นายท่านลู่พูดออกมาอย่างเรียบง่าย แต่กลับแฝงไปด้วยอำนาจความท้าทายที่มิอาจโต้แย้งได้
ลู่จิ้นยวนขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสัน ดูท่าแล้วท่านปู่จะตัดสินใจแน่วแน่ไม่ให้เขาหนีไป ถึงขนาดที่ว่าไปหาคนมาเพื่อใช้วิธีจัดการกับเขาด้วยกำลัง
เขาจึงทำได้เพียงแสร้งทำตัวตามน้ำไปก่อน ส่วนเรื่องอื่นกลับไปแล้วค่อยคิดดูใหม่อีกที
“ผม.........เข้าใจแล้วครับ”
ลู่จิ้นยวนเปิดปากขึ้นพูด ริมฝีปากบางของเขาขยับพูดขึ้นอย่างยากลำบาก มู่เยียนหรานจึงถอนหายใจออกมาอย่างสบายใจ “จิ้นยวน คุณกลับไปถึงแล้วก็พักผ่อนสักหน่อยเถอะ ฉันเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับไว้ให้คุณแล้ว มีคนมาร่วมไม่เยอะหรอก แล้วก็พอดีเลยกับที่........คุณจะได้พบคุณพ่อกับคุณแม่ของฉันแล้ว”
ลู่จิ้นยวนฟังที่มู่เยียนหรายเอ่ย ในใจก็มีความรู้สึกลำบากที่พูดไม่ออกขึ้นมา “เข้าใจแล้ว ฉันเหนื่อยมากขอพักก่อนแล้วกันนะ”
ทันใดนั้นเขาก็หลับตาลง และเริ่มพักผ่อนด้วยการหลับตาลงไปทั้งแบบนั้น ทำสีหน้าเย็นชาใส่ให้มู่เยียนหรานอย่างไม่มีแม้แต่ความเกรงใจให้สักนิดเดียว
มู่เยียนหรานรู้สึกว่าตัวเธอนั้นถ่อมตนจนลงไปติดแทบผืนดินแล้ว
ปกติแล้วคนอื่นมักจะเชิดชูเธอ ทำเสมือนราวกับว่าเธอเป็นดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าแล้วกราบไว้สรรเสริญ แต่เมื่อมาอยู่กับลู่จิ้นยวนแล้ว เธอกลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำว่าเคารพนั้นเขียนอย่างไร เพราะในเมื่อการหมั้นนั้นก็เป็นตัวเธอเองที่เป็นฝ่ายร้องขอมาจนแทบจะฉีกทึ้งใบหน้าตัวเอง
ในสายตาของมู่เยียนหรานนั้นปรากฏความรู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมา เธอไม่ยอมที่จะให้สถานการณ์แบบนี้ยืดเยื้อคงอยู่ไปเป็นเวลานานได้หรอก เธอจะรอวันที่จิ้นยวนตกหลุมรักเธอเข้าอีกครั้ง
“งั้นคุณก็พักผ่อนให้สบายนะคะ คนขับรถขับให้ช้าลงหน่อย”
อดกลั้นฝืนยิ้มออกมา มู่เยียนหรานกำชับด้วยความระมัดระวัง นายท่านลู่พยักหน้าพึงพอใจกับการกระทำของเธอเป็นอย่างมาก มีคนที่ดีแบบนี้มาคอยดูแลลู่จิ้นยวน ต่อให้เขาหลับตาลงไปก็สบายใจลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถหนีออกไปได้เป็นการชั่วคราว ลู่จิ้นยวนจึงหลับตาลง แต่เขาก็ไม่อาจที่จะหลับลงได้ เพียงแค่เขาปิดเปลือกตาลงมา เขาก็เห็นภาพเวินหนิงที่มีเลือดท่วมอยู่ตรงหน้า
ไร้สิ้นซึ่งความหวังเช่นนั้น ไร้ความช่วยเหลือแบบนั้น ถ้าหากว่าเขาไม่ไปช่วย แล้วจะมีใครที่สามารถไปช่วยเธฮได้กัน..........
ลู่จิ้นยวนเผลอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว เขาต้องรีบจัดการเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด เวินหนิง และจะต้องตามกลับมาโดยเร็วที่สุด
ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของลู่จิ้นยวนก็ดังขึ้น หลังจากที่คนพวกนั้นไปตรวจสอบที่พักของเวินหนิงแล้ว พบว่าตัวเธอนั้นได้หายตัวไปแล้ว อีกทั้งคนที่ก่อเหตุนี้ยังรอบคอบมาก ถึงขนาดที่ว่าไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรที่เด่นชัดไว้เลย
ใช้ประโยชน์จากข้อผิดพลาดของพวกเขาอย่างที่แม้แต่เทพเทวดาหรือภูติผีก็ไม่อาจรู้ แล้วมาลักพาตัวออกไปได้
“คุณลู่ครับ คุณหนูเวินถูกลักพาตัวไปแน่นอนครับ พวกเราจะรีบออกตามหาทันที ชดใช้ความผิดพลาดในครั้งนี้ที่ได้เกิดขึ้นไป”
ลู่จิ้นยวนรีบลืมตาขึ้นอ่านข้อความนั้นทันที ใบหน้าที่งดงามราวกับถูกแกะสลักอย่างประณีตก็ราวกับถูกเคลือบไปด้วยชั้นน้ำแข็งอันเย็นเยือก
ที่แท้แล้วความฝันเขาก็ไม่ได้เสียเปล่า แต่เป็นลางบอกเหตุ ลางที่บอกว่าเวินหนิงกำลังเจอกับอันตรายเข้าแล้วจริงๆ
มือที่กำแน่นของฝ่ายชายนั้นอดไม่ได้ที่จะทุบลงไปที่เบาะที่นั่ง ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาที่ได้เตรียมการเอาไว้มากมาย คิดวางแผนอย่างรอบคอบเสียร้อยตลบแต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นได้ ถ้าหากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเวินหนิง เขาจะต้องรีดเลือดออกมาจากคนพวกนั้นมาเป็นค่าตอบแทนที่ไม่ทำงานทำการละเลยหน้าที่
มู่เยียนหรานตกใจกับการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวของเขา ดูสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักของเขา ในใจก็พลันรู้สึกเป็นกังวลตามขึ้นมา นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน โดยปกติแล้วจะเป็นการยากมากที่จะได้เห็นลู่จิ้นยวนแสดงอารมณ์แบบนี้ออกมาให้เห็น หรือว่าจะเกิดเรื่องใหญ่อะไรเข้าแล้วจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก