บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 31

ลงจมูกลงไปในตอนที่น่าหลงใหลของ บ่วงแค้นแสนรัก, นิยายInternet ที่เขียนโดย Internet นิยายนี้มีเรื่องราวที่ซับซ้อน ความลึกลับและตัวละครที่ไม่ลืม นิยายนี้สัญญาว่าจะพาคุณผ่านการเดินทางของความตื่นเต้นและความเชื่อมั่นอันหลงใหล ไม่ว่าคุณจะปกติที่การที่รักความลึกลับหรือความอบอุ่นใจของเรื่องราวที่เข้าถึงจิตใจ Internet ได้ถักเสาะเสียงให้เป็นเรื่องราวที่จะยินตัวเองลงบนหน้าความทรงจำ สำรวจหน้ากระดาษของ บ่วงแค้นแสนรัก ตั้งแต่ตอนที่ บทที่ 31 ยอมแพ้ และปล่อยให้เวทมนตร์บุบคลามไปด้วย

เวินหนิงมองไปที่เหอจื่ออันอย่างไม่เข้าใจ จากนั้นก็คิดว่าแค่พูดคำเดียวคงไม่พอสำหรับเขา

เวินหนิงจึงก้มตัวลงโค้งให้อีกคน “ฉันขอบคุณจริงๆค่ะ”

เหอจื่ออันมองดูการกระทำของเธอและก็รู้สึกขบขัน "โอเคลุกขึ้นเถอะ คุณคำนับฉันแบบนี้ คนอื่นคงคิดว่าคุณกำลังเข้าร่วมพิธีรำลึกนะ"

เวินหนิงรู้สึกเขินอาย “งั้น ฉันความขอบคุณยังไง หรือฉันเชิญคุณไปทานอาหารดีไหมคะ”

เหอจื่ออันมองไปที่ดวงตาฉายแววจริงจังของเวินหนิง และอยากจะแกล้งเธอ "สำหรับอาหาร ฉันอยู่โรงแรมเดือนกว่าแล้วและฉันก็เบื่อแล้ว"

เวินหนิงรู้สึกรำคาญเล็กน้อย ตอนนี้คนๆนี้เล่นตลกกับเธอหรือเปล่า?

“อาหารข้างนอกกินจนเบื่อแล้ว คุณทำอะไรให้ฉันชิม เป็นยังไง นี่คือความจริงใจที่สุดนะ”

เหอจื่ออันมองที่แก้มสีแดงของเวินหนิง ดวงตาของเธอเปล่งประกายไปด้วยน้ำ เธอไม่รู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้ มันยิ่งทำให้อีกคนอยากแกล้งมากขึ้น

เวินหนิงคิดอยู่สักพัก "แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะเก่งกว่าพ่อครัวในร้านอาหารเลยนะคะ"

"ไม่เป็นไร เอาตามนี้แล้วกันนะ คุณกลับไปทำงานเถอะ ส่วนคนนั้นฉันจะให้ใครมาสอบสวนเธอและจะไม่ปล่อยให้เธอทำทุกอย่างที่ต้องการได้ในบริษัท "

หลังจากพูดจบ เหอจื่ออันโบกมือแล้วเดินเข้าไปในลิฟต์วีไอพีของบริษัท

เวินหนิงมองเขาจากไป รู้สึกวุ่นวายแต่ก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

มีคนเชื่อเธอเเถมช่วยเธอแก้ปัญหา ความรู้สึกนี้เหมือนมีแสงเข้ามาในความมืด

บางที วันข้างหน้า อาจจะไม่ยากอย่างที่คิดขนาดนั้น

เวินหนิงยิ้มและกลับไปที่ห้องทำงาน

สิ่งของของเธอถูกเก็บเรียบร้อย เย่เฉี่ยวที่อยู่ไม่ไกลก็ร้องไห้และทุบของบนโต๊ะ

เวินหนิงเหลือบมองเธอ ไม่แม้แต่จะเห็นอกเห็นใจ เย่เฉี่ยวสมควรได้รับรู้สึกเจ็บปวด

"เธอมองอะไร อย่าคิดว่าเธอมีคนมาช่วยแล้วจะใช้ชีวิตในบริษัทราบรื่น วันหนึ่งเธอจะถูกทอดทิ้ง ฉันคอนจะคอยดู

หลังจากฟังจบเวินหนิง นัยน์ตาของเธอก็มืดลง "ฉันรู้แค่ว่า ถ้าไม่ทำอะไรคนอื่นก็จะไม่เดือดร้อน

...

ไม่กี่วันต่อมา สุดสัปดาห์

เวินหนิงและเหอจื่ออันนัดกัน เธอจัดเตรียมของที่จะทำในบ้านแล้วส่งให้เขาชิม

เพราะงั้นเวินหนิงจึงตื่นแต่เช้าแล้วไปที่ตลาดผัก เพื่อซื้อของบางอย่างสำหรับครั้งนี้

ลู่จิ้นยวนไม่ได้เห็นเธอในตอนเช้า ขมวดคิ้ว

ปกติในวันหยุดสุดสัปดาห์ เวินหนิงจะอยู่บ้านเฉยๆ ตอนนี้วันหยุดก็จะไม่พักงั้นเหรอ?

ในเวลาไม่นาน คนรับใช้ก็เดินเข้ามาพร้อมกาแฟ เขาก็พูดโดยไม่รู้ตัวว่า "คุณเห็นเธอไหม?"

ไม่จำเป็นต้องพูดว่าใคร คนรับก็สามารถเดาได้ว่า "เธอ" คนนั้นเป็นใครจากน้ำเสียงของลู่จิ้นยวน

“คุณเขายุ่งอยู่ในครัวค่ะ อาจจะอยากทำอาหารด้วยตัวเอง” หลังจากตอบ คนรับใช้ก็เดินออกไป

ลู่จิ้นยวนหยิบกาแฟขึ้นมาจิบ รสชาติกลมกล่อมกระจายไปทั่ว คิ้วขมวดของเขาคลายออกแล้วผ่อนลมหายใจ

“คิดว่าทำตัวแบบนี้แล้วจะเอาใจฉันเหรอ”

หลังจากวันนั้นทั้งสองก็ไม่เคยพูดกันอีก

ปกติแล้วลู่จิ้นยวนจะไม่พูดก่อน ดังนั้นเธอเลยยอมให้?

ลู่จิ้นยวนยกขายาวขึ้นและรอด้วยท่าทีสบายๆ

...

เวินหนิงทำงานในครัวอยู่พักหนึ่ง ระหว่างทำก็ถามคำถามกับพ่อครัวของตระกูลลู่

อันที่จริงเธอไม่รู้วิธีทำอาหารด้วยซ้ำ ก่อนเข้าคุกก็ไม่ได้อยู่อย่างสบาย แต่เธอก็ยังเป็นคนโตของตระกูลเวิน อย่างน้อยเธอก็ไม่จำเป็นต้องซักผ้าและทำอาหารด้วยตัวเอง

แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว

เวินหนิงทำไปก็ยิ้มกว้าง

เธอคิดว่าเธอควรจะเรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอดพวกนี้ ไม่งั้นพอตระกูลลู่ไล่ คงไม่มีใครช่วยเธอได้

หลังจากนั้นไม่นาน เวินหนิงที่ทำอาหารด้วยความยากลำบากก็เสร็จ เธอหยิบอย่างระมัดระวังแล้วนำไปใส่ตู้อบ หลังจากขอบคุณพ่อครัวแล้วเธอก็ออกไป

ลู่จิ้นยวนรออยู่ในห้องเป็นเวลานาน หลังจากอ่านเอกสารในมือ เขาก็ไม่ได้พลิกไปหน้าไหน จนกระทั่งเซี่ยเหลียนเข้ามาเพื่อแจ้งให้เขาทานอาหารกลางวัน เขาออกไปและพบว่าเวินหนิงไม่อยู่บ้าน เขาถึงเริ่มรู้ว่ามีอะไรผิดปกติ

“เวินหนิงอยู่ที่ไหน?”

เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของลู่จิ้นยวนเซี่ยเหลียนก็รีบบอก "เธอทำอาหารในครัวแต่เช้าพอเธอทำเสร็จก็ออกไป ไม่รู้ว่าไปหาใคร พอถามเธอเลยโดนว่า "

เสียงของเซี่ยเหลียนเบาลงเรื่อยๆ สุดท้ายเธอก็ก้มหัวลงด้วยความเสียใจ

หลังจากฟังจบลู่จิ้นยวนก็หมดอารมณ์ที่จะกินข้าว เขาตะคอกและโยนตะเกียบลง "ฉันจะออกไป"

เขาอยากเห็นผู้หญิงคนนั้น ว่าจะทำอะไร

...

เวินหนิงขึ้นรถไปยังจุดหมาย และเดินไปอีกไกลก่อนจะถึงสถานที่ที่ทั้งสองนัดกัน

เหอจื่ออันมาถึงก่อนแล้ว พอเธอเหงื่อออกในมือถือกล่องอาหาร ก็สัมผัสได้ถึงควานุ่มนวลอ่อนโยน

ไม่คิดว่า เขาจะใช้คำพูดที่ตลกของเขา แล้วเธอจะตั้งใจขนาดนี้

“ขอโทษที่ช้าไปหน่อยนะคะ ฉันเอาอาหารที่ทำมาให้ แต่ดูเหมือนจะไม่อร่อยเท่าไร ... ” เวินหนิงพูดอย่างเขินอาย

เธอได้ลองชิมอาหารทั้งหมดก่อนที่เธอจะมาถึง แม้ว่ามันจะไม่ถึงขั้นที่กินไม่ได้ แต่ก็คงไม่เรียกว่าอร่อยแน่นอน

ดังนั้นเธอเลยเอาเงินเก็บของเธอมา เผื่อเหอจื่ออันไม่ชอบ เธอก็ยังชวนเขาไปที่ร้านอาหารได้

"ถ้างั้นฉันจะลองดู ว่าเป็นยังไง” เหอจื่ออันยักไหล่อย่างไม่แยแส เปิดกล่องอาหารและเริ่มกิน

เวินหนิงแตะกระเป๋าสตางค์ของเธอ ตอนแรกคิดว่าเขาจะนึกรังเกียจ แต่เหอจื่ออันไม่เคยแสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างที่เธอจินตนาการ แถมยังกินอย่างตั้งใจ

หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กินทุกอย่างที่เธอจนหมด

เวินหนิงมอง รู้สึกประหม่าเล็กน้อย เหอจื่ออันวางตะเกียบแล้วเหลือบมองเธอ "คุณจ้องมอง หน้าฉันมีอะไรเลอะรึเปล่า?”

เวินหนิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะและส่ายหัว “ไม่มีค่ะ ฉันไม่คิดว่าคุณจะเรื่องเยอะเสียอีก เพราะฉันรู้ระดับของฉัน ... ”

"ไม่ นั่นไม่ใช่อย่างนั้น การกินไม่ใช่แค่รสชาติ แต่ต้องดูถึงความตั้งใจด้วย" เหอจื่ออันยิ้มและเช็ดที่ริมฝีปากของเขา "คุณไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิดหรอก วันหลังก็มั่นใจหน่อย "

นี่เป็นครั้งแรกที่เวินหนิงได้ยินคนแปลกหน้าให้กำลังใจเธอ เธอผงะไปชั่วขณะจากนั้นเธอก็ยิ้มออกมา

เวินหนิงไม่ค่อยหัวเราะตั้งแต่ออกจากคุก เธอมีเรื่องให้คิดเยอะ และเธอมีใบหน้าที่เย็นชา แต่เมื่อเธอหัวเราะเธอก็น่ารักจริงๆ

เหอจื่ออันมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเวินหนิง รู้สึกหน้าอกซ้ายของเขากำลังทำงานหนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก