ในห้องนอนนอกจากทั้งครอบครัวของฝ่าบาทผู้สูงส่ง และทั้งครอบครัวของเฉียนจิ้งคุน
สองสามีภรรยาอย่างหวงต้าไห่ในฐานะพ่อแม่บุญธรรมของเสิ่นรั่วชิง ก็อยู่ด้วย
ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินเย่อู๋เทียนจะออกคำสั่งให้ฝ่าบาทผู้สูงส่งด้วยน้ำเสียงตำหนิ
เงียบกริบกันทั้งหมด
โดยเฉพาะหวงต้าไห่ ตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าลงมาอยู่บนพื้น
ลูกเขยของตัวเอง สถานะเป็นแบบไหนกันแน่ กล้าพูดแบบนี้ต่อฝ่าบาทผู้สูงส่งของประเทศ?
ทั้งครอบครัวของเฉียนจิ้งคุนก็ตึงเครียดขึ้นอย่างมาก คาดไม่ถึงว่า เย่อู๋เทียนจะปฏิบัติต่อฝ่าบาทประเทศเช่นนี้
แต่สิ่งที่ทำให้คนตกตะลึงมากๆก็คือ หลังจากที่ฝ่าบาทได้ยินคำตำหนิของเย่อู๋เทียน ใบหน้าไม่มีความโกรธแม้แต่น้อย
แต่กลับท่าทางดูน้อยเนื้อต่ำใจ
หลายปีมานี้ ไม่นึกเลยว่าเขาจะสังเกตไม่เห็นถึงความทะเยอทะยานที่โฉดชั่วของถังเจิ้งเฟิง
ประมาทเกินไปแล้วจริงๆ
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ฝ่าบาทผู้สูงส่งถึงได้พูดเบาๆ
“งั้นฉันขอตัวก่อน ฉันจะเร่งไปที่เอ๋อเหมย ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ภายในสามวัน ไม่ชัดเจน ฉันจะรับผิดชอบด้วยการลาออก!”
เย่อู๋เทียนตอบอย่างเฉยเมย
“คุณกลับไปที่ตี้ตู จัดการเคลียร์ตระกูลถังก่อน ส่วนเรื่องหลังภูเขาเอ๋อเหมย แค่ส่งหวางเอ๋อร์ไปก็พอ ร่างกายของเธอนั้นเหนือกว่าคนทั่วไป ต่อให้เจอกับถังเจิ้งเฟิงและหญิงสาวคลุมหน้าเหมือนอย่างวันนี้ เธอก็สามารถที่จะล่าถอยออกมาได้!”
ฝ่าบาทผู้สูงส่งได้ยินคำพูดนี้ ฟังหูไว้หู
ยังไงก็คาดไม่ถึงว่า ในสายตาของเย่อู๋เทียน ศักยภาพของศิลปะการต่อสู้ของโล่หวางจะน่ากลัวมากเช่นนี้
ขนาดตัวของโล่หวางเองก็ไม่เชื่อ ตัวเองมีศักยภาพน่ากลัวขนาดนั้น
เจอกับถังเจิ้งเฟิงและหญิงสาวที่คลุมหน้าอย่างเมื่อกี้นี้ ตัวเองสามารถที่จะล่าถอยออกมาได้จริงๆเหรอ?
แต่เมื่อคิดถึงสายตาที่ไม่เหมือนใครของเย่อู๋เทียน อารมณ์ของโล่หวางก็ซับซ้อน
เฉียนเป่ยเฉินนอนติดเตียงมายี่สิบปี ก็สามารถที่จะเอาชนะหลินกู่ฉานได้ด้วยการชกสองหมัด!
ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อเย่อู๋เทียนบอกว่าโล่หวางทำได้ โล่หวางจะต้องดำเนินภารกิจให้สำเร็จอย่างแน่น
เสิ่นรั่วชิงที่อยู่บนเตียงได้ลุกขึ้นมาแล้ว
เย่อู๋เทียนโบกมือ
ฝ่าบาทผู้สูงส่งและคนอื่นถอยออกไป
ในห้องเหลือแค่เย่อู๋เทียนกับเสิ่นรั่วชิงทั้งสองคน
เย่อู๋เทียนมองดูเสิ่นรั่วชิงที่เพิ่งตื่นมา และพูดด้วยความรู้สึกผิด: “ขอโทษด้วย ฉันไม่ได้ปกป้องเธอให้ดี”
เสิ่นรั่วชิงมองดูเย่อู๋เทียน ยกมือขึ้นแตะไปที่แก้มของเขา และยิ้มจางๆ: “ฉันไม่เป็นไร”
เย่อู๋เทียนยิ้มอย่างขมขื่น: “วันนี้ ตอนแรกเป็นวันสำคัญของฉันกับเธอ คาดไม่ถึงว่าจะวุ่นวายกลายเป็นสภาพในตอนนี้”
เสิ่นรั่วชิงนิ่งไปเล็กน้อย และพูดด้วยความสงสัย: “วันสำคัญอะไร?”
เย่อู๋เทียนไม่ได้พูดอะไร ประคองเสิ่นรั่วชิงขึ้นมา มาถึงหอสังเกตการณ์ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมว่างไห่
ฉากตรงหน้านี้ สวยจนทำให้คนแทบลืมหายใจ
ข้างนอกเป็นเวลากลางคืน
แสงสว่างของดวงจันทร์ในน้ำทะเล
ด้วยความค่ำคืนมืดมิดเป็นม่าน ดาวตกนับร้อยล้านตกอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าหาทะเล
ในดาวตก
ดอกกุหลาบขนาดมหึมา ที่แขวนไว้ในม่านราตรี ดอกไม้สีแดงใบไม้สีเขียว แม้จะเป็นเพียงภาพลวง แต่ก็เหมือนมีชีวิต
เสิ่นรั่วชิงมองดูฉากนี้ด้วยความนิ่งอึ้ง
น้ำตาไหลลงมา
ตอนที่หันหน้ามองดูเย่อู๋เทียนอีกครั้ง ใบหน้าที่สวยงาม เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาที่งดงามแล้ว
เย่อู๋เทียนยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของเสิ่นรั่วชิง และพูดอย่างอ่อนโยน
“นี่เป็นพิธีที่ฉันจัดเตรียมไว้ขอเธอแต่งงาน น่าเสียดาย……”
แต่ไม่รอให้เย่อู๋เทียนพูดจบ เสิ่นรั่วชิงก็ขัดจังหวะทันที
“ฉันจะเอาแหวน!”
เย่อู๋เทียนนิ่งไปเล็กน้อย และดูเขินอาย
“เอาไว้วันหลังดีกว่า วันนี้ที่นี่มีคนตาย โชคไม่ดีนิดหน่อย”
เสิ่นรั่วชิงร้องไห้แล้วงอน
“ฉันไม่สน ฉันจะเอาแหวน”
เย่อู๋เทียนยกมือขึ้นเกาจมูก แล้วหยิบกล่องผ้าสีดำออกจากกระเป๋ากางเกง
หลังจากเปิดออกมา เป็นแหวนเพชรสีชมพูงดงามวงหนึ่ง
เสิ่นรั่วชิงยื่นมือที่เรียวยาวออกแล้ว และริมฝีปากของเธอก็เปิดออกเล็กน้อย
“ช่วยสวมให้ฉัน”
เย่อู๋เทียนอ้าปาก
“ฉันยังไม่ได้ขอเธอแต่งงานเลยนะ เธอจะแต่งงาน……”
เสิ่นรั่วชิงก็เร่งอย่างอน
“รีบสวมเดี๋ยวนี้!”
ผลปรากฏว่า กระบวนการที่เย่อู๋เทียนคุกเข่าข้างหนึ่งก็ไม่ต้องทำแล้ว และรีบสวมแหวนเพชรให้เสิ่นรั่วชิง
เย่อู๋เทียนสูดหายใจลึก และถามอีกครั้ง
“รั่วชิง เธอจะ…….”
ก็ไม่รอให้เย่อู๋เทียนพูดจบ เสิ่นรั่วชิงยืนเขย่งปลายเท้าขึ้นมาจูบปากของเขา
เย่อู๋เทียนมึนงง
นี่…….
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...