บ่วงแค้นแสนรัก นิยาย บท 391

เหตุการณ์และสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ผู้ชมที่รับชมการถ่ายทอดสดจากด้านนอก บางส่วนที่อารมณ์ร้ายต่างพากันดุด่าว่ากล่าวออกมาทันที ส่วนบนโลกโซเชียลนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงด่ากันเพียบ

อันเฉินที่นั่งอยู่ด้านล่างเวทีตรงที่สำหรับที่นั่งของตระกูลลู่ ถอนหายใจอย่างเศร้าใจ " คุณหนูฮอร์ตันคนนี้ ถ้าไม่เล่นตัวขนาดนี้ก็คงไม่เป็นแบบนี้ ช่างให้เกียรติกันจริงๆ"

รอยยิ้มของลู่จิ้นยวนที่ริมฝีปากค่อยๆชัดเจนและลึกขึ้น

นั่นน่ะสิ พวกเขาวางแผนไว้ไม่น้อย แต่เจ้าตัวท่านนี้ก็ให้ความร่วมมือได้ดีจริงๆ

กลุ่มคนของตระกูลฮอร์ตันที่อยู่ข้างๆ พวกเขาต่างมีสีหน้าที่ซีดขาว โดยเฉพาะสีหน้าและดวงตาของซีซานที่จ้องมองฟิลเอ๋อ อย่างกับว่าอยากจะวิ่งขึ้นไปบีบคอเธอให้ตายบนเวทีตลอดเวลา

ซึ่งซีซานในตอนนี้ รู้สึกเสียใจและเสียใดที่เสนอการแข่งขันครั้งนี้

ฟิลเอ๋อไม่ได้รับรู้ถึงความโกรธเคืองที่ตนเองก่อขึ้นมาต่อหน้าสาธารณชนนั้นมันจะเลวร้ายแค่ไหน แถมยังไม่ได้ตอบสนองต่อคำขอโทษของนางแบบสาวเลยแม้แต่น้อย ยังมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจขยะแขยง

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วโยนสายวัดให้ผู้ช่วยด้วยสีหน้าหงุดหงิด เพื่อให้ผู้ช่วยช่วยวัดไซล์ให้นางแบบสาว

ในอีกด้านหนึ่ง โม่โยวกำลังใช้สมาธิทั้งหมดดีไซน์งานของตัวเอง ในทีมงานของเธอก็มีนางแบบสาวคนหนึ่งที่มีบาดแผลไฟไหม้ทั่วร่างกาย

ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา คอ ใบหน้าก็มีรอยไหม้เต็มไปหมด

เธอมองนางแบบสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า สีหน้าเธอไม่ได้แสดงถึงความกลัวหรือรังเกียจแม้แต่น้อย เธอกำลังใช้ความคิดในไตร่ตรอง แล้วมองไปที่แบบวาดตรงหน้าของตัวเองอย่างใจเย็น

ตอนนี้เป็นช่วงฤดูร้อน ถ้าหากอยากจะปกปิดรอยแผลเป็นบนตัวนางแบบนั้น พื้นที่และตำแหน่งค่อนข้างที่จะเยอะ ชุดฤดูร้อนยังไงก็ต้องมีบริเวณที่ต้องเปิดบ้าง ต่อให้ปกปิดตั้งแต่ช่วงแขนลงไปจนหมด ส่วนที่คอก็ต้องปกปิดไปด้วย

โม่โยวขมวดคิ้ว ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์ทางร่างกายหรือเอฟเฟกต์ทางภาพจะดูหนาทึบเป็นพิเศษ นี่ยังไม่พอ สิ่งที่ยากที่สุดก็คือใบหน้า

ถ้าเป็นลักษณะแบบนี้ ยังสามารถปกปิดรอยแผลเป็นเหล่านั้นได้อย่างสวยงามและสมบูรณ์แบบ และในขณะเดียวกันก็จะต้องสะท้อนถึงความเบาสบายของฤดูร้อนให้ได้เป็นอย่างดี ......

ทันใดนั้น มีบางอย่างโผล่เข้ามาในสมองของเธอแวบๆ มีล่ะ

มุมปากของโม่โยวค่อยๆยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ดินสอในมือของเธอก็เริ่มทำการวาดโครงร่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โชคดีมากที่นางแบบคนนี้เสียหายเฉพาะผิวหนัง ยังมีหุ่นและความสูงที่ค่อนข้างดีมาก ซึ่งทำให้ลดความยากของแบบในจินตนาการของเธอได้มาก

ความคิดเค้าโครงหลักๆถูกวาดและระบายออกมา ชุดเดรสกระโปรงเกล็ดยาวที่เป็นเกาะอกสีฟ้าอ่อนไม่มีแขนถูกวาดลงบนกระดาษวาด

นอกจากนี้โม่โยวยังสังเกตดูที่แขนกับคอ รวมไปถึงรอยไหม้บนใบหน้าของนางแบบอย่างละเอียด และตำแหน่งความกว้างใหญ่รวมถึงความเข้มของสีด้วย นำสิ่งเหล่านี้ทำเครื่องหมายไว้ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องในภาพวาดอย่างละเอียด

เธอหยิบผ้าสีน้ำเงินที่อยู่ด้านข้างมา ทำการแยกออกมาเป็นสองสีระหว่างสีน้ำเงินเข้มและสีฟ้าอ่อน ตัดไซน์โครงร่างของนางแบบออกอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มทำการเย็บด้วยเครื่องเย็บผ้า

มันเป็นแค่ชุดหุ่นจำลองเท่านั้น เวลาต้ดเย็บขึ้นมาค่อนข้างที่จะเร็วอยู่ ไม่กี่นาทีก็เย็บเสร็จแล้ว

โม่โยวได้พานางแบบเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุด ให้เธอลองสวมใส่ดูขนาด ยังมีตรงไหนที่ต้องแก้ไขบ้าง

จากนั้นให้ผู้ช่วยสองคนลงมือ หนึ่งในนั้นเข้าห้องเปลี่ยนชุด ทำการแต่งหน้าตามที่เธอต้องการ และอีกหนึ่งคนลงมือติดเกล็ดสีน้ำเงินไล่ตามระดับลงบนชุดจำลองของเธอ

โม่โยวหายใจออกยาวๆ แล้วมองไปที่นางแบบคนที่สองของตัวเอง

ด้านของฟิลเอ๋อ หลังจากที่ได้ขนาดไซน์จากผู้ช่วยของเธอ หยิบดินสอขึ้นมาขมวดคิ้วแน่น เธอคิดไม่ออกจริงๆ ผู้หญิงที่น่าขยะแขยงแบบนั้น ต่อให้เอาเพชรพลอยมาติดเต็มบนตัวเธอ คงจะทำให้คนอื่นเขารู้สึกอยากอาเจียนออกมามากกว่า

เธอไม่เคยแข่งขันดุเดือดแบบนี้มาก่อน

สุดท้าย ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตอนนี้ หลังจากที่เธอสูญเสียเวลาเปล่าๆไปครึ่งชั่วโมง ก็ยังไม่ได้อะไรออกมา จนในที่สุดเธอก็ทิ้งดินสอลงข้ามนางแบบคนนี้ไปอย่างไม่สนใจ แทนที่จะเสียเวลากับคนนี้เธอตัดสินใจเลือกคนถัดไปไม่ดีกว่าเหรอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก