ลนลานแล้ว!
เย่ฉิงชางลนลานแล้ว!
เพราะหลังจากที่อิ่นโม่โฉวกุมข้อมือเขา เขากลับรู้สึกว่าลมปราณในร่างตนที่เหมือนมังกรเหลือง...
กำลังสลายไปอย่างรวดเร็ว!
ไม่!
ไม่ใช่สลาย!
แต่กำลังพุ่งไปที่จุดไน่กวน จุดจิงชวี จุดหลิงเต้าซึ่งเป็นจุดชีพจรสำคัญสามจุดตรงข้อมือตนอย่างบ้าคลั่ง!
ในตอนนี้เอง เย่ฉิงชางที่เดิมประหนึ่งมังกรแปดตัวประทับร่าง ออร่าทั่วร่างกลับสลายไปอย่างรวดเร็ว
ประหนึ่งหิ่งห้อยท่ามกลางสายลม!
เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่งด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ตอนนี้นอกจากเย่อู๋เทียนที่อยู่บนเวทีแล้ว ทุกคนต่างเบิกตากว้าง
มองไปยังอิ่นโม่โฉวกับเย่ฉิงชางสองคนที่อยู่ด้านล่างเวทีอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ฝ่ายแรกออร่าแข็งกล้า!
ฝ่ายหลังออร่าหม่นหมอง!
“ทำไมถึงเป็นอย่างนี้?”
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?”
“หรือว่าการที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น จะเกี่ยวข้องกับคำพูดนั้นที่เย่อู๋เทียนพูดออกมาเมื่อกี้?”
“เมื่อกี้เย่อู๋เทียนกำลังชี้แนะอิ่นโม่โฉวหรอ?”
คนมากมายในที่นั้นเกิดความคิดพิเรนทร์อย่างนี้ออกมาแทบจะพร้อมกัน
ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ...
ไม่!
เป็นไปได้ยังไง!?
อาศัยแค่คำพูดเดียวนี้ ก็ทำให้สถานการณ์ที่เดิมเพลี่ยงพล้ำไปทางหนึ่งแล้ว พลันพลิกกระดานได้เลย?
แต่กลับเห็นหานตี้ซือในตอนนี้
สายตาไม่ได้มองที่อิ่นโม่โฉวกับเย่ฉิงชางมากนัก แต่กลับมองเย่อู๋เทียน
บนใบหน้าแก่ชราของหานตี้ซือเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
หรือว่า...
เย่อู๋เทียนยืนอยู่บนเวทีอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ท่าทางไม่สนใจว่าอิ่นโม่โฉวจะเป็นหรือตาย!
ตอนนี้ดูแล้ว เขา...
มั่นใจนานแล้ว!
ในตอนนี้เอง เย่อู๋เทียนยื่นมือออกไปรับกระบี่สยบชั่วเล่มนั้นในมือหานตี้ซือ พลางพูดเสียงเบาหวิวว่า
“เมื่อกี้คุณพูดเองนะ กระบี่เล่มนี้ยกให้ผมแล้วนะ”
หานตี้ซือหน้ากระตุก
ดวงตากลมโตคู่หนึ่งเบิกกว้างราวกับระฆัง
จ้องไปที่เย่อู๋เทียน
โกรธจนตัวสั่นเทา
“เธอ...”
“เธอ...”
เย่อู๋เทียนยิ้มเล็กน้อย
“ผมทำไม? คุณพูดไม่เป็นคำพูดหรือไง!”
หานตี้ซือโกรธอยู่นานกว่าจะพูดออกมาได้
“ข้าอ่อนแอมาก ถ้าข้าไม่มีกระบี่นี่ป้องกันตัวเอง ใครจะฆ่าข้าก็ได้นี่นา เจ้า...ช่างอกตัญญูจริงๆ!"”
เย่อู๋เทียนยักไหล่
“ไปฝึกตามคำพูดที่ผมพึ่งชี้แนะอิ่นโม่โฉวไป ไม่ถึงสามเดือน คุณก็จะสามารถมีฝีมือที่เหนือกว่าเย่ฉิงชางสามเท่าได้!”
หานตี้ซือได้ยินคำนี้ เขาแทบกลั้นหายใจตาย
“ความหมายของเธอคือ ตอนนี้เธอกำลังสอนฉันหรือ? เธอกลายเป็นอาจารย์ แล้วฉันกลายเป็นลูกศิษย์หรอ?”
เย่อู๋เทียนหัวเราะ
“ไม่หรอก อย่าคิดอย่างนั้นสิ”
หานตี้ซือแค่นเสียงหนัก ยื่นมือจะไปแย่งกระบี่
เย่อู๋เทียนเบี่ยงตัวหลบ ยื่นกระบี่สยบชั่วในมือให้เสิ่นรั่วชิง พลางพูดอย่างน้อยคำเรียบง่ายว่า
“ผมไม่ชอบใช้กระบี่ คุณใช้แล้วกัน”
เสิ่นรั่วชิงรับกระบี่สยบชั่วมา สายตาที่มองเย่อู๋เทียนดูประหลาดใจมาก
เย่อู๋เทียนถามอย่างสงสัยว่า
“ทำไมหรอ?”
เสิ่นรั่วชิงอึ้งเล็กน้อย ก่อนส่ายหัวตอบ
“ไม่มีอะไร”
เย่อู๋เทียนยิ้มถามอย่างทะเล้น
“เมื่อครู่ท่าทีผมตอนชี้แนะอิ่นโม่โฉว หล่อไหม?”
เสิ่นรั่วชิงหน้าแดงเรื่อด้วยความอายทันที
นี่มันที่ไหน?
มาหยอกเย้ากันแบบนี้!
หานตี้ซือคิดจะแย่งกระบี่มาจากมือเสิ่นรั่วชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...