การประมูลเริ่มไปได้ครึ่งทาง เวินหนิงก็ไปเข้าห้องน้ำ
เธอถือชายกระโปรง ในตอนที่เดินหักมุม จู่ ๆ ก็มีคนเดินมาจากอีกด้านหนึ่ง เธอไม่ทันระวังก็ชนเข้าพอดี
“ว้าย...”
เวินหนิงตกใจ ทรงตัวได้ในทันที เมื่อลองดูดี ๆ บนพื้นมีผู้หญิงวัยรุ่นสวมใส่ชุดราตรีคนหนึ่ง
เธอสีหน้าเปลี่ยนไป รีบเข้าไปพยังเธอขึ้นมาทันที “คุณหนูคะ ต้องขอประธานโทษจริง ๆ คุณไม่เป็นไรนะคะ? ฉันไม่ได้ตั้งใจชนคุณ”
กงมั่วลุกขึ้นยืน ปัดฝุ่นบนตัวเบา ๆ แล้วมองไปที่เวินหนิง สังเกตุเธออย่างรวดเร็วโดยไร้ร่องรอย จากนั้นก็ยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ไม่เป็นไรคะ คุณไม่ได้ชนฉัน ฉันคิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ จะมีคนออกมา จึงตกใจจนตัวเองล้มลงไป ไม่เกี่ยวกับคุณค่ะ”
ท่าทางใจกว้างของเธอ ทำให้คนอื่นเกิดความรู้สึกดีอย่างง่ายมาก เวินหนิงถอนหายใจ แล้วก็ยิ้ม “คุณไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
“คุณก็มาร่วมงานประมูลเหรอคะ ทางเข้าออกห้องน้ำของงานประมูลมีเยอะแยะ พวกเราสามารถชนกันได้ก็ถือว่าเป็นพรหมลิขิตอย่างหนึ่ง รุ้จักกันไว้สักหน่อยไหมคะ”
“ฉันชื่อกงมั่ว แล้วคุณหละ?”
จู่ ๆ กงมั่วพูดขึ้น
ได้ยินชื่อของเธอ เวินหนิงตะลึงไปพักหนึ่ง ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ลูกชายของเธอรายงานข่าวกับเธอเรื่องชนเรื่อง ทุุกเรื่องมีชื่อที่เหมือนกันนี้
ชื่อนี้ก็คือกงมั่ว เธอไม่อยากจำก็เป็นไปได้ยาก
กงมั่ว เด็กหญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่จู่ ๆ เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลลู่ คือหลานสาวของสหายเก่าของนายท่านลู่ ก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศมาโดยตลอด ช่วงนี้เพิ่งจะกลับประเทศ
เวินหนิงทำยังไงก็คิดไม่ว่าเธอจะชนเข้ากับผู้หญิงคนนี้โดยไม่ระวัง ในเมื่อเป็นคนของเรื่อง เธอรู้สึกว่านี่มันบังเอิญเกินไปหน่อย
ความคิดพวกนี้แล่นผ่านในหัว สีหน้าของเวินหนิงแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็กลับคือสู่ปกติอย่างรวดเร็ว “ฉันชื่อเวินหนิง สวัสดีค่ะ”
สีหน้าของเธอเมื่อครู่ แน่นอนว่าถูกกงมั่วมองอยู่ในสายตา ดวงตาสั่นไหว ดูท่าแล้ว ผู้หญิงคนนี้รู้ข้อมูลของเธอ?
เธอรู้มาจากไหน?
ไม่น่าจะเป็นลู่จิ้นยวนที่บอกเธอหรอก?
เธอหาคำตอบไม่ได้ในทันที กงมั่วก็ไม่อยากคิดเยอะ ผู้หญิงคนนี้ชื่อเวินหนิงเหรอ ในเมื่อเธอรู้แล้ว กงมั่วจู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
“เวินหนิง เป็นชื่อที่เพราะจริง ๆ ค่ะ คุณจะไปห้องน้ำเหรอคะ ฉันก็กำลังจะไปห้องน้ำพอดี ไปด้วยกันนะคะ”
เธอพูดจบ ก็หมุนตัวเดินกลับไป เวินหนิงอยากจะปฏิเสธก็ไม่มีทางเลือกอื่น จึงทำได้เพียงเดินตามไป
กงมั่วยืนแต่งหน้าอยู่ข้างอ่างล้างหน้า ในตอนที่เธอหยิบแป้งพับออกมา เหมือนกับออกแรงมากเกินไปหน่อย จึงทำให้ของสิ่งหนึ่งข้างในก็ตกลงบนพื้น
“ว้าย...”
เธอร้องอย่างตกใจ แล้วรีบยัดเครื่องสำอางค์กลับใส่กระเป๋าอย่างรีบร้อน แล้วก็ล้างมือ
เวินหนิงที่อยู่ด้านข้างเห็นแบบนี้ ก้มลงไปช่วยเธอหยิบมันขึ้นมาด้วยจิตใต้สำนึก ของสิ่งนั้นคือบัตรเชิญงานเลี้ยง
“เวินหนิง ขอบคุณนะคะ เพียงแต่มันเปียกแล้ว คงใช้ไม่ได้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าร่วมงานเลี้ยงแบบนี้ ไม่รู้ว่าบัตรเชิญนี้เดี๋ยวอีกสักครู่ยังต้องใช้อีกหรือเปล่า”
เวินหนิงพูดปลอบใจ “ไม่ต้องเป็นกังวล บัตรเชิญนี้แค่ใช้เข้าในงาน ไม่ได้ใช้ในภายหลัง”
“จริงเหรอคะ งั้นฉันก็วางใจแล้ว”
“เห้อ ฉันพูดกับแม่สามีของฉันไว้แล้ว ว่าฉันไม่อยากมาร่วมงานประมูลอะไรนี่ แต่ท่านพูดว่าฉันเพิ่งกลับประเทศมา อยากให้ฉันรู้จักคนขึ้นเยอะ”
กงมั่วสีหน้าจำใจ
เวินหนิงอดไม่ได้ที่จะตกใจกับคำพูดของเธอ “แม่สามี?”
กงมั่วพยักหน้า “ใช่ค่ะ งานเลี้ยงประมูลครั้งนี้เชิญแม่สามีของฉัน ฉันไม่มีสิทธิ์มาอยู่ที่นี่ แต่คุณแม่สามีของฉันบอกให้ฉันมาเข้าร่วมแทนเธอ”
เธอพูดจบ ก็เปิดบัตรเชิญให้เธอดู “นี่ไงคะ เห็นไหม บนบัตรเชิญนี้ไม่ใช่ชื่อของฉัน เป็นชื่อของคุณแม่สามีฉันค่ะ”
เนื้อหาในบัตรเชิญ ชื่อผู้ถูกเชิญสีทองแถวแรกสะดุดตามาก เย่หวานจิ้งตัวอักษรสามตัว สะดุดตาของเวินหนิง เธออดไม่ได้ที่จะกำหมัด ในใจสงสัยเเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก