด พวกเจ้าตบแต่หน้าอย่างเดียวเลยนี่!”
……..
เสิ่นเทียนเพิ่งพูดจบ ก็เห็นเสิ่นเอ้าที่ตอนแรกยังหงอยเหงาพลันตาเป็นประกายขึ้นมา
เขาพลันมองเสิ่นเทียน นัยน์ตามีความหวาดกลัวสามส่วนและตื่นกลัวเจ็ดส่วน
“เสียงนี้คุ้นหูมาก! อ่า หรือว่าเจ้าคือ? น้องสิบสามรึ”
บรรลัย นี่ยังฟังออกอีกรึ
เสิ่นเทียนรู้สึกเย็นวาบข้างหลัง นิ่งอึ้งไปทั้งตัวแล้ว!
เขารีบส่ายหน้า “เปล่า ข้าไม่ใช่ อย่าพูดไร้สาระ”
เสิ่นเอ้าจ้องเสิ่นเทียน ประกายความตื่นกลัวในตาเขาเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ
ข้าก็ว่าแล้วไง! เหตุใดข้าถึงได้ซวยเช่นนี้!
พอมาถึงสวนหมื่นวิญญาณก็ถูกปองร้ายอย่างน่าประหลาด
พูดไปพูดมาน้องสิบสามไอ้เด็กดวงซวยนี่ก็อยู่สวนหมื่นวิญญาณเหมือนกัน!
รู้อย่างนี้แต่แรกข้าไม่ควรมาที่นี่เลย เจอกับหายนะที่ไม่มีเค้าลางมาก่อนจริงๆ!
เสิ่นเอ้าพิจารณาเสิ่นเทียนก่อนจะยิ้มเจื่อน “น้องสิบสาม อย่าก่อเรื่องเลย เจ้าเหลือบมองรองเท้าของเจ้าหน่อย นั่นสั่งทำพิเศษสำหรับราชวงศ์”
เสิ่นเทียนอึ้งไป เขาก้มหน้ามองดูอย่างละเอียด
ตนสวมรองเท้าแพรดำไหมทองจริงๆ แล้วด้านข้างรองเท้านั่นยังฝังจี้หยกสีมรกตอีกชิ้น ด้านบนแกะสลักคำว่า ‘สิบสาม’
……..
ซี้ด พี่หกก็ยังเป็นพี่หก
สมกับเป็นอัจฉริยะที่พานพบได้ยากในรอบร้อยปีของอาณาจักรต้าเหยียน ใบหน้าปูดบวมจนแทบไม่เห็นดวงตาแล้ว สายตายังเฉียบคมถึงเพียงนั้น
เสิ่นเทียนนับถือในใจยิ่งนัก ทว่าก็จะให้เผยฐานะแท้จริงไม่ได้เด็ดขาด
เขาจึงกดเสียงต่ำลง เดินมาทางเสิ่นเอ้าช้าๆ “ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากำลังพูดอะไร”
“หยุดก่อน! ช่วยไม่ได้ ฟังไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เจ้ายืนพูดอยู่ตรงนั้นเถอะ”
เสิ่นเอ้ารีบพูด “พี่เข้าใจ เจ้าไม่ใช่น้องสิบสาม เจ้าคือมือสังหารไร้ความปรานี ถูกหรือไม่!”
เสิ่นเอ้าพูดอย่างจำใจ “น้องพี่เจ้าจะจับพี่เป็นตัวประกันเพื่ออะไรกัน? หนึ่งพี่ไม่เคยคิดแย่งชิงตำแหน่งจักรพรรดิ สองไม่เคยรังแกเจ้าด้วย อีกอย่างแม้เจ้าจะสังหารพี่ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับเจ้าเลย!”
เสิ่นเอ้าพูดปากเปียกปากแฉะ ตอนนี้เขาอยากจะมีชีวิตรอดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาอยากจะหายไปจากที่นี่ทันที ไปไกลเท่าไรยิ่งดี จากนี้จะมาไม่ที่เฮงซวยแบบนี้อีก!
ความจริงก็ต้องโทษตัวข้าเองเหมือนกัน รู้ทั้งรู้ว่าก่อนหน้านี้สัมผัสน้องสิบสามทางอ้อม เหตุใดถึงยังออกจากตำหนักอีก?
ตอนนี้เอาล่ะ ไม่ได้สัมผัสทางอ้อม แต่เผชิญหน้าตรงๆ เลย
เหตุใดจู่ๆ ถึงมีความรู้สึกว่าจะออกจากห้องนี้ไม่ได้ก็ไม่รู้!
…….
เสิ่นเทียนมององค์ชายหกเสิ่นเอ้าที่ทำหน้าตื่นกลัวพลางถอนหายใจด้วยความจนปัญญา
พี่หกนี่ มองข้าเป็นคนโง่รึ
เจ้าบอกว่าไม่เชื่อว่าข้าคือน้องสิบสาม แต่สรุปกลับมาเรียกน้อง
นี่แสดงให้เห็นเลยว่าอ่านวิชาแปลงโฉมเวอร์ชันอัปเกรดของข้าออก เจ้าจะให้ข้าวางใจปล่อยเจ้าไปได้อย่างไร ถ้าเกิดช่วยเจ้าแล้ว โกรธแค้นอยู่ในใจแล้ววางแผนปองร้ายข้าล่ะจำทำอย่างไร
ถึงตอนนี้เหนือหัวข้าจะเป็นสีเขียวแล้ว ไม่ได้ดวงซวยบรรลัยอย่างเมื่อก่อนอีก
แต่ไม่กลัวโจรขโมยก็ต้องกลัวโจรคิดถึงสิ!
มีอัจฉริยะวงรัศมีสีเขียวอมแดงอย่างเสิ่นเอ้าเคียดแค้นอยู่ เสิ่นเทียนมักจะรู้สึกไม่สบายใจ
…….
ตอนนี้ เถ้าแก่ซ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พอจะเข้าใจแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน