ซ่งรั่วอวิ้นรีบรับปากทันที ก่อนจะไปหาหยงซือเหม่ยที่ยังไม่ได้ออกไป
ที่ซ่งรั่วอวิ้นได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากนายท่านหยงนั้น ก็เป็นเพราะเหตุการณ์อุบัติเหตุเมื่อครั้งที่นายท่านหยงไปปีนเขา เนื่องจากนายท่านหยงหัวใจวายฉับพลัน ซึ่งซ่งรั่วอวิ้นได้ไปเจอท่านเข้าพอดี เลยไปเรียกคนมาช่วยไว้ได้ทัน
ต่อมา พอนายท่านหยงทราบว่าซ่งรั่วอวิ้นเป็นเด็กกำพร้า ท่านจึงได้รับมาอุปการะเลี้ยงดู
และซ่งรั่วอวิ้นเองก็เป็นเด็กดีและขยันขันแข็งมาก ตั้งแต่บ้านตระกูลหยงรับเธอมาเลี้ยงดู ไม่ว่าผลการเรียนหรือผลงานที่เธอทำออกมาดีทุกด้าน เลยทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับหยงซือเหม่ยที่เอาแต่เที่ยวอย่างเดียว
อีกทั้งยังมีการลือกันว่า นายท่านหยงเตรียมจะมอบหุ้นบางส่วนให้ซ่งรั่วอวิ้น ซึ่งจะทำให้ซ่งรั่วอวิ้นกับหยงซือเหม่ยมีทีนั่งพอๆกันด้วย
"คงไม่ใช่ว่าเธอจะมาแย่งของที่ฉันเล็งไว้อีกแล้วนะ?"
หยงซือเหม่ยหรี่ตาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่เหลือภาพพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวอย่างที่แสดงต่อหน้านายท่านหยงแม้แต่นิด
ซ่งรั่วอวิ้นรีบส่ายหน้า: "ไม่ค่ะ"
"รู้ตัวก็ดีละ จำฐานะตัวเองให้ดี เธอเป็นแค่เด็กที่ท่านปู่รับมาเลี้ยง อย่าริอาจมาแย่งของของบ้านตระกูลหยงกับฉัน เธอ......ไม่มีสิทธิ์"
ซ่งรั่วอวิ้นก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไร ทำได้เพียงแค่กำหมัดไว้แน่น
นานครู่ใหญ่ กว่าเธอจะเงยหน้าขึ้นมาฝืนยิ้ม: "ฉันจะขับรถไปส่งคุณเอง"
หยงซือเหม่ยทำเสียงในลำคอทีหนึ่ง ก่อนจะเข้าไปนั่งบนรถด้วยท่าทางที่มองว่ามันเป็นหน้าที่เธออยู่แล้ว
ซ่งรั่วอวิ้นถอนหายใจทีหนึ่ง ก่อนจะบอกตัวเองว่าอยากไปใส่ใจ
ก่อนหน้านี้ เนื่องจากผู้ชายที่ตามจีบหยงซือเหม่ยเห็นว่าเธอเป็นคนโมโหร้าย เลยหันมาจีบซ่งรั่วอวิ้นแทน และเพราะเรื่องนี้ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของเธอทั้งสองตึงเครียดหนักกว่าเก่า
.........
หลังจากที่ลู่จิ้นยวนกลับจากโรงแรม เขาก็รีบติดต่อไปที่สถาบันวิจัยทันที
เป็นเพราะตระกูลหวงออกปากแทน จึงทำให้ศาสตราจารย์หลี่ยอมตกลงที่จะเดินทางไปผ่านตัดที่เมืองเจียงเฉิง
อันเฉินเองก็ออกตัวจะเป็นคนจัดการพาเขาไปส่งเอง
ลู่จิ้นยวนเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เขาเข้าใจตราบใดที่อันเฉินยังคิดถึงแต่เย่ซือเยวี่ย จะบังคับเขาให้อยู่ก็ไม่มีความหมายอะไร
แล้วก็........
พอดีเลยเขาและเวินหนิงจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันสองคน โดยไม่มีใครมากวน
แต่เวินหนิงที่ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ พอได้ยินว่าสามารถกลับไปผ่านตัดที่เมืองเจียงเฉิงได้แล้ว เธอจึงอยากไปกับอันเฉินด้วย
ลู่จิ้นยวนจึงรีบห้ามเธอไว้ : "เธอยังต้องตรวจสอบเรื่องของบ้านตระกูลหยงอีกไม่ใช่เหรอ?"
เวินหนิงคิดไปคิดมา: "จริงด้วย"
ดังนั้นจึงต้องให้อันเฉินเป็นคนพาไป ขณะที่เวินหนิงไปส่งอันเฉินก็ฝากฝังอันเฉินว่าผ่านตัดเมื่อไหร่ให้บอกเธอด้วย เธอจะได้รู้สถานการณ์ทางโน้น จะได้ไม่ต้องเป็นกังวล
หลังจากส่งอันเฉินเสร็จ เวินหนิงเองก็รู้สึกเบาใจมากขึ้น
ลู่จิ้นยวนมองดูเวลาเห็นว่าค่ำมากแล้ว
"เราออกไปกินข้าวข้างนอกกันมั้ย?"
ที่นี่เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศZ ดังนั้นอาหารที่นี่จึงมีแต่อาหารชื่อดังทั้งนั้น
พอได้ยินลู่จิ้นยวนถามเธอจึงมองดูเวลา ก่อนจะรู้สึกว่าหิวแล้วเหมือนกัน เลยพยักหน้าเห็นด้วย
ขณะที่ลู่จิ้นยวนจะขับรถพาเวินหนิงไปทานข้าว หยงซือเหม่ยก็ตามเข้ามา
พอเห็นลู่จิ้นยวนสีหน้าเธอก็ดีใจอย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกับลู่จิ้นยวนบ่อยนัก แต่เนื่องจากว่าเขาเคยช่วยชีวิตเธอไว้ ทำให้เธอตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องตามจีบเขาให้ได้
"คุณชายลู่ บังเอิญจังเลยค่ะ"
หยงซือเหม่ยเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า
เวินหนิงขมวดคิ้วอย่างสงสัย
หยงซือเหม่ยตั้งใจขับรถมาหาชัดๆ มันบังเอิญตรงไหนกัน?
แต่เมื่อเห็นเธอยิ้มมาแต่ไกล เลยไม่อยากพูดอะไรมาก
"คุณนัดเธอไว้เหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บ่วงแค้นแสนรัก