สรุปเนื้อหา บทที่ 292 ชีพจรกลับมาเต้นอีกครั้ง – บ่วงแค้นแสนรัก โดย ชิวเซิง
บท บทที่ 292 ชีพจรกลับมาเต้นอีกครั้ง ของ บ่วงแค้นแสนรัก ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิวเซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ลู่จิ้นยวนไม่ได้ตอบท่าน
เอาแต่ดูความคืบหน้าของทีมช่วยเหลือในทีวี
เย่หวานจิ้งก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร สุดท้ายก็ทำได้แค่นั่งดูไปพร้อมกับเขา
ผ่านไปแบบนี้ ทีละวินาที
ไม่มีข่าว ไม่มีความคืบหน้า
แม้แต่ข่าวที่งมเจอศพแล้วก็ไม่มี
"จิ้นยวน ลูกต้องกินอะไรหน่อย ถ้ายังเป็นแบบนี้อีก ร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ"
เย่หวานจิ้งเอ่ยพูดอีกครั้ง ในมือก็หยิบของที่ลู่จิ้นยวนชอบไว้ แต่ลู่จิ้นยวนไม่ได้มองท่านเลย
"คุณแม่ ครั้งนี้……ผมหวังว่าคุณแม่กับเธอยังแสดงละครกันอยู่"
พอได้ยินคำว่าแสดงละคร ร่างกายเย่หวานจิ้งก็สั่นไป ท่านอดคิดไม่ได้ว่า ตอนนั้นที่โกหกลู่จิ้นยวนเป็นเรื่องที่ผิดใช่ไหม?
ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ท่านอยากได้ แต่กลับทำให้ท่านกับลูกชายตัวเองห่างเหินไปกว่าเดิม ความเชื่อใจระหว่างแม่ลูก ก็มีเส้นบางๆกั้นอยู่
"จิ้นยวน อีกหน่อยแม่จะไม่โกหกลูกอีก เรื่องของเวินหนิง ลูกค่อยๆยอมรับแล้วกัน"
"ถ้ายังโกหกต่อไปน่าจะดี แบบนี้ เธอยังมีโอกาสรอดด้วย"
เวลาผ่านจากตอนที่อุบัติเหตุเกิดไปแล้วยี่สิบสี่ชั่วโมง ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการช่วยเหลือก็ผ่านไปแล้ว แต่ว่าลู่จิ้นยวนก็ไม่อยากยอมรับ แต่เขาก็ทำได้แค่ยอมรับ
โอกาสรอดของเวินหนิงก็น้อยไปกว่าเดิม
เดิมหลังจากที่เย่หวานจิ้งออกไป ในห้องก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง จากนั้น ลู่จิ้นยวนจึงเอาผ้าห่มคลุมศีรษะไว้ แล้วเอ่ยพึมพำเสียงเบา
"ทำไมต้องให้โอกาสแล้วมาทำลายโอกาสแบบนี้ด้วย เวินหนิง……"
หลังจากที่ตามตัวกลับมาได้ ก็เสียไปอีกครั้ง ความทุกข์ทรมานนี้ ถึงแม้จะเป็นเขาก็ทนรับไม่ได้
ห้องพักฟื้นที่ว่างเปล่า มีแต่เสียงสะท้อนที่ทุกข์ทรมานของผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนเป็นเสียงความสิ้นหวังของสัตว์ดุร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ
……
เวินหนิงรู้สึกว่าตัวเบาเหมือนกับก้อนเมฆ ร่างกายของเธอเสียการทรงตัวไปแล้ว เป็นความรู้สึกที่แปลกมาก
ภาพความทรงจำในหัวก็ลอยเข้ามา เวินหนิงคิดว่าเธอตายแล้ว?
ที่แท้ตายแล้วรู้สึกแบบนี้นี่เอง
เธอไม่ได้รู้สึกเสียใจ หรือว่าทุกข์ทรมานเลย
เธอก็นึกถึงละครที่แสดงให้ลู่จิ้นยวนดู เพื่อที่จะหลุดพ้นจากเขา แต่ว่า โกหกยังไงก็ต้องชดใช้กรรมสินะ
เธอพยายามเสแสร้งว่าตัวเองตายแล้ว เสแสร้งว่าตัวเองไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว จนยอมแสดงละครแบบนั้น แต่สุดท้าย เธอก็ตายจริงๆ……
เวินหนิงรู้สึกอยากจะหัวเราะ แต่ว่า ในใจก็ยังเป็นห่วงคนสองคน……คุณแม่แล้วก็ลูก
คิดไปด้วย ก็มีใบหน้าของไป๋หลินยวี่ลอยเข้ามาในหัว ดูเหมือนว่าท่านก็เพิ่งรู้ข่าวของเวินหนิง แล้วตอนนี้กำลังร้องไห้อย่าเสียใจ ท่านดูแก่ไปกว่าเดิมอีกสิบปี
ในใจเวินหนิงก็รู้สึกเจ็บปวด เป็นเพราะเธอเอาแต่ใจ ก็เลยทำให้คุณแม่ทุกข์ทรมานใจแบบนี้อีกครั้ง
เห่อจื่ออันกำลังปลอบใจอยู่ข้างๆ ถึงแม้เขาก็เสียใจเหมือนกัน แต่ก็พยายามปลอบใจท่าน ขณะเดียวกัน ก็โยนความผิดทุกอย่างมาไว้บนตัวของตัวเอง
"ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง ถ้าผมไม่ให้เธอไปคนเดียว……ถ้าผมไม่……"
เวินหนิงมองเห็นเห่อจื่ออันเอาแต่รู้สึกผิด เธอก็ส่ายหน้า เปล่าเลย……
ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวกับใครเลย ถ้าต้องหาเหตุผลมาอธิบาย อาจจะเป็นเพราะดวงโชคชะตาของเธอซวยเอง……
แต่ว่า คำพูดที่เวินหนิงอยากพูด ไม่มีใครได้ยิน นิ้วมือของเธอสัมผัสผ่านตัวทั้งสอง ไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรไว้เลย
เวินหนิงรู้สึกเสียใจ ก็จริง เธอตายแล้ว ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว เธอจะพูดคุยกับพวกเขาได้ยังไง?
เวินหนิงรู้สึกเจ็บปวดใจ ความรู้สึกแบบนี้ก็ทำให้ร่างกายของเธอรู้สึกหนักไปกว่าเดิม
เธอ……ไม่อยากตาย
เธอยังอยากจะดูลูกของตัวเอง คนที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุด
ยิ่งคิดแบบนี้ ความเบาบนร่างกายเวินหนิงก็ค่อยๆหายไป คนตรงหน้าลู่อันหรานก็เลือนลางไปกว่าเดิม เขาจึงร้องไห้หนักมากกว่าเดิม
ลู่จิ้นยวนที่อยู่อีกห้องก็ได้ยิน พอเดินไปสีหน้าของเขาก็ย่ำแย่มาก มีหนวดเคราที่ไม่ได้โกนมาหลายวันขึ้นเต็มไปหมด
"อันหรานเป็นอะไรครับ?"
ถึงแม้ยังตามหาตัวเวินหนิงไม่เจอ แล้วอารมณ์ของเขาก็ถูกบีบจนจมมุม แต่เพื่อมู่อันหราน ลู่จิ้นยวนก็ต้องรวบรวมสติอารมณ์แล้วดำเนินชีวิตต่อไป
ไม่ว่าจะยังไง เขาต้องให้ลูกของพวกเขาเติบโตมาอย่างแข็งแรง แบบนี้ถึงเวินหนิงจะไม่อยู่แล้ว ก็จะได้รู้สึกสบายใจด้วย
ลู่จิ้นยวนอุ้มลู่อันหรานเข้ามาในอ้อมกอดและพยายามปลอบใจเขา แต่ก็ไม่มีประโยชน์เลย ตาทั้งสองข้างของเขาก็ยังมองไปทางเวินหนิง แล้วร้องไห้เสียงดังมาก
ลู่จิ้นยวนก็มองตามไปด้วย อยู่ๆเขาก็รู้สึก……มีความรู้สึกบางอย่างแปลกๆ
คุ้นเคยมาก อาจจะพูดได้ว่าเป็นความสบายใจที่ห่างหายไปนาน คืออะไรกันแน่ ถึงทำให้ใจของเขาเต้นเร็วขนาดนี้
แต่ว่า ที่นั่นไม่มีอะไรเลย……เป็นแค่ความรู้สึก ที่ทำให้เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นกลับมาแล้ว
"เวินหนิง เธอหรือเปล่า?"
เวินหนิงตอบคำถามเขาไม่ได้ มองเห็นท่าทางที่ทุกข์ทรมานของลู่จิ้นยวน ความเกลียดที่เธอมีต่อเขา ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ลึกขนาดนั้นแล้ว
"ฉันเอง……ลู่จิ้นยวน ดูแลลูกของพวกเราให้ดี……"
เวินหนิงพึมพำกับตัวเอง จากนั้น ก็มีแรงมหาศาลมาดึงตัวเธอให้หายไปในอากาศ
เวลาเดียวกัน ในห้องไอซียูห้องหนึ่ง การเต้นของชีพจรจะเป็นเส้นตรงอยู่แล้วกลับค่อยๆเต้นแรงไปกว่าเดิม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก