แสงแดดยามเช้าส่องผ่านทะลุผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้อง ขนตาที่แผ่เป็นแพของเวินหนิงขยับขึ้นลง เธอตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ
สัมผัสได้ว่าที่ข้างกายมีคนอยู่อีกหนึ่งคนนอนอยู่ เธอจึงชะงักตกใจก่อนไปสักครู่ ถึงจะนึกขึ้นออกว่าเมื่อวานลู่จิ้นยวนนอนค้างคืนที่นี่
ใบหน้าของเวินหนิงสุกแดงก่ำ ลุกขึ้นนั่งอย่างงุนงง มองไปบนร่างกายของตัวเองที่สวมชุดที่รัดกุมแน่นหนา ราวกับว่าไม่ได้เกิดเรื่องที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นอย่างไรอย่างนั้น
เวินหนิงถอนหายใจอย่างโล่งอก เดิมทีลู่จิ้นยวนก็เป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้ว เมื่อเธอขยับตัวเกิดเสียงขึ้นเล็กน้อยจึงปลุกให้เขาตื่นขึ้นมา บนหน้าปรากฏความลุ่มลึกขึ้นมาให้เห็น และเมื่อได้เห็นท่าทางเช่นนั้นของเธอแล้วก็รู้สึกว่าทั้งน่าสนใจและน่าขัน
ผู้หญิงคนนี้ กลัวว่าเขาจะกระทำการรุนแรงโหดร้ายอะไรกับเธออย่างงั้นเหรอ?
“สบายใจได้ ฉันไม่ได้หิวโหยอะไรขนาดที่ว่ากินไม่เลือก ไปสนใจทำอะไรผู้หญิงที่นอนหลับอย่างกับหมูได้”
พูดเสร็จ ลู่จิ้นยวนก็ลุกขึ้นยืน เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ
เวินหนิงมองไปที่แผ่นหลังของเขา ก็โบกหมัดชกลม เหมือนหมูอะไรที่ไหนกัน ท่าทางที่เธอนอนหลับก็สงบนิ่งอย่างเห็นได้ชัด กุลสตรีเป็นที่สุด ไม่ใช่หรือไง?
ลุกขึ้นจากเตียง เวินหนิงใช้ของที่มีอยู่ในตู้เย็นทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ ฉับพลันนั้นเวินหนิงถึงพึ่งจะนึกขึ้นออกว่าวันนี้มีเรื่องที่สำคัญมากที่จะต้องไปจัดการ จึงมองดูผู้ชายคนนี้ที่กำลังกินขนมปังปิ้งอย่างละเมียดละไม
“วันนี้คุณคงจะอยู่ข้างนอกแบบนี้ไปไม่ได้สินะ ถ้าไม่กลับไปล่ะก็ ทางฝั่งตระกูลลู่ก็คงจะร้อนใจกันแน่ๆ ”
ถ้าหากว่าลู่จิ้นยวนคอยจับตาดูเธออยู่ที่นี่ เธอก็จะไม่มีโอกาสไปเค้นถามเอาความลับมาจากยวี๋เฟยหมิงได้แน่
“เธอดูรอคอยให้ฉันออกไปมากเลยนะ” ลู่จิ้นยวนมองเธอย่างไม่เร่งร้อนใจ
เมื่อวาน อันเฉินหาเจอแล้วว่าเธอได้ติดต่อกับใครไปบ้าง ยวี๋เฟยหมิง ชื่อชื่อนี้เขายังไม่ได้ลืมไปเร็วขนาดนั้น
เขาจำได้ ผู้ชายคนนี้เป็นคู่หมั้นของเวินหนิง ซ้ำยังเคยใช้สถานะนี้มาทำอวดดีวางท่ากับตัวเขาเองด้วย เขาเองก็ยังเคยเตือนเธอไปอย่างชัดเจนแล้วว่าให้ยุติความสัมพันธ์กับคนแบบนี้เสีย ดูท่าแล้ว เธอจะไม่ได้รับฟังเลยแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก