เมื่อคำพูดนี้ของท่านฮัวจบลง บรรยากาศด้านหน้าของบาร์ก็เคร่งขรึมขึ้นในทันที
แขกบางคนซึ่งเดินผ่านทางมา หยุดเดินและมองมายังเย่อู๋เทียนด้วยความสงสัย พวกเขาแอบคิดในใจ คนผู้นี้มาจากไหน ? ทำไมถึงทำให้ท่านฮัวต้องลงมาสั่งสอนด้วยตัวเอง ?
ต้องรู้ก่อนว่าท่านฮัวมีสถานะอะไรในเจียงไห่ ? เขาเป็นรองแค่เจ้าของไดนาสตี้บาร์ หลินฟู่เซิง เพียงคนเดียว !
และหลินฟู่เซิงมีสถานะเป็นอะไร ? เป็นถึงหนึ่งในสามของผู้มีอำนาจสูงสุดในพื้นที่สีเทาเขตสามเหลี่ยมแห่งปากแม่น้ำแยงซี ลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของฉาวซิง !
ด้วยเหตุที่กล่าวมา จากการพิจารณาพื้นที่ทั่วทั้งเจียงไห่แล้ว ผู้ที่ทำให้ท่านฮัวต้องลงมือสั่งสอนด้วยตัวเอง นอกจากจะเป็นศัตรูกับหลินฟู่เซิง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะทำให้ท่านฮัวลงมือ !
ตอนนี้ชายหนุ่มซึ่งดูภูมิฐาน รูปร่างหน้าตาดีคนนี้ กลับทำให้ท่านฮัวต้องลงมือด้วยตัวเอง !
ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาจากตระกูลร่ำรวยตระกูลไหน !
แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือ เมื่อตกเป็นเป้าหมายของท่านฮัวแล้ว การที่จะหนีไปคงเป็นเรื่องยาก !
นอกจากแขกที่เดินผ่านทางเหล่านี้แล้ว อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเองก็ตกใจเช่นกัน และจนกระทั่งถึงตอนนี้เธอเพิ่งจะนึกออกว่า ไดนาสตี้บาร์แห่งนี้เป็นธุรกิจของฉาวซิง
ตอนกลางวันที่ฟิลลิป แฟชั่น เย่อู๋เทียนได้ปฏิเสธการสารภาพรักของหยางเฟยเอ๋อร์ต่อหน้าผู้คน ฉาวซิงในฐานะที่เป็นพ่อของหยางเฟยเอ๋อร์ และในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามของผู้มีอำนาจสูงสุดในสามเหลี่ยมแห่งปากแม่น้ำแยงซี ก็ไม่แปลกที่เขาจะไม่ปล่อยเย่อู๋เทียนไป !
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยแอบรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เธอไม่ควรพาเย่อู๋เทียนมาที่ไดนาสตี้บาร์ !
และในตอนนี้ท่านฮัวก็ได้หันกลับและเดินเข้าไปด้านในของบาร์ เห็นได้ชัด จากตัวตนของเขา ในเมื่อเขาพูดออกมาแล้วว่าต้องการเลี้ยงเหล้าเย่อู๋เทียน จากนั้นค่อยจัดการกับเย่อู๋เทียน......
งั้น......
เย่อู๋เทียนก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องจากไป
และก็ไม่กล้าจากไป
ในเจียงไห่ ใครบ้างที่ไม่รู้จักฝีมือของท่านฮัว ?
หากท่านฮัวจัดการกับใครด้วยตนเอง นั่นหมายความว่าเป็นการให้เกียรติ
หากคนผู้นั้นหักหน้าของท่านฮัว ต่อให้เขาหนีไปสุดขอบฟ้า ท่านฮัวก็จะสั่งให้คนไปจับตัวมาจนได้
แน่นอนว่าจนถึงตอนนี้ ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของท่านฮัวก็ยังไม่เคยมีใครกล้าหนีไป !
เนื่องจากผลของการหนีนั้นมันช่างน่าสังเวช !
ครั้งที่แล้วมีคนไม่ฟังที่ท่านฮัวพูด หักหน้าท่านฮัว ตอนนี้เขากลายเป็นขอท่านในสถานะรถไฟ แถมยังต้องนอนขอทานกับพื้น
ช่วยไม่ได้ แขนและขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำได้เพียงใช้ชีวิตอยู่แบบน่าอนาถเช่นนั้น !
เรื่องนี้อ้ายเสี่ยวเตี๋ยเองก็พอได้ยินมาอยู่บ้าง หลังจากได้รู้ว่าชายร่างใหญ่ที่มีรอยสักบนศีรษะผู้นี้คือท่านฮัว อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็พูดกับเย่อู๋เทียนทันทีว่า “เย่อู๋เทียน นายรีบโทรศัพท์ไปหาหยางเฟยเอ๋อร์เร็ว ให้เธอมาช่วยพูดให้นาย ! ชายหัวล้านคนนี้ฉันรู้จัก เขาคือคนของฉาวซิง ชื่อเสียงของเขาโหดเหี้ยม ! หากตกเป็นเป้าหมายของเขา ไม่มีทางจบสวยแน่นอน ! นายจะยุ่งกับใครไม่ยุ่ง ? ดันไปยุ่งกับลูกสาวของฉาวซิง ! ฉันไม่รู้จะพูดกับนายอย่างไรดี !”
พูดถึงตรงนี้ อ้ายเสี่ยวเตี๋ยก็หันไปพูดกับเสิ่นรั่วชิงอีกว่า “รั่วชิง เธอเองก็รีบโทรไปหาน้องสาวของเธอ ให้เสิ่นจูนอี๋มาที่นี่ แล้วก็เกาเยว่หรู ใครที่ควรเรียกมาเรียกมาให้หมด มีพวกเธออยู่ เย่อู๋เทียนน่าจะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้ !”
ท่าทางของเสิ่นรั่วชิงดูแปลกไป แต่ไม่มีสัญญาณของความกังวลในดวงตาของเธอ หันไปมองเย่อู๋เทียนและถามออกมาว่า “หรือพูดอีกอย่างก็คือ หยางเฟยเอ๋อร์หลงใหลในตัวนาย จนทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น ? ดังนั้นจึงส่งคนมาสร้างปัญหาให้นาย ?”
เย่อู๋เทียนยิ้มและพูดออกมา “เธอคงไม่ได้เป็นคนโง่ขนาดนั้น”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยจ้องมองเย่อู๋เทียนและเสิ่นรั่วชิงที่ไม่มีทางท่าร้อนใจเลยสักนิด เธอรีบพูดออกมาว่า “พวกเธอสองคนยังมั่วบื้ออยู่ทำไม? รีบโทรเรียกคนมาเร็ว ! ฉันเคยมีประสบการณ์กับเรื่องแบบนี้มาก่อน มันเกิดขึ้นตอนที่ฉันไปเรียนต่างประเทศ เหตุการณ์คล้ายกับตอนที่อยู่ไชน่าทาวน์ เมื่อพบกับสถานการณ์เช่นนี้ควรเรียกคนมาถึงจะถูก ! วางใจ ในเมื่อฉันเป็นคนพาพวกเธอมา ฉันจะรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของพวกเธอเอง ขอแค่พวกเธอฟังที่ฉันพูด ปัญหาที่ยิ่งใหญ่นี้จะกลายเป็นเรื่องเล็กอย่างแน่นอน !”
เย่อู๋เทียนยักไหล่และพูดว่า “ฉันไม่มีเวลาที่จะมาคุยกับพวกสวะพวกนี้ เข้าไปกันเถอะ มาก็มาแล้ว ดื่มสักหน่อยค่อยไปแล้วกัน”
พูดจบเย่อู๋เทียนเดินจูงมือเสิ่นรั่วชิงเข้าไปในบาร์
ดวงตาคู่นั้นของอ้ายเสี่ยวเตี๋ยเบิกกว้าง ไล่ตามเข้าไป พูดออกมาด้วยความร้อนรนมากกว่าเดิม “เย่อู๋เทียน นายคิดว่าฉันกำลังทำร้ายนายอยู่ใช่ไหม ? ฉันรู้ว่านายทำงานในกองทัพ และนายอาจจะเก่งมาก แต่ที่นี่มันที่ไหน ที่นี่มันเป็นที่ของหลินฟู่เซิง ! นายรู้ไหมว่าหลินฟู่เซิงเป็นใคร ? นายรู้ไหมว่าชายหัวล้านคนเมื่อกี้เป็นใคร ? คนพวกนี้ทำชั่วไม่เลือกหน้า พวกเขาไม่ใช่พวกอันธพาลทั่วไป ! ”
เย่อู๋เทียนถามออกมาว่า “หรือพูดอีกอย่างก็คือ พวกเขาเป็นอันธพาล ?”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดอย่างเคร่งขรึม “แน่นอน พวกเขาคืออันธพาลในหมู่ของอันธพาล เป็นพวกกลุ่มอันธพาลที่ชอบทำร้ายคนอื่น !”
เย่อู๋เทียนถามออกมา “งั้นเธอมาบาร์ของพวกอันธพาลเพื่อดื่มเหล้า ไม่กลัวอันธพาลรังแกหรือไง ?”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยผงะอยู่ครู่หนึ่ง พูดออกไปว่า “โดยปกติแล้ว ตราบใดที่ฉันไม่ยั่วยุพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะรังแกฉัน”
เย่อู๋เทียนพูดออกมาว่า “ฉันเองก็ไม่ได้ไปยั่วยุอะไรพวกเขา”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดออกมาด้วยความตกใจว่า “แบบนี้นายยังจะมาบอกว่านายยังไม่ได้ไปยั่วยุอะไรพวกเขาอีกงั้นเหรอ ? นายไปนอนกับลูกสาวเจ้านายของพวกเขามาแล้ว......นาย......นายนอนกับหยางเฟยเอ๋อร์มาแล้วจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ ? ไม่อย่างนั้นฉาวซิงจะส่งให้คนมาทำแบบนี้กับนายได้อย่างไง ? ไม่ใช่ ไม่ว่านายจะเคยนอนกับหยางเฟยเอ๋อร์มาหรือไม่ เรื่องนี้เอาไว้คุยกันทีหลัง ตอนนี้นายต้องรีบโทรไปหาหยางเฟยเอ๋อร์ ให้เธอมาช่วยนาย อย่างน้อยแบบนี้ก็พอจะสามารถป้องกันตัวเองได้ และมันส่งผลดีกับเสิ่นรั่วชิงด้วย !”
เย่อู๋เทียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ยิ้มและพูดออกมาว่า “ได้ ฉันจะโทร”
อ้ายเสี่ยวเตี๋ยพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “เป็นไง ฉันพูดอย่างไงก็เป็นอย่างนั้น นายมีความสัมพันธ์อย่างว่ากับหยางเฟยเอ๋อร์จริง ๆ !”
“......”
เย่อู๋เทียนพูดไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...