เถ้าแก่ซ่งมองคุณชายซ่งด้วยสายตาอ่อนประกายลง “พ่อไม่ได้บอกเจ้าเป็นครั้งแรกสักหน่อย รอฝ่าบาทองค์ชายหกกินไปเม็ดหนึ่งแล้ว เจ้าก็ต้องกินด้วยเม็ดหนึ่ง”
คุณชายซ่งมุมปากกระตุก “เพราะเหตุใด เหตุใดต้องกินด้วย กลัวว่าข้าจะไม่ระวังพูดเรื่องนี้ออกไปรึ ท่านวางใจ ข้าจะปิดปากให้เหมือนขวด!”
เถ้าแก่ซ่งส่ายหน้าช้าๆ ก่อนอดมองไปที่ไม้กางเขนกับแส้ข้างๆ มิได้
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าฟังฐานะท่านเซียนเพี้ยน มันจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่เช่นนี้หรือ ไอ้ลูกอกตัญญู เจ้าคิดว่าก่อนที่พ่อจะให้เจ้ากินโอสถลบความจำ จะไม่ทุบตีเจ้าในสิ่งที่สมควรโดนรึ”
คุณชายซ่งงุนงง
บัดซบ ตาแก่นี่โหดร้ายกับข้าเช่นนี้เลย
ข้ายังเป็นบุตรชายแท้ๆ ของเขาอยู่หรือไม่
……
เมื่อเห็นการแสดงของพ่อลูกตระกูลซ่งแล้ว เสิ่นเอ้ากับเสิ่นเทียนมองหน้ากัน
ต้องพูดว่าเถ้าแก่ซ่งท่านนี้เป็นคนโฉดเลย!
ทุบตีบุตรชายตนเองเสร็จยังให้กินโอสถลบความจำ ให้บุตรชายรับการขัดเกลาจากสังคมก่อน?
ไม่มีอุปสรรคก็สร้างอุปสรรคขึ้นมาเองหรือ
เป็นความสามารถที่สุดยอดจริงๆ!
เสิ่นเอ้ารู้สึกขนหัวลุกนิดๆ
ไม่กลัวคู่ต่อสู้แกร่ง แต่กลัวสมองไม่ปกติ
สมองเถ้าแก่ซ่งนี่เป็นวงจรกลับ เสิ่นเอ้าไม่เข้าใจเลย
เขาคิดว่าตนรีบกินโอสถลบความจำไปก่อนจะค่อนข้างปลอดภัยกว่า
“ในเมื่อเถ้าแก่ซ่งมีโอสถลบความจำ ก็รีบให้ข้ากินสิ!”
เถ้าแก่ซ่งส่ายหน้าน้อยๆ “ขวดนี้คือโอสถลบความจำขั้นหนึ่ง มีผลแค่กับผู้บำเพ็ญช่วงหลอมปราณ ฝ่าบาทองค์ชายหกทะลวงช่วงสร้างฐานแล้ว สามารถใช้วิชาสลายฤทธิ์ยาได้ทั้งหมด”
เสิ่นเอ้ารีบพูด “ข้ารับปากว่าจะไม่สลายฤทธิ์ยาเด็ดขาด จริงๆ”
เถ้าแก่ซ่งเอ่ย “แต่ว่าฝ่าบาทสลายฤทธิ์ยาหรือไม่สลายแล้วใครจะรู้ล่ะ!”
เสิ่นเอ้าอยากจะอธิบายต่อ ทันใดนั้นก็รู้สึกกระเทือนที่หลังศีรษะ ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะหมุนวน
…….
ตึง!
“เอาละ จะเถียงกันทำไม! ลังเลลีลาอยู่นั่น ทุบให้หลับก็จัดการได้แล้วไม่ใช่รึ”
เสิ่นเทียนเก็บค้อนม่วงทองที่เปล่งแสงสายฟ้ากลับเข้าแหวนเวหาอย่างนิ่งๆ
อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย เขาซัดค้อนนี่แล้วให้ความรู้สึกมากจริงๆ เหมือนว่าวินาทีนั้น ข้าคือร่างสถิตของเทพเจ้าสายฟ้า!
สัมผัสมือกับความรู้สึกที่ฟาดลงไปมันเยี่ยมอะไรเช่นนี้!
เห็นเสิ่นเอ้าตาเหลือกขาว บนศีรษะยังเปล่งแสงสายฟ้าแล้ว พ่อลูกเถ้าแก่ซ่งมองหน้ากัน แอบคิดในใจว่าท่านเซียนสมกับเป็นท่านเซียนจริงๆ
คำก็พี่น้อง อีกค้อนก็ลูกพี่ลูกน้อง จัดการได้สะอาดเรียบร้อยมาก
จะว่าไปโดนค้อนฟาดหลังศีรษะแบบนี้ ยังต้องให้กินโอสถลบความจริงอีกหรือไม่
ช่างเถอะ เพื่อความปลอดภัย ให้กินสักเม็ดดีกว่า!
เถ้าแก่ซ่งง้างปากเสิ่นเทียนออกก่อนยัดโอสถลบความจำเข้าไปหนึ่งเม็ด
เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “พวกเจ้าบอกว่าพี่หกเพิ่งมาถึงสวนหมื่นวิญญาณวันนี้ โอสถลบความจำเม็ดนั้นทำให้เขาลืมในวันนี้ก็พอแล้ว แต่ว่ารอยฝ่ามือกับซาลาเปาบนหน้าเขานั่น จัดการยากนิดๆ นะ”
เสิ่นเทียนขบคิดก่อนจะหยิบลูกกลอนย้อนวสันต์ขวดนั้นที่เสิ่นเอ้าให้เขามาเมื่อก่อนออกมาจากอกเสื้อ
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ โลกบำเพ็ญเซียนก็ยังให้ความสำคัญกับเรื่องกงเกวียนกำเกวียน ‘เอามาจากพี่ ก็ต้องใช้มันกับพี่’
ต้องให้ความสำคัญ~
…….
หลังจากลูกกลอนย้อนวสันต์เม็ดหนึ่งลงท้องไปแล้ว เสิ่นเทียนเห็นชัดเลยว่าสีหน้าเสิ่นเอ้ากำลังฟื้นฟูกลับมา อย่างน้อยใบหน้าที่เดิมทีมีแต่รอยฝ่ามือหายบวมอย่างรวดเร็ว
“มัวเหม่ออะไร รีบส่งเขาไปสิ!”
เสิ่นเทียนพูดด้วยความจนปัญญา “เรื่องในวันนี้ให้ถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นแล้วกัน”
เถ้าแก่ซ่งรีบพยักหน้า “ข้าเข้าใจ ต้องโทษข้าที่สอนลูกไม่ถูกวิธี ทำให้ท่านเซียนลำบากแล้ว ท่านเซียนวางใจเถอะ รอข้าจัดการฝ่าบาทองค์ชายหกแล้ว จะสั่งสอนไอ้ลูกไม่รักดีให้หนักเลย
จากนั้นให้ไอ้ลูกไม่รักดีนี่กินโอสถลบความจำหนึ่งเม็ด รับรองว่าจะไม่มีบุคคลที่สามรู้เรื่องในวันนี้อย่างแน่นอน!”
คุณชายซ่ง “ข้า…”
เถ้าแก่ซ่งเลิกคิ้วขึ้น “เจ้าอะไร ครั้งนี้เป็นเจ้าก่อเรื่องมาเอง!
ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ท่านเซียนต้องจำใจลงมือกับพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองหรือ ท่านเซียนเสียสละให้สาวกเช่นนี้ หรือว่าเจ้าไม่ควรถูกโบยกัน?”
คุณชายซ่งรู้สึกแปลกๆ ตรงไหนสักที่ แต่ก็ได้แต่พูดด้วยความจำใจ “ข้าควรถูกโบย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน