ผู้ตัดสินหญิงท่านหนึ่งก็พยักหน้าอย่างชัดเจน ยิ้มให้ซีซาน “คุณซีซาน จริงๆ มันไม่มีอะไรเลยนะคะ”
“ขอบเขตการออกแบบนั้นกว้างมาก คนที่เดินบนเวทีถึงจะเรียกว่านางแบบ ในสาขานักออกแบบแล้ว คนทุกประเภทล้วนเป็นนางแบบ”
ผู้ตัดสินชายท่านหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ก็คล้อยตาม “ถูกต้อง จริงๆ แล้วการแข่งในวันนี้ ผมค่อนข้างคาดหวังเลยล่ะ ยังไงแล้วนางแบบพวกนี้บริษัทตระกูลลู่ก็เป็นคนเลือกมา”
“ในฐานะนักออกแบบ มีเคสหลายประเภทให้จัดการทุกปี ถึงแม้สถานะปัจจุบันของเราสามารถมีสิทธิเลือกได้ แต่ก็ห้ามลืมความตั้งใจเดิมและหัวใจสำคัญในการออกแบบ”
“เช่นหญิงสาวบนเวที ถึงจะรูปร่างท้วมมาก แต่เธอไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าเหรอ? การมีอยู่ของนักออกแบบ ก็เพื่อทำให้การแต่งตัวตื่นตาตื่นใจและสะดุดตา และคนที่มีข้อบกพร่องก็ต้องสามารถเปล่งประกายได้เช่นกัน”
“ใช่แล้ว นักออกแบบคนไหนๆ ก็หวังว่านางแบบตัวเองจะมีหุ่นที่สมบูรณ์แบบ สามารถแสดงผลงานตัวเองได้สวยยิ่งขึ้น”
“แต่เราจะปฏิเสธและเพิกเฉยต่อนางแบบท่านนี้ด้วยเหตุผลนี้ไม่ได้ เมื่อนักออกแบบเจอนางแบบประเภทนี้ สิ่งที่ต้องทำคือห้ามปฏิเสธ แต่เป็นการคิดพิจารณา ว่าควรออกแบบเสื้อผ้าแบบไหนที่สามารถเปลี่ยนภาพลักษณ์โดยรวมของเธอได้”
ผู้ตัดสินหกท่านพูดทีละประโยค คำพูดที่มีความหมายลึกซึ้งเหล่านี้ ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจซีซาน
เมื่อครู่นี้ที่โกรธและลุกขึ้นถามลู่จิ้นยวนนั้นก็หายไปแล้ว ผู้ตัดสินเหล่านี้พูดแบบนี้แล้ว เขาจะทำอะไรได้? ทำได้แค่ฝืนยิ้ม นั่งลงด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
ทุกอย่างนี้ ล้วนอยู่ในการคาดการณ์ของลู่จิ้นยวน
กฎเหล่านี้เขาเป็นคนกำหนดขึ้นมาเอง เขาก็มั่นใจเช่นกันว่าผู้ตัดสินเหล่านี้ จะต้องให้ความสนใจกับการแข่งนี้อย่างยิ่ง
ยังไงการดูการแข่งออกแบบที่ปกติธรรมดาเยอะแล้ว การประเมินการออกแบบที่ยุ่งยากแบบนี้ มันเป็นสิ่งสดใหม่สำหรับพวกเขา ยังไงแล้วพวกเขาก็ไม่ต้องแข่งเอง พวกเขาแค่ต้องตัดสินเท่านั้น
ท่ามกลางผู้ตัดสินเหล่านี้ มีแค่หนึ่งถึงสองคนเท่านั้นที่ครุ่นคิดในใจ ถ้าตัวเองต้องออกแบบเสื้อผ้าให้นางแบบเหล่านี้ ตัวเองจะออกแบบอย่างไร
ฟิลเอ๋อบนเวที มองไปที่หญิงท้วมที่ยืนข้างตน ร่างกายแข็งทื่อ ทั้งร่างกำลังจะทรุด
เธอรู้สึกว่าความรู้ด้านการออกแบบที่เธอเรียนมาหลายปีนั้น มันไม่เพียงพออย่างสิ้นเชิง
นี่กำลังทำอะไรอยู่? ผู้หญิงคนนี้เป็นนางแบบเหรอ? ออกแบบเสื้อผ้าให้เธอ? ล้อเล่นอะไรน่ะ……
คำถามมากมายวนเวียนในหัวสมองเธอ แต่ไม่มีใครให้คำตอบเธอได้
สภาพแวดล้อมที่ฟิลเอ๋อฮอร์ตันเติบโต รวมถึงสถานะของเธอ และพรสวรรค์ตามธรรมชาติของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอมีจุดเริ่มต้นสูงกว่านักออกแบบทั่วไป
นี่เป็นข้อดี แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกัน
และข้อเสียนี้ ก็เพิ่งปรากฏขึ้นในวันนี้
คนในครอบครัวฮอร์ตันทุกคนระดมความคิดกัน ไม่สามารถหยุดการแข่งบนเวทีได้ หลังจากนางแบบหมายเลขสิบห้าของฟิลเอ๋อแล้ว ก็เป็นนางแบบหมายเลขสามสิบเจ็ดที่โม่โยวเลือก
คนที่เดินออกมาคือนางแบบหญิงท่านหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ อย่างน้อยก็สูงร้อยแปดสิบ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเหมือนนักยกน้ำหนักหญิง
ทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งที่คล้ายกันของนางแบบสองท่านที่ยืนบนเวทีคือ ไม่แน่ใจว่านางแบบของนักออกแบบท่านไหนยากมากกว่ากัน
ต่อไป พร้อมด้วยนางแบบสิบสี่ทันขึ้นเวที คนของบริษัทตระกูลลู่ โม่โยว และเหล่าผู้ตัดสินก็เตรียมใจไว้ตั้งนานแล้ว ตรงกันข้าม สีหน้าของคนในครอบครัวฮอร์ตันนั้นมึนงงแล้ว
นางแบบสิบสี่ท่าน มีคนอ้วนที่น้ำหนักเกือบร้อยโล มีหญิงบึกบึนที่มีกล้ามเนื้อเหมือนนักกีฬาชาย ชายที่มีผิวคล้ำกว่าชาวแอฟริกัน มีหญิงชราใบหน้าเหี่ยวย่นผมหงอก มีแม้กระทั่งคนเสียโฉมจากแผลไฟไหม้ที่ผิวหนังและอื่นๆ ……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก