บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 96

สรุปบท บทที่ 96 ปรากฏการณ์ถือกำเนิด: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

ตอน บทที่ 96 ปรากฏการณ์ถือกำเนิด จาก บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 96 ปรากฏการณ์ถือกำเนิด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายจีนโบราณ บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 96 ปรากฏการณ์ถือกำเนิด
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็ส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด “น่าละอาย ศิษย์น้องฝึกฝนแล้ว แต่ก้าวหน้าไม่รวดเร็ว”

จางอวิ๋นซีถามด้วยความแปลกใจ “อ้อ ศิษย์น้องเจ้าฝึกฝนวิชาอัสนีใด ฝึกถึงขั้นใดแล้ว”

เสิ่นเทียนถอนหายใจ “ปัญจธาตุของข้าคือธาตุน้ำ วิชาแรกที่ฝึกฝนคืออัสนีเทพเต่าดำ น่าเสียดายถึงตอนนี้ยังรวมเป็นปรากฏการณ์ออกมาไม่ได้”

“ปัญจธาตุธาตุน้ำ จริงรึ”

จางอวิ๋นซีตาเป็นประกาย “ศิษย์น้องไม่ต้องผิดหวังไป เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมมีความละเอียดลึกซึ้งเข้าใจยาก ไม่ได้ฝึกง่ายๆ ความจริงศิษย์สายตรงที่ได้รับถ่ายทอดเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์มีไม่น้อย แต่คนที่รวมปรากฏการณ์ออกมาได้แทบไม่มีเลย ศิษย์น้องมีแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้ากับตัว ขอแค่ภายภาคหน้าหมั่นฝึกบำเพ็ญจะต้องสำเร็จแน่นอน!”

เสิ่นเทียนพยักหน้าก่อนถอนหายใจ “เฮ้อ~ อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าลึกลับเข้าใจยากจริงๆ!”

จางอวิ๋นซีเผยรอยยิ้มลึกลับเสี้ยวหนึ่ง “ความจริงก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีให้ฝึกสำเร็จเร็วๆ หรอกนะ”

เสิ่นเทียนอึ้งไปเล็กน้อย ฝึกควบคู่เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมยังมีวิธีฝึกสำเร็จเร็วๆ ด้วยหรือ เร็วกว่าข้าอีกหรือ

เห็นเสิ่นเทียนทำหน้า ‘ยากจะเชื่อได้’ แล้ว จางอวิ๋นซีก็ดูลำพองใจมาก

นางเอ่ยเสียงไพเราะน่าฟัง “ทุกคนต่างรู้ว่าปัญจธาตุมีประสานกันและเป็นปฏิปักษ์กัน ธาตุทองลำดับเจ็ดก่อให้เกิดธาตุน้ำลำดับเก้า ศิษย์พี่หญิงฝึกอัสนีเทพธาตุทองลำดับเจ็ด ตามปัญจธาตุแล้วทำให้เจ้าก้าวหน้าได้ดี”

เอ่ยจบ จางอวิ๋นซีมองเสิ่นเทียนด้วยแววตาลุกวาว “ศิษย์น้อง เรามาฝึกคู่ประสานกันเถอะ!”

จางอวิ๋นซีเพิ่งพูดจบ เสิ่นเทียนก็แทบจะพ่นชาวิญญาณใส่หน้านาง “อะไรนะ อะไรนะ อะไรนะ”

จางอวิ๋นซีเหมือนสังเกตเห็นความหมายสองแง่สองง่ามในคำพูดตนเหมือนกัน จึงใบหน้าแดงเล็กน้อย “แค่กๆ ศิษย์น้องอย่าเข้าใจผิด”

“การฝึกคู่ประสานที่ข้าว่าคือการใช้แก่นรากอัสนีเทพธาตุทองลำดับเจ็ดของข้าช่วยให้เจ้ารวมแก่นรากธาตุน้ำลำดับเก้า ช่วยให้เจ้าควบคุมอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าได้”

เสิ่นเทียนถอนหายใจโล่งอก ที่แท้ก็ฝึกคู่ประสานบริสุทธิ์เช่นนี้เอง!

ทว่าตนรวมออกมาเป็นปรากฏการณ์เต่าดำแล้ว เหมือนจะไม่ต้องให้ช่วยกระมัง! เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็พูดด้วยความเกรงใจ “ช่างมันเถอะ! เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ต้องรบกวนศิษย์พี่หญิงหรอก”

“จะทำแบบนั้นได้อย่างไร! ศิษย์น้องไม่ต้องเกรงใจข้าเลย”

จางอวิ๋นซียิ้ม “เราไม่ใช่แค่เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน แต่ยังเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์กับสตรีศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายเรา ก็ควรจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ศิษย์น้องไม่ต้องเกรงใจข้าเลย มา เจ้านั่งขัดสมาธิให้ดี ค่อยๆ โคจรเคล็ดวิชาธาตุน้ำลำดับเก้า ไม่ต้องเครียด”

เห็นจางอวิ๋นซีทำหน้าแน่วแน่และไม่สงสัยใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว เสิ่นเทียนก็ได้แต่ตอบตกลงด้วยความจำใจ “รบกวนศิษย์พี่หญิงด้วย”

เขานั่งขัดสมาธิลงเริ่มโคจนเคล็ดวิชาธาตุน้ำลำดับเก้าช้าๆ ฝืนส่งกำลังให้น้อยที่สุด

ทันใดนั้นปรากฏแสงสีดำอ่อนๆ ลอยขึ้นบนผิวกายเขา เบาบางมาก ขณะเดียวกันก็ปรากฏแสงสีดำเหนือหัวเขา เหมือนจะมีปรากฏการณ์ลักษณะทรงกรวยรวมออกมา

พอเห็นดังนั้น จางอวิ๋นซีอดตาเป็นประกายมิได้ “ได้แล้ว!”

“ไม่นึกเลยว่าศิษย์น้องใช้เวลาไม่กี่วันสั้นๆ ก็ฝึกอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าสู่พื้นฐานได้แล้ว สมกับเป็นคนที่แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าเลือก มีพรสวรรค์แข็งแกร่งในด้านวิชาอัสนีจริงๆ”

จางอวิ๋นซีสูดลมหายใจเข้าลึกเฮือกหนึ่งก่อนจะปีนขึ้นมาบนเตียงเสิ่นเทียน นั่งขัดสมาธิลง “ศิษย์น้อง ทำใจสบายๆ เพราะก่อนหน้านี้ที่จี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ปรากฏ แก่นรากอัสนีเทพที่สะสมมาหมื่นปีระเบิดออก เจ้าสูบกินแก่นรากไปมากที่สุด

ดังนั้นตอนนี้ในตัวเจ้าจึงสะสมแก่นรากอัสนีเทพมหาศาล การฝึกเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมจะบังเกิดผลเป็นครึ่งเท่าตัว รอจนข้าส่งแก่นรากธาตุทองลำดับเจ็ดในตัวข้าเข้าไปในกายเจ้าแล้วจะเหนี่ยวนำแก่นรากอัสนีเทพ ช่วยเจ้ารวมอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าได้

เจ้าไม่ต้องเกร็ง แค่ผ่อนคลายสบายใจพยายามสัมผัสถึงธาตุทองลำดับเจ็ดกำเนิดสายน้ำและแก่นสำคัญที่ทำให้ทุกสรรพสิ่งชุ่มชื่นก็พอ”

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก จะไม่ให้เครียดในใจไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ใช่เพราะกลัวรวมอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าล้มเหลว แต่กลัวว่าตนจะเสแสร้งไม่เนียน ถ้าเกิดศิษย์พี่หญิงอวิ๋นซีมองออกล่ะจะทำอย่างไร

ด้วยความเร็วของศิษย์คนอื่นในแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว เหมือนว่าต้องใช้เวลานานมากกว่าจะเข้าสู่พื้นฐาน

แต่ข้าใช้เวลาไม่กี่วันก็ฝึกถึงขั้นสูง ทั้งยังปรับแก้วิชาอีก

นี่จะเด่นและโดนเล่นงานได้ง่ายมาก

……

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนเริ่มพยายามควบคุมตัวเอง

จางอวิ๋นซีโคจรอัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทองลำดับเจ็ด เบื้องหลังนางค่อยๆ รวมออกมาเป็นพยัคฆ์ขาวสีเงินขาวตัวหนึ่ง

ศิษย์ทั่วไปฝึกฝนหลายสิบปีอาจจะไม่สำเร็จหนึ่งวิชาในนั้นด้วยซ้ำ ส่วนการรวมปรากฏการณ์สัตว์เทพที่สอดรับกันยากยิ่งกว่ายาก!

ต่อให้เป็นจางอวิ๋นซีก็ต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนกว่าจะฝึกอัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทองลำดับเจ็ดสำเร็จ สามเดือนถึงจะรวมออกมาเป็นปรากฏการณ์

ตอนนี้แม้เสิ่นเทียนจะมีแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าจำนวนมากช่วย และยังมีจางอวิ๋นซีใช้ตัวเองปูเป็นทางให้เขาอีก แต่ในไม่กี่ชั่วโมงสั้นๆ กลับรวมปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้นออกมาได้

ต้องบอกว่าความเร็วระดับนี้น่าตกใจจริงๆ จางอวิ๋นซียังตกใจ

…….

มิน่าเล่าก่อนหน้านี้ตอนอยู่ร้านวิญญาณสวรรค์ เห็นๆ อยู่ว่าเสิ่นเทียนห่างจากหินแร่วิญญาณไกลสุด แต่หลังแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าระเบิดแล้ว เสิ่นเทียนกลับสูบแก่นรากอัสนีเทพไปมากสุด

ลำพังมองแค่ความเร็วในการฝึกฝนเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม พรสวรรค์วิชาอัสนีของเขาเรียกได้ว่าน่าสะพรึง!

จางอวิ๋นซีมองเสิ่นเทียนด้วยความตกตะลึงอย่างน่าประหลาดในใจไปพักหนึ่ง

แต่ไม่นานนางก็ถูกอีกอย่างดึงความสนใจไป เพราะนางสังเกตเห็นปรากฏการณ์เหนือหัวเสิ่นเทียน

เห็นเต่าดำเล็กขนาดเท่าฝ่ามือชะเง้อหน้าไปมานั้นแล้ว นางถึงกับหลุดขำออกมา

ปกติคนที่รวมปรากฏการณ์สัตว์เทพสายฟ้าออกมาได้มีแต่ผู้แข็งแกร่งระดับสร้างฐานแก่นพลังทองขึ้นไป ปรากฏการณ์ที่ผู้แข็งแกร่งพวกนี้รวมออกมาจะมีขนาดใหญ่อลังการ

เหตุใดปรากฏการณ์ของน้องเสิ่นเทียน…ถึงเล็กเช่นนี้

โดยเฉพาะหัว ยังไม่หนาเท่านิ้วมือเลย!

น่าสนใจ~

…………………………………..………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน