จอมนักรบอหังการ นิยาย บท 331

ขณะที่พูดเช่นนี้ สีหน้าของเย่อู๋เทียนค่อนข้างซับซ้อน

ในเวลนี้ ท้องฟ้าเริ่มมีฝนตกปรอยๆ

เลยมีภาพนี้เกิดขึ้น

มีชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าสุสานท่ามกลางฝนตกปรอยๆ ป่าท้อ และม่านหมอกบางๆ!

ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ ดูเหมือนสวรรค์บนดิน

เวลานี้ ในหัวสมองของเย่อู๋เทียน เต็มไปด้วยภาพของเขากับหานหว่านเอ๋อร์ในวัยเด็ก

หญิงสาวคนหนึ่งใช้เวลาว่างซ่อนลูกขนไก่ไว้ข้างหลัง แล้วเดินเข้าไปในอาคารเก่า

หญิงคนนั้นยืนอยู่หน้าประตูของอาคารเก่า

ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มอันลึกลับ แต่ขณะที่กำลังจะยื่นมือไปเปิดประตูนั้น

จู่ๆ ประตูก็เปิดออก

เด็กชายตัวเล็กๆ ทำหน้าทะเล้นใส่หญิงสาวผ่านทางกรอบประตู

หญิงสาวตกใจสะดุ้งเฮือก

หญิงสาวเอามือกุมหัวใจแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้ง แล้วเอามือจิ้มหน้าผากของเด็กชายด้วยความโมโห

“ทะเล้น อยากให้แม่ช็อคตายเหรอ?”

เด็กชายหัวเราะ

“แม่ ทำไมกลับมาช้าจัง? ก่อนหน้านี้แม่บอกว่าจะไปทำงานสิบวัน ตอนนี้มันจะครึ่งเดือนแล้ว!”

หญิงสาวอุ้มเด็กชายไว้ในอ้อมแขน

“คิดถึงแม่ไหม?”

เด็กชายกล่าว

“ไม่คิด”

เบ้าตาของหญิงสาวแดงก่ำ

“แม่คิดถึงลูกแล้ว”

เด็กชายทำอะไรไม่ถูกทันที เช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของหญิงสาว

“ผมก็คิดถึงแม่เหมือนกัน”

แต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็ยิ้มออกมา

“โตขึ้นไปอย่าไปเชื่อน้ำตาของผู้หญิงง่ายๆ นะ โดยเฉพาะผู้หญิงสวยๆ อย่างแม่”

เด็กน้อยอึ้งไป

“ทำไมล่ะ?”

หญิงสาวไม่ตอบ เธอปล่อยมือจากร่างของเด็กชาย พลางก้มตัวลงเพื่อเปลี่ยนรองเท้าให้เด็กชาย

“ไป ลงไปเตะลูกขนไก่ข้างล่างกัน”

ที่ผ่านมา…

เหมือนกระแสน้ำ!

ที่ดังสะท้อนอยู่ในหัวสมองของเย่อู๋เทียน!

เย่อู๋เทียนจะกล้าเชื่อได้อย่างไร

ในเวลานี้โครงกระดูกที่นอนอยู่ในหลุมฝังศพ ไม่ใช่มารดาผู้ให้กำเนิดของตนหรือ?

ขณะนี้

ฝนตกปรอยๆ

แต่หนาแน่นขึ้นมาก

ใบหน้าของเย่อู๋เทียนเต็มไปด้วยเม็ดฝน

แต่กลับ…

แยกไม่ออกว่าตรงไหนคือน้ำฝน ตรงไหนคือน้ำตา

และในเวลานี้เอง

ในป่าท้อผืนนี้ ได้มีเสียงของชายคนหนึ่งดังแว่วเข้ามา

“สาวงามชีวิตช่างอาภัพนัก!”

เสียงดังมาจากสุดถนนเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยดินโคลนที่อยู่หน้าสุสานของหานหว่านเอ๋อร์

เย่อู๋เทียนหันไปมอง

เป็นชายวัยกลางคนถือร่มสีดำคันใหญ่ กำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา

ร่มดำคันใหญ่บดบังใบหน้าของชายวัยกลางคน ดังนั้นเย่อู๋เทียนจึงมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

แต่ตัดสินจากเสื้อผ้าที่ผู้ชายสวมใส่

เหมือนภิกษุที่สวมใส่จีวรพระ

เย่อู๋เทียนสีหน้าชะงักงัน

แปลกใจกับตัวตนของอีกฝ่ายมาก

เพราะรอบๆ ป่าท้อผืนนี้ ไม่มีวัดอยู่เลย

ดังนั้น ภิกษุวัยกลางคนรูปนี้…

มาจากไหนกัน?

ด้วยความสงสัย เย่อู๋เทียนจึงหายตัวไปจากจุดที่เขายืนอยู่อย่างกะทันหัน เหยียบลงบนต้นท้อที่ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตรอย่างเงียบๆ

เห็นได้ชัดว่าภิกษุวัยกลางคนไม่ได้สังเกตเห็นการมีอยู่ของเย่อู๋เทียน

เขาถือร่มดำคันใหญ่เดินทีละก้าวไปตามทางที่เต็มไปด้วยโคลน เพื่อไปยังหลุมฝังศพของหานหว่านเอ๋อร์

เย่อู๋เทียนมองพิจารณาทุกการเคลื่อนไหวของเขาจากระยะไกล

ดูจากท่าทางที่เขาเดิน คนคนนี้ไม่ใช่คนในยุทธจักร!

ในมือของเขา นอกจากร่มดำคันใหญ่แล้ว มืออีกข้างหนึ่งยังถือถุงใส่ของใบใหญ่ไว้ด้วย

สิ่งที่บรรจุอยู่ภายใน ดูเหมือนจะเป็นพวกของเซ่นไหว้

ภิกษุวัยกลางคนเดินไปที่หน้าหลุมฝังศพของหานหว่านเอ๋อร์ แล้วมองดูเนินดินบนหลุมศพ

จากนั้น ขณะที่เดินไปรอบ ๆ หลุมฝังศพ เขาก็ก้มลงเก็บวัชพืชบนหลุมฝังศพไปด้วย

วัชพืชเหล่านั้นแท้จริงแล้วคือใบหญ้าที่แห้งตายแล้ว

มีใบหญ้ารวมกันไม่ถึงสิบใบ

แต่หลังจากที่ภิกษุวัยกลางคนเก็บใบหญ้าเหล่านี้ขึ้นมา ก็ได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง

จนกระทั่งบนหลุมฝังศพไม่มีอะไรเหลือนอกจากดินเหลือง ภิกษุวัยกลางคนจึงกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ตอนนี้ชีวิตรักความสะอาด เดี๋ยวนี้ก็มีแต่อาตมาที่คอยใส่ใจประสกแบบนี้สินะ?”

ว่าแล้วภิกษุวัยกลางคนก็กางร่มดำคันใหญ่ในมือไว้บนหลุมฝังศพ เห็นได้ชัดว่าใช้วิธีนี้

เพื่อปกป้องหานหว่านเอ๋อร์จากลมฝน

จากนั้นภิกษุวัยกลางคนก็เปิดถุงใส่ของและหยิบกล่องอาหารกลางวันออกมา

วางไว้หน้าป้ายหลุมฝังศพ

ภิกษุวัยกลางคนหยิบน้ำเต้าออกมาจากถุงผ้าที่สะพายอยู่ข้างกาย หลังจากเอาจุกปิดออกก็เงยหน้าขึ้นดื่ม

กระดกเหล้าขาวแสบร้อนลงคอ

ภิกษุวัยกลางคนแสบร้อนจนเบะปาก

ยิ้มๆ ออกมา

“ไม่ได้ดื่มมาเกือบสามสิบปีแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ดื่มคือตอนที่เทียนเอ๋อร์เกิด”

“วันนั้นประสกอุ้มเขาไว้ เหมือนประสกเป็นคนคลอดเขาออกมาเอง”

“ฮ่า เด็กบ้านี่ไม่เลว ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านวิทยายุทธในตอนนี้ แต่ไม่เป็นไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีจิตใจดี ตอนนี้ประสกมีชื่อเสียงมากในโลกใต้ดิน สบายใจแล้วสินะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ