มันลอยอยู่อย่างนั้น สายฟ้าสีดำพันทั่วกาย แผ่พลังอำนาจองอาจเกรียงไกร
ถ้ามองจากรูปลักษณ์อย่างเดียว เต่าดำนี่เท่และทรงอำนาจมาก ปัญหาคือขนาดเต่าดำนี่เล็กเกินไปกระมัง!
หัวยังไม่หนาเท่านิ้วโป้ง ขนาดพกพามาก
เหตุใดพยัคฆ์ขาวของนางถึงตัวใหญ่ขนาดนั้น
แต่ของข้ากลับเล็กเช่นนี้!
นี่ไม่ยุติธรรมเลย!
……
อีกทั้งในสายตาเสิ่นเทียน เต่าดำนี่เหยียบอยู่บนวงรัศมีดวงชะตาของเขาพอดี แสงสีเขียวอ่อนๆ สะท้อนบนตัวเต่าดำ อย่าให้เอ่ยเลยว่าเข้ากันไม่ได้ขนาดไหน
นี่คือเต่าดำถล่มแคว้น? นี่มันตะพาบน้ำขนสีเขียวชัดๆ!
แสงสะท้อนกระดองเต่านี่เขียวมันขลับแล้วมาคลุมหัวข้าหรือ
เสิ่นเทียนอดหนาวสั่นมิได้ จึงรีบคลายปรากฏการณ์
ไม่ได้การแล้ว จากนี้ออกไปจะสำแดงปรากฏการณ์เต่าดำกวนประสาทนี่ไม่ได้เด็ดขาด
แม้สำแดงแล้วจะกดพลังวิญญาณศัตรูให้พลังลดน้อยลงก็ตาม แต่เสิ่นเทียนก็คิดว่าจะให้ศัตรูเห็นแล้วหัวเราะไม่ได้ ถึงอย่างไรหนังหน้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง!
…..
“ลองอัสนีเทพธาตุอื่นๆ ดูอีกดีกว่า”
เสิ่นเทียนขยับความคิดในใจเล็กน้อย เริ่มลองฝึกวิชาอัสนีอื่นๆ
วิชาปัญจธาตุมีทั้งเข้ากันและต้านกัน เสิ่นเทียนฝึกอัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าสำเร็จแล้ว ตามวิชาเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม ลำดับต่อไปที่เหมาะจะฝึกฝนที่สุดคืออัสนีเทพธาตุไม้
อัสนีเทพธาตุไม้แบ่งเป็นอัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งกับอัสนีเทพหกประสานธาตุไม้ลำดับสอง แบ่งเป็นหยินกับหยาง
เสิ่นเทียนเลือกธาตุน้ำลำดับเก้าแล้ว เช่นนั้นการฝึกธาตุไม้ลำดับหนึ่งจึงเหมาะสมที่สุด
เขาหยิบศิลาวิญญาณอีกหมื่นก้อนจากแหวนเวหาและสูบกินต่อ!
เสิ่นเทียนนั่งขัดสมาธิลงเริ่มฝึกบำเพ็ญรอบใหม่อย่างหนัก แต่การฝึกฝนครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นเหมือนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้า ต่อให้มีแก่นรากมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุช่วยก็ยังก้าวหน้าช้าอยู่ดี
บางทีอาจเป็นเพราะไม่มีวัตถุวิญญาณธาตุไม้ช่วย เสิ่นเทียนจึงรวมอัสนีเทพธาตุไม้ออกมาได้ช้ามาก
จากที่เสิ่นเทียนคาดการณ์ ตนต้องฝึกฝนอย่างหนักไม่หลับไม่นอนอย่างน้อยสามวันสามคืนถึงอาจจะฝึกฝนอัสนีเทพธาตุไม้ได้ถึงขั้นสูง รวมเป็นปรากฏการณ์มังกรฟ้าได้
สมกับเป็นวิชาระดับสุดยอดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ มันช่างลึกล้ำจริงๆ!
……..
อีกทั้งเสิ่นเทียนยังมีความรู้สึกบางอย่างในใจ เกรงว่าพลานุภาพอัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่งคงเทียบกับอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าไม่ได้
เพราะช่วงที่เสิ่นเทียนสำแดงอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้านั้น อัสนีเทพกับน้ำมวลหนักปฐมกาลในกายได้ประสานรวมกัน พลานุภาพที่รวมกันเช่นนี้ต้องไม่มีทางที่อัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งจะเทียบได้แน่นอน
มิหนำซ้ำปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้นเมื่อครู่ยังสร้างความตกใจให้กับเสิ่นเทียน เขากังวลว่าตนรวมเป็นปรากฏการณ์มังกรฟ้าสะเทือนนภาออกมาแล้วจะเป็นแบบพกพาอีก
ออกมาเป็นงูฟ้ายังพอว่า แต่ถ้าออกมาเป็นหนอนฟ้า…
จากนั้นขยับยึกยือไปมาบนหัวเขา ซี้ด แค่คิดก็น่ารำคาญแล้ว!
“ช่างเถอะ เหนื่อยใจจริง ใช้เป็นทุ่นระเบิดน้ำไปก่อนแล้วกัน! ค่อยๆ ฝึกอย่างอื่นไปก่อน”
…….
เสิ่นเทียนคิดว่าไม่จำเป็นต้องละโมบมาก
คลำหาวิธีการใช้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าให้ชัดเจนก่อน บางทีอาจจะมีประโยชน์กว่ามีอัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งเพิ่มมา
เขาเริ่มขับเคลื่อนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าในกาย ค่อยๆ รวมมันออกมา ทันทีที่เสิ่นเทียนเริ่มสำแดงวิชาก็รวมเป็นสายฟ้าสีดำขึ้นมาทันที
พวกมันวนเวียนตรงปลายนิ้วเสิ่นเทียน ดูเชื่อฟังเป็นพิเศษ
อีกทั้งเสิ่นเทียนยังสัมผัสได้อย่างเฉียบคมว่าในอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าแฝงไว้ด้วยน้ำมวลหนักปฐมกาลหนึ่งส่วน นี่ทำให้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าของเขาหนักมากกว่าอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าธรรมดามาก
ไม่รู้ว่าเมื่อสำแดงอัสนีเทพนี้ออกไป พลานุภาพจะแกร่งกว่าหรือไม่!
ความคิดนี้ขยับวูบผ่านในใจเสิ่นเทียน ดังนั้นถึงได้รวมเนิบๆ ออกมาเป็นลูกกลมสายฟ้าสีดำลูกหนึ่ง
นี่คือวิชาย่อยในชุดเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม มีชื่อเรียกว่ากุมอัสนี
ตรงใจกลางมันรวมเป็นลูกกลมสายฟ้า ปาออกไปโจมตี
ปกติศิษย์ทางการของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะรู้วิชานี้ เป็นวิชาอัสนีพื้นฐานที่สุด
เกราะเต่าดำเป็นวิชาเลิศล้ำ ระดับความยากและอานุภาพต้องเหนือกว่ากุมอัสนีธรรมดาไปไกลโขแน่
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้ากับน้ำมวลหนักปฐมกาลถึงเชื่อฟังในร่างกายเสิ่นเทียนมาก
เสิ่นเทียนแค่ลองดูเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่ครั้งก็รวมเป็นเกราะเต่าดำสำเร็จ
แน่นอนว่าด้วยความที่ยังไม่ชำนาญมากพอ เลยต้องพยายามรวมเป็นรูปร่างออกมา อย่างมากสุดก็ถือว่าอยู่ในระดับพื้นฐาน
…….
โล่นี้ออกเป็นสีดำทุกส่วน กระจายลวดลายมรรคาพิศวง มองไปดูแข็งแกร่งมาก
มีสิ่งเดียวที่ทำให้เสิ่นเทียนเสียดายคือรูปทรงเกราะเต่าดำนี่เหมือนกระดองเต่ามาก
เฮ้อ ช่างเถอะ
ถึงอย่างไรในช่วงเวลาสำคัญ เจ้านี่ก็ช่วยชีวิตได้
รูปทรงระดับล่างก็ให้มันล่างไปเถอะ!
เสิ่นเทียนชูเกราะเต่าดำขึ้นมาก่อนตั้งรับกุ้ยกงกง “ลุงกุ้ย ท่านโจมตีข้าสุดกำลังเลย”
กุ้ยกงกงพยักหน้าแล้วรวมพลังวิญญาณสีแดงเข้มที่กำปั้น
“ฝ่าบาท ท่านต้องระวังหน่อยนะ อย่าให้ทำร้ายตัวเองนะพ่ะย่ะค่ะ”
เอ่ยจบกุ้ยกงกงก็ขยับกายวูบไหว จู่โจมโล่เต่าดำของเสิ่นเทียนอย่างฉับพลัน
ได้ยินเพียงเสียงดังสนั่น โล่เต่าดำไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่มีรอยแตกร้าวใดๆ เลย ในทางตรงข้ามกลับมีสายฟ้าสีดำไหลผ่านเกราะเต่าดำลุกลามไปบนตัวกุ้ยกงกง กำลังแว้งกัดเขา
…….
เปรี้ยง!
สายฟ้าระเบิดกระจาย
กุ้ยกงกงถอยไปต่อเนื่องห้าก้าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
พลังป้องกันของเกราะเต่าดำนี่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!
………………….……….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน