จอมนักรบอหังการ นิยาย บท 123

สายตาของฉาวซิงและคนอื่น ๆ ต่างก็จับจ้องไปที่เย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิง

สีหน้าของทุกคนบ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อ

โดยเฉพาะเกาเยว่หรูและหยางเฟยเอ๋อร์ ไม่ว่าอย่างไรทั้งสองก็คิดไม่ถึงว่า เสิ่นรั่วชิง......

จะกลายเป็นน้องร่วมสาบานจองฝ่าบาทไปได้ !

ทันใดนั้นเกาเยว่หรูก็รู้สึกได้ว่า ตนเองคือตัวตลกคนหนึ่ง ที่ยังคิดจะเข้าไปทำลายครอบครัวของเสิ่นรั่วชิง ยังคิดที่จะหาโอกาสใช้กลยุทธ์สาวงามกับเย่อู๋เทียน !

ยังไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเย่อู๋เทียนจะหลงกลอุบาย....

ต่อให้เย่อู๋เทียนหลงกล หากเสิ่นรั่วชิงรู้เรื่องนี้เข้า เกรงว่าเธอคงทำแค่แบะปาก ไม่ใช่แค่เธอจะหายไปจากโลกนี้ ต่อให้เป็นกลุ่มการค้าหลากหลายชาติพันธุ์ ล้วนต้องหายไปจากโลกนี้ด้วยเหตุผลนี้ทั้งสิ้น !

เมื่อคิดได้อย่างนี้ แววตาของ เกาเยว่หรูที่มองเสิ่นรั่วชิงก็เต็มไปด้วยความหวาดผวา

โชคดีที่......

เธอได้แต่คิดเรื่องนี้กับเย่อู๋เทียนเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเคลื่อนไหวใด ๆ หากได้มีการเคลื่อนไหวไปแล้ว ผลลัพธ์คงจะยากที่จะนึกถึงได้ !

ล่วนหยางเฟยเอ๋อร์นั้น......

แน่นอนว่าคงต้องผิดหวัง แต่เธอนั้นไม่ได้เสียใจต่อการกระทำทั้งหมดในวันนี้

กลับกัน เธอคือผู้หญิงที่ได้ผ่านความตายมาแล้ว

ไม่ว่าอะไรเธอก็ไม่กลัว

หลังจากที่เสิ่นรั่วชิงตอบกลับชายวัยกลางคนไม่กี่ประโยคอย่างเกรงใจ ชายหนุ่มที่มีฐานะเป็นเลขาของฝ่าบาท ก็ค่อย ๆ เดินจากไป

เย่อู๋เทียนจับมือของเสิ่นรั่วชิง พูดกับเธอว่า “พวกเราไปกันเถอะ”

เสิ่นรั่วชิงพยักหน้าอย่างอ่อนโยน

ในที่สุดอ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็ได้สติกลับคืนมา เมื่อเห็นเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงเดินออกจากร้านเสื้อผ้าสตรีไป จึงรีบตามคนทั้งสองออกไปด้วย

ใช้เวลาพักหนึ่งกว่าที่อารมณ์จะกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ

ต่อให้ตอนนี้ทุบศีรษะของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยจนแตก เธอก็ไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดคือเรื่องจริง

เพื่อนสนิทของเธออย่างเสิ่นรั่วชิง เป็นน้องร่วมสาบานของฝ่าบาท !

และที่ทำให้เธอคิดเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้ก็คือตัวตนของเย่อู๋เทียน !

เย่อู๋เทียนไม่ได้เป็นคนของตระกูลเย่ ตระกูลที่ไม่มีอะไรเลยในเมืองเจียงไห่หรอกหรือ ?

ทำไมถึงมีความสัมพันธ์กับฝ่าบาทได้ ?

อยากถาม

แต่ก็ไม่กล้า

ภายในร้านขายเสื้อผ้าเฟยฉือ ฉาวซิงและคนอื่นได้สติกลับมาแล้ว

หยางเฟยเอ๋อร์มองเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงเดินจากไปอย่างว่างเปล่า ในใจมีแต่ความสับสน

จากนี้ไปจะทำอย่างไรต่อดี ?

หยางเฟยเอ๋อร์ตอนนี้ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าจะหน้าที่การงาน เงินทอง ล้วนไม่อยู่ในสายตาของเธอ เธอคิดอยากครอบครองแค่เย่อู๋เทียนเท่านั้น !

แต่ว่าดูแล้วหลังจากนี้.....

เย่อู๋เทียนนั้นราวกับเทพมังกรที่ทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ส่วนเธอนั้น กลับเป็นได้แค่ดอกไม้ที่ปลิวไสวไปตามสายลม

ฉาวซิงมองหยางเฟยเอ๋อร์ที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจ จึงถอนหายใจออกมาและพูดกับเธอว่า “เฟยเอ๋อร์ แม้ว่าพ่อจะไม่รู้ว่าตัวตนของเย่อู๋เทียนเป็นใคร แต่พ่อก็มองออก ว่าลูกกับเขาไม่คู่ควรกัน”

หยางเฟยเอ๋อร์น้ำตาไหลริน !

ฉาวซิงลองยกมือขึ้นไปวางไว้บนไหล่ของเธอ จากนั้นพูดขึ้นมาว่า “กลับบ้านกันเถอะ ไปสืบทอดมรดกของพ่อ ลูกยังเด็ก

ไม่แน่ว่าถ้าลูกพยายามต่อไป วันใดวันหนึ่งก็จะสามารถเป็นเพื่อนกับเย่อู๋เทียนได้ !”

หยางเฟยเอ๋อร์ฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวด “กลายเป็นเพื่อนกับเขา ? หลังจากวันนี้ไป กลัวว่าแค่หวังจะพบหน้าเขา ก็แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว !”

ฉาวซิงไม่รู้ว่าจะปลอบใจหยางเฟยเอ๋อร์อย่างไรต่อแล้ว

ทันใดนั้นหยางเฟยเอ๋อร์ก็พูดขึ้นมาว่า “ทำไมพ่อถึงรีบทำพินัยกรรมนักล่ะ ?”

ฉาวซิงถอนหายใจ “ขึ้นไปคุยกันด้านบนเถอะ”

สองพ่อลูกขึ้นไปบนตึก จากนั้น ฉาวซิงก็ได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโรคร้ายของเขาให้แก่หยางเฟยเอ๋อร์ฟัง

เมื่อหยางเฟยเอ๋อร์ได้ฟังจนจบ แววตาที่มองฉาวซิงก็เต็มไปด้วยความสงสารอย่างอดไม่ได้

บุคคลที่เป็นดั่งวีรบุรุษในยุคนี้ กลับต้องมาบอกลาโลกแต่เพียงเท่านี้

ฉาวซิงพูดด้วยความโศกเศร้าว่า “ความผิดผลาดที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ที่พ่อทิ้งแม่ของลูกไป ตอนนี้มาลองคิดดู กลับรู้สึกเสียดายเหลือเกิน ในช่วงชีวิตคน ไม่ว่าจะเงินทอง อำนาจ หญิงงาม สุดท้าย ก็เหมือนเมฆที่ล่องลอย ในท้ายที่สุดก็ต้องกลายเป็นเศษดินไม่ใช่หรือ ? ความปรารถนาของพ่อในตอนนี้ ก็คืออยากให้ลูกให้อภัยพ่อ พ่อหวังจริง ๆ ว่าลูกจะมีความสุขได้ในทุก ๆ วัน !”

หยางเฟยเอ๋อร์เงียบลงไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “หนูรู้จักคนที่สามารถช่วยชีวิตพ่อได้”

ฉาวซิงส่ายหน้า “สายไปแล้วล่ะ พระเจ้าก็ไม่อาจช่วย แม้แต่คนของหอร้อยยา พ่อก็เคยไปรับการรักษาแล้ว อีกฝ่ายเคยบอกเอาไว้ ว่าไม่มีหนทางรักษาอีกแล้ว !”

หยางเฟยเอ๋อร์พูดด้วยสายตาแน่วแน่ว่า “เย่อู๋เทียนรักษาพ่อได้ !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ