ที่ผ่านมาไป๋ซินอวี๋อยู่ที่ต่างประเทศตลอด ย่อมไม่รู้แน่ชัดอยู่แล้วว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนนั้นที่รู้ว่าเวินหนิงตายแล้ว เขายังรู้สึกผิดอยู่นาน
บางที เขาอาจเป็นคนที่ทำให้นิสัยของมู่เยียนหรานเปลี่ยนไปและหันกลับใช้ความรุนแรง จนทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตขึ้นมา
" ใช่ค่ะ ฉันยังมีชีวิตอยู่"
เวินหนิงพูดเบา ๆ สำหรับไป๋ซินอวี๋เธอจำเขาไม่ค่อยได้แล้ว จำได้แค่ตอนที่เขามาหาเรื่องตัวเองเพราะมู่เยียนหราน
อย่างไรก็ตามหลัง เวลาผ่านไปหลายปีแล้ว เธอไม่อยากไปไล่ตามเอาความ เรื่องไร้สาระพวกนั้นแล้ว
ในมุมมองของเธอ ไป๋ซินอวี๋ก็เป็นคนที่น่าสงสารเช่นกัน รักมู่เยียนหรานมาโดยตลอด แต่ทำอะไรไม่ได้ เพื่อเธอแล้วยังลืมหูลืมตาทำผิดพลาดไปหลายอย่าง
“ เรื่องก่อนหน้านั้นเป็นความผิดของผมเอง ผมขอโทษครับ ”
ไป๋ซินอวี๋ก้มหัวลง ยอมรับผิดและขอโทษด้วยใจจริง
เมื่อรู้ว่าเวินหนิงยังมีชีวิตอยู่ ความรู้สึกผิดในใจของเขาก็ลดลงมาบ้าง
"มันผ่านไปแล้วค่ะ"
เวินหนิงตอบกลับอย่างใจกว้าง ต่อไปนี้ทั้งสองคนคงไม่ได้เจอกันอีก เธอเลยไม่อยากไปจดจำมันอีก
เมื่อได้ยินคำพูดของเวินหนิง ไป๋ซินอวี๋ละอายใจนิดๆ
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ผ่านเรื่องเลวร้ายมาขนาดนี้ ยังใจกว้างได้ขนาดนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ คุณว่างใจได้ เธอไม่มีทางกลับประเทศไปอีก ผมจะค่อยดูเธอไว้เอง ”
ไม่จำเป็นต้องพูด เวินหนิงก็รู้ว่า "เธอ" ในปากของเขาคือใคร
เธอตอบกลับไปอย่างแผ่วเบาจากนั้นก็วางสายโทรศัพท์
จากนั้นลู่จิ้นยวนถึงได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อมองไปที่เวินหนิง ยังเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจของเธอเล็กน้อย " ตอนนี้คุณว่างใจหรือยัง"
เมื่อได้ยินเขาถามแบบนี้ เวินหนิงหันหน้าเดินจากไปอย่างไม่พอใจ
เธอว่างใจอะไร เขาจะเป็นยังไงเธอไม่ได้สนใจสักหน่อย
แต่ว่าต้องยอมรับว่า หัวใจของเธอดีขึ้นกว่าเมื่อกี้มาก
ลู่จิ้นยวนเห็นเธอยังโกธรอยู่ หัวใจยังคงงุ่มง่าม
หัวใจของผู้หญิง เป็นอะไรที่เข้าใจยากจริงๆ
เขาไม่รู้จะทำยังไงอีก อะไรที่ควรทำเขาก็ทำไปหมดแล้ว ที่เหลือก็รอให้เวินหนิงคิดได้เองก็แล้วกัน
...
หลังจากที่ลู่อันหรานเลิกเรียน ก็ถูกรับกลับไปที่บ้านตระกูลลู่
เมื่อเย่หวานจิ้งเห็นเขากลับมา ดึงเขาเข้าบ้านด้วยความรักใคร่เอ็นดู สั่งห้องครัวให้ทำอาหารอร่อยๆให้เขา
ลู่อันหรานสีหน้าไม่สดใสเลย ถึงแม้จะรู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่ออกไปทำธุระแล้วก็ตาม แต่กันที่อยู่บ้านคนเดี่ยว มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกเหงาๆอย่างกับถูกทอดทิ้ง
ราวกับว่าเย่หวานจิ้งจะดูความในใจของเขาออก ก็เลยเรียกหญิงสาวที่เธอตั้งใจคัดเลือก ในช่วงสองสามวันนี้
หญิงสาวคนนี้ คือเฉิ่นหรูเย่ว์เป็นลูกสาวคนเล็กของบ้านเพื่อนรักของเย่หวานจิ้ง ตอนนี้เพิ่งจะอายุยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น ยังไม่จบวิทยาลัย
ฐานะทางครอบครัวเมื่อเทียบกับตระกูลลู่แล้วไม่ได้คู่ควรอะไร แต่สิ่งที่ดีคือยังเด็กและยังเชื่อฟัง ยิ่งไปกว่านั้นวิชาเอกที่เธอเรียนคือครู น่าจะชอบมีนิสัยของเด็ก ๆ
เย่หวานจิ้งเห็นว่าลู่จิ้นยวนไม่อยู่ และเวินหนิงก็ออกไปแล้ว ก็เลยอยากให้เขาทำความรู้จักและคุ้นเคนกับลู่อันหรานก่อน
ไม่ว่าจะยังไง ลู่อันหรานเป็นลูกชายคนเดียวของลู่จิ้นยวน ไม่ว่าต่อไปในอนาคตลู่จิ้นยวนจะอยู่กับใคร ก็ต้องผ่านการทดสอบเขาเป็นด่านแรก
" อันหราน ต่อไปนี้ให้พี่สาวคนสวยคนนี้มาเป็นเพื่อนเล่นกับหนูดีไหม "
ลู่อันหรานเหลือบมองเฉิ่นหรูเย่ว์ " ไม่เอา ผมอยากอยู่คนเดียว"
เมื่อเห็นการปฏิเสธอย่างเด็ดขาดของเขา รอยยิ้มของเฉิ่นหรูเย่ว์ก็หยุดนิ่งแข็งทื่อไปเลย เย่หวานจิ้งดึงเธอเดินออกไป
“ นิสัยของเด็กคนนี้เป็นอย่างงี้แหล่ะ จะไม่สนิทสนมกับคนแปลกหน้าง่ายๆ หนูอดทนหน่อยนะ สักวันเขาจะต้องยอมรับหนูแน่นอน”
เฉิ่นหรูเย่ว์พยักหน้า สถานการณ์ทางธุรกิจของตระกูลเฉิ่นกำลังย่ำแย่ หากตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามาให้ความช่วยเหลือ กลัวว่าจะทนอยู่ได้อีกไม่นาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก