เขายื่นมือขวาออกไปช้าๆ งอห้านิ้วมือเล็กน้อยแผ่แรงดูดมหาศาลอย่างยิ่งออกไป
ศิลาวิญญาณหลายล้านก้อนนั้นถูกเขาเหนี่ยวนำลอยเข้ามาหาทันที
นักพรตประสานมุทรา เก็บศิลาวิญญาณทั้งหมดเข้าไปในแหวน
“กำไรงามๆ นี่พอให้ข้าใช้ได้หลายเดือนเลย! สหายทุกท่าน ยินดีนะถ้าครั้งหน้าจะสะกดรอยตามศิษย์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เราอีก แค่พกศิลาวิญญาณมามากพอ ข้าจะไม่สร้างความลำบากให้พวกเจ้า แต่ถ้าครั้งหน้าอย่าตามบุตรสาวของศิษย์น้องข้าอีกจะดีกว่า ถึงอย่างไรนางก็เป็นสตรี
แต่ถ้าสะกดรอยตามเจ้าโง่จางอวิ๋นถิงกับฟางฉางสองคนนั่น ทุบตีสักหน่อยก็ไม่เป็นไร”
นักพรตเร่งเพลิงเขียวนภากาศย่างอินทรีปีกทองไปพลาง พูดกลั้วหัวเราะไปพลาง
“อ้อ ตอนนี้ข้ากำลังย่างพญาอินทรีปีกทองราชาสัตว์อสูรแห่งเผ่าพญาปักษาเขตแดนใต้ สหายทุกท่านไม่สนใจจะออกมาชิมรสชาติเลิศรสด้วยกันรึ”
ไม่มีคำตอบใดๆ จากมวลอากาศ มีเพียงกลิ่นอายพลังหลายสายที่ห้อทะยานออกไปอย่างเร่งรีบ
นักพรตไม่ขวางไว้ เขายิ้มพลางพลิกพญาอินทรีปีกทอง ทั้งยังโรยเครื่องปรุงลงบนตัวมัน
คนพวกนั้นในเงามืดระงับความโกรธเอาไว้ แต่ละคนมีฐานะไม่ธรรมดามาก ถ้านักพรตชราลากพวกเขาออกมาหมดจริงๆ คงจะสนุกน่าดู
ตอนนี้แค่เอาราชาสัตว์อสูรระดับหลอมรวมเทพมาเชือดไก่ให้ลิงดูก็พอแล้ว ถึงอย่างไรคนพวกนั้นก็แค่สะกดรอยตาม ยังไม่ได้ลงมือ
ศิลาวิญญาณล้านก้อนก็คือการชดใช้ของพวกเขาแล้ว นี่ถือว่าเป็นกฎเกณฑ์ลับๆ ของโลกบำเพ็ญเซียนเซียน
……
พญาอินทรีปีกทองที่ถูกเพลิงเขียวนภากาศย่างอยู่เปล่งแสงเทพสีสองทั้งตัว
นั่นคือพลังแห่งสายเลือดกับพลังอสูรของพญาอินทรีปีกทองกำลังถูกหลอมละลายเป็นแก่นพลังสำคัญช่วยบำรุงที่ดั้งเดิมที่สุด
ด้วยเป็นราชาอสูรระดับหลอมรวมเทพ โลหิตหยดหนึ่งแฝงไว้ด้วยพลังงานและอานุภาพมหาศาล ถ้าผู้บำเพ็ญระดับต่ำกว่าแก่นพลังทองกินเข้าไป จะถึงขั้นตัวระเบิดตายได้
แต่หากหลอมแล้วสูบกินได้จริงๆ จะเป็นอาหารบำรุงชั้นยอด
สรรพคุณของเนื้อพญาปักษาหนึ่งชิ้นไม่ด้อยไปกว่าโอสถวิญญาณหรือว่านเซียนเท่าไรเลย!
“เสี่ยวซีเอ๋อร์เจ้าบาดเจ็บไม่เบาเลยนะ มากินเนื้อนกของอาจารย์ลุงหน่อยดีกว่า”
นักพรตชรามองจางอวิ๋นซีที่กำลังนั่งขัดสมาธิรักษาบาดแผล ฉีกขาพญาอินทรีปีกทองออกมาน่องหนึ่ง
พญาอินทรีตัวนี้ความจริงมีความยาวหลายสิบจั้ง แต่โดนนักพรตชราย่อขนาดเหลือเท่าไก่ตัวผู้ ขานกใหญ่แฝงไว้ด้วยแก่นรากชีวิตที่ยอดเยี่ยมที่สุด สรรพคุณสุดยอดเหนือชั้นยิ่ง!
ถ้าไม่ใช่เพราะแม่หนูจางอวิ๋นซีถูกใจผู้อาวุโสบัวมรกตอย่างมากละก็ เขาจะไม่ยอมให้แน่นอน!
‘หากเป็นจางอวิ๋นถิงหรือฟางฉางสองคนนั้นจะกล้าแย่งข้ากินหรือ
เหอะๆ ข้าจะหักขาพวกมันเลย!’
…….
“ขอบคุณอาจารย์ลุง”
จางอวิ๋นซีรับขานกมา เคี้ยวอย่างละเอียดค่อยๆ กินไป
นางดูดกลืนพลังงานที่บริสุทธิ์ที่สุดจากการโดนเพลิงพิลึกหล่อหลอมในทันที ไม่นานนางก็รู้สึกว่าบาดแผลในร่างกายกำลังฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
นักพรตชราย่างพญาอินทรีปีกทองไปพลางถามไปพลาง
“เสี่ยวซีเอ๋อร์ เจ้าส่งข่าวมาว่าหาจี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์เจอแล้ว จริงรึ”
แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอย่างนักพรตชราก็ยังจริงจังยิ่งเวลาคุยเรื่องจี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ ถึงอย่างไรก็มีแต่หามรดกสืบทอดต้องห้ามสูงสุดคืนมาได้เท่านั้น ถึงจะทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยิ่งใหญ่ขึ้นมาอีกครั้ง
จางอวิ๋นซีพยักหน้า จากนั้นหยิบจี้หยกที่โดนผนึกกลิ่นอายพลังเอาไว้ออกมาจากอกเสื้อ
นางสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “ท่านอาจารย์ลุงดูเอาเถอะ จี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์อยู่นี่แล้ว ในเมื่ออาจารย์ลุงมาแล้ว ก็ขอให้ท่านรักษามันไว้ดีกว่า”
นัยน์ตานักพรตชราเผยประกายประหลาดใจ รีบปฏิเสธว่า “เช่นนั้นจะได้อย่างไร! ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคนหาเจอ”
จางอวิ๋นซียิ้ม “อาจารย์ลุงมีพลังบำเพ็ญสูงส่ง เก็บไว้กับท่านปลอดภัยกว่า”
“ในเมื่อเสี่ยวซีเอ๋อร์แน่วแน่เช่นนี้ อาจารย์ลุงก็จะฝืนรับหน้าที่ช่วยเอง!” นักพรตตบหน้าอกกล่าว “วางใจเถอะ ใครก็อย่าคิดจะแย่งมันไปจากข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน