ฟังน้ำเสียงที่ไร้อารมณ์ที่เจือด้วยความโกรธ ถ้าไม่ใช่เขาที่เอาข่าวไปกรพจายที่บริษัท เธอคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้
พอคิดอย่างนั้นเวินหนิงก็ไม่อยากปลายตามองอีกคน อยากจะมองข้ามอีกคนไปเลย
พอถูกเมินเฉย นัยน์ตาลู่จิ้นยวนก็ฉายแววไม่พอใจ เขาเข้ามาคว้าแขนของเวินหนิงเอาไว้ “ฉันช่วยเธอไว้ ไม่พูดอะไรสักคำก่อนไปหน่อยหรือไง”
ถ้าเมื่อกี้ไม่ใช่เพราะเขาได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ เธอก็คงไม่มีทางมาทำท่าทีเมินเฉยใส่เขาแบบนี้หรอก
“แล้วคุณจะให้ฉันพูดอะไร?” ลู่จิ้นยวนที่โมโหแรงที่จับแขนเธอก็เพิ่มขึ้นจนแขนเธอเริ่มแดง แต่เธอก็ไม่มีท่าทีจะโอนอ่อนตาม
เธอไม่ได้ขอให้เขาช่วยสักหน่อย
เธอไม่ได้โง่นะ จะไปขอบคุณคนแบบนี้ทำไม
“ปล่อยนะ! เรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่ง”
สายตาของลู่จิ้นยวนมองด้วยสายตาวาวโรจน์ ผู้หญิงคนนี้นี่อะไรกัน คนเขาช่วยยังไม่รู้จักบุญคุณอีก
เธอกำลังขัดขวางคำสั่งของคุณปู่ แล้วต้องทำยังไงกับเธอดีนะ
พอนึกถึงตอนนี้ลู่จิ้นยวนไม่ยอมปล่อยมือเธอแต่กลับเพิ่มแรงดึงเวินหนิงเข้ามาในอ้อมกอด “ไม่ให้ฉันสนงั้นเหรอ? เธอพยายามจะบอกว่าเธออยากโดนหลี่ฉ่าวงั้นเหรอ งานของเธอคือขายว่างั้น?”
พอได้ยินคำว่าขาย เวินหนิงก็เหมือนโดนตบหน้า เธอพยายามดิ้นแต่ลู่จิ้นยวนก็ไม่ยอมปล่อยมือ เธอเลยพยายามเตะเข้าที่ขาอีกคน
ความเจ็บเพิ่มทวีความโมโหให้ลู่จิ้นยวน เขาดันเธอเข้ากำแพง “ทำไม ฉันพูดแทงใจดำล่ะสิ?”
เวินหนิงเงยหน้าขึ้นมอง เห็นสายตาอีกคนที่ดูเฉยชา มันทำให้เธอยิ่งโมโห “ถึงฉันขายตัวคุณก็ไม่ต้องมาสนใจ ปล่อยมือฉันนะ!”
ความโกรธของลู่จิ้นยวนที่ขึ้นมาจนเอ่อล้นจนอย่าจะจับอีกคนฉีกเป็นชิ้นๆ
เวินหนิงยังไม่ทันได้พูดอะไรต่ออีกคนก็โน้มตัวใช้ริมฝีปากอีกคนปิดไว้กับส่วนเดียวกัน
ไม่นานเวินหนิงก็รู้สึกได้กลิ่นคาวเลือดในปาก แต่อีกคนกลับไม่รู้สึกอะไร “ถ้าเธออยากขนาดนั้น ฉันจะช่วยเธอเอง”
ลู่จิ้นยวนรู้สึกหงุดหงิดที่อีกคนพยายามต่อต้านจึงหยุดและจ้องเธอด้วยสายตาเย็นชา “ทำไม หรือจะต้องให้ฉันเลือกแขกเหรอ?”
เหวินหนิงไม่สามารถแสดงความเสียใจในใจของเธอออกมาได้ พอเขามองเช่นนี้เธอก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้ "แล้วไงล่ะถึงจะขายได้ แต่ฉันก็ไม่ขายให้เธอ!"
ลู่จิ้นยวนมองการแสดงออกของเวินหนิง ริมฝีปากของเธอเป็นสีแดงสดเนื่องจากที่เขาทำเมื่อกี้ ดวงตาใสของเธอวาวโรจน์ราวกับเปลวไฟกำลังลุกไหม้ ในขณะนี้เอง เธอดูดื้อรั้นพร้อมตายมากกว่าที่จะยอมแพ้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก