จอมนักรบอหังการ นิยาย บท 391

ผู้เฒ่าที่กำลังใช้มีดทำครัวสับคนอยู่นั้น ถ้าไม่ใช่หานตี้ซือแล้วจะเป็นใครไปได้?

ความแค้นที่เก็บกดมาเกือบร้อยปี

ในชั่วขณะนี้ ระบายออกมาได้ทั้งหมดแล้ว

ในสายตาของหานตี้ซือ

หานจื่อฉี เรียกไม่ได้ว่าเป็นคนแล้ว

ในช่วงวัยรุ่นของหานจื่อฉี ทำไปหมดทุกสิ่งแล้วในเรื่องเลวร้ายที่สุดขนาดฟังยังขนหัวลุก

เคยทรมานน้องสาวของหานตี้ซือจนตาย

นี่เป็นแค่เพียงหนึ่งเรื่องของเรื่องเท่านั้น

แต่ที่หานตี้ซือยังลังเลรีรอไม่ได้แก้แค้น ก็เพราะว่าหานจื่อฉีเก่งกาจมากเกิน

จนถึงวันนี้

หานตี้ซือ ก็ยังคงตามเทียบเคียงหานจื่อฉีไม่ได้

ตอนนี้ถ้าไม่ได้เพราะเย่อู๋เทียน

หานตี้ซือต่อให้รอไปจนวันตาย ก็ยากที่จะเอาความแค้นที่เก็บกดมาเกือบร้อยปีแล้วนี้ ให้ระบายออกมาได้

หานจื่อฉีในขณะนี้ ถูกหานตี้ซือสับเละจนไม่เหลือสภาพตัวของคน

แต่หานปู้กางยังมีชีวิตอยู่

เวลานี้ หานปู้กาง ก็ล้มนอนอยู่ห่างตัวหานจื่อฉีไปไม่ไกลนัก เขาได้แต่เบิ่งตามอง หานจื่อฉี ถูกหานตี้ซือ ใช้มีดสับเอาสับเอา!

เหตุการณ์ที่น่าสยดสยองที่สุดในโลกนี้......

ก็น่าจะอยู่ประมาณนี้แหละ

แต่ หานปู้กางไม่ได้ตกใจจนบ้า

เพราะมึนชาไปแล้ว

แต่เมื่อมองไปที่พวกกลุ่มเฉิงโม่หนงที่ยืนอยู่นอกเรือนใหญ่ ต่างตกตะลึงยืนเป็นเซ่อ

พวกเขายังไงก็คิดไม่ถึง

พ่อเฒ่าหานที่ดูประดุจเซียนเทพ เวลานี้กลับถูกตาแก่อีกคน ใช้มีดสับเอาสับเอา!

นี่......

มันเรื่องอะไรกันแน่นี่?

ตาแก่ที่กำลังสับท่านพ่อเฒ่าหานนั้น เป็นใครกันนั่น?

เขามีความแค้นท่านพ่อเฒ่าหานอะไรขนาดไหนเชียว?

ถึงได้ระห่ำบ้าขนาดนี้!

ขณะนี้ ลมเย็นยามค่ำคืน โชยพัดจากนอกเรือนเข้ามา

ทั้งสามต่างหนาวสะท้านขึ้นมาอย่างอดไม่ได้!

จึงคืนสติกลับมาได้

เฉิงเฟยหูหวาดผวาจนอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว พูดกับเฉิงจิ้นซองเสียงกระเส่า

“ไป!ไปกันเร็ว!”

เฉิงจิ้นซองที่ยืนตัวสั่นอยู่ หันหลังกลับเตรียมวิ่งหนีทันที

เฉิงโม่หนง ในทันทีที่ดึงสติกลับ ก็หันหลังกลับเตรียมวิ่งหนี

แต่ ทั้งสามยังไม่ทันได้ก้าวขา

หานตี้ซือที่เลือดเต็มตัว ในชุดเสื้อคลุมยาว ก็หันกลับมองไปที่สามคน

“ยังไม่ต้องรีบไป พวกคุณเป็นใคร?พวกคุณเป็นแขกรับเชิญของหานจื่อฉีหรือ?หรือว่า เป็นคนของตระกูลหานเผ่าโบราณ?”

ทั้งสามหยุดก้าวพร้อมกัน

เฉิงโม่หนงตื่นตกใจจนอ่อนปวกไปทั้งตัว ต้องอาศัยเกาะกับขอบประตู จึงฝืนประคองตัวอยู่ได้

ขยับอ้าปาก เตรียมว่าจะพูด

แต่ปรากฏว่า ตัวเองตกใจกลัวจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว

เหตุการณ์ที่ให้เห็นอยู่นี้

น่าสยดสยองเหลือเกิน!

กลับมองไปที่เฉิงเฟยหูกับเฉิงจิ้นซองพ่อลูก

เฉิงจิ้นซองตกใจกลัวจนสมองกลวงหมดแล้ว

เฉิงเฟยหูยังประเภทแก่ขั้นเทพ ก็ยังพอมีเหลือสติตื่นอยู่บ้าง ฉะนั้น มีหรือจะไปบอกว่าเป็นแขกรับเชิญของหานจื่อฉี?

สมองปั่นไปรอบ ก็รีบตอบไปคำหนึ่งอย่างทันควัน

“ท่านพ่อเฒ่าโปรดไว้ชีวิตด้วย พวกเรา พวกเราไม่ได้มารบกวนการแก้แค้นของท่านนะครับ พวกเราจะนำข่าวสารมาส่ง!”

หานตี้ซือถามด้วยสงสัย

“นำข่าวสารมาส่ง?ข่าวสารส่งมาให้ใคร?ส่งข่าวอะไรมา?”

เฉิงเฟยหูคุกเข่าลงโดยสัญชาติญาณ ตอบเสียงสั่นตะกุกตะกักไปว่า

“พวกเรา พวกเรารับคำสั่งจากเย่อู๋เทียนให้มา เขา เขา เขา เขา เขาก็เหมือนกับท่าน เป็นศัตรูกับหานจื่อฉี!”

“เขาให้พวกเรามาเชิญหานจื่อฉีไปร่วมรับปทานอาหารในสถานที่แห่งหนึ่ง!”

“ความจริง ความจริง ความจริงนั่นคืองานเลี้ยงหงเหมิน ใช่ งานเลี้ยงหงเหมิน!”

“เขาให้เรามาเชิญหานจื่อฉีไปร่วมรับประทานอาหารในสถานที่แห่งหนึ่ง!”

“สรุปคือว่า พวกเราไม่ใช่แขกรับเชิญของหานจื่อฉี!”

เฉิงเฟยหูพูดออกมาแบบนี้ ล้วนออกมาจากไหวพริบเฉพาะหน้า คิดใช้เย่อู๋เทียนมาเป็นเกราะกันลูกธนู!

ถึงยังไง ใครจะไปรู้ว่าตาเฒ่าที่กำลังบ้าอยู่ขณะนี้อยู่ในสถานะไหน?

ถ้าหากไปโกหกชัดบอกว่าตัวเองเป็นคู่อริกับหานจื่อฉีหรืออยู่ตรงข้ามกัน แน่นอน จะต้องถูกตาเฒ่าบ้าคนนี้จับได้

แต่ถ้าโกหกว่าตนเป็นเพียงลูกน้องของคู่อริของหานจื่อฉี มาเพื่อส่งข่าว........

นั้นก็มีทางหลุดรอดไปได้

ไม่เช่นนั้นแล้ว........

ตาเฒ่าบ้าคนนี้ขนาดระดับเซียนเทพอย่างหานจื่อฉียังถูกจับสับจนเละไม่เหลือรูปร่างของคนเลย แล้วจะอะไรกับตัวเขาเอง?

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในฉากต่อไปนี้ กลับทำเอาเฉิงเฟยหูหน้าซีดเป็นขี้เถ้าแห้ง!

หานตี้ซือได้ยินคำพูดของเฉิงเฟยหูแล้ว ทำสีหน้าประหลาด ๆ แต่ขณะกำลังจะพูดอะไรออกไป

เฉิงโม่หนงชี้แจงออกมาในฉับพลัน

“อย่าไปเชื่อมันพูดส่งเดช!”

“พวกเรามาที่นี่ไม่ได้เกี่ยวกับเย่อู๋เทียนเลย เย่อู๋เทียนเป็นแค่เพียงชื่อที่เฉิงเฟยหูอุปโลกน์ขึ้นมา เขาโกหกท่านนะ!”

เหตุที่เฉิงโม่หนงพูดอย่างนี้

ล้วนเพราะความที่ไม่อยากเอาเย่อู๋เทียนพัวพันเข้ามาด้วย

ถึงยังไง ใครจะไปรู้ว่าตาเฒ่าบ้าที่เห็นอยู่ข้างหน้านี่จะเป็นพวกโรคจิตหรือเปล่า?

หลังจากเมื่อหานตี้ซือฟังที่เฉิงโม่หนงแล้ว ท่าทีเปลี่ยนไปอย่างดูประหลาด มองพินิจเฉิงโม่หนงหัวจรดเท้าสักพัก

จู่ ๆ ก็หัวเราะขึ้นมาหุ ๆ

“หากแม้นลูกตาฉันดูไม่ผิด เธอก็คือเด็กสาวน้อยที่ตระกูลเฉิงเอามาเลี้ยงหรือไม่ใช่?เธอชื่อเฉิงโม่หนง ใช่ไหม?เธอ....นับได้ว่าเป็นญาติผู้พี่ของเย่อู๋เทียน ถูกต้องไหม?”

เฉิงโม่หนงได้ยินดังนั้น ตะลึงตาค้าง

ตาเฒ่าบ้าคนนี้.......

ทำไมรู้จักหล่อนด้วย

ยังมี.......

เขาทำไมรู้จักตัวตนของเย่อู๋เทียนด้วย?

หานตี้ซือก็หัวเราะ แจงให้เฉิงโม่หนงฟังว่า

“ตอนเด็ก ๆ เธอเคยไปที่บ้านตระกูลหานของฉัน ก็คือที่บ้านเลขที่9ซอยหานซานในตี้ตู ดังนั้นฉันเคยเจอเธอ”

เฉิงโม่หนงไม่เคยรู้จักหานตี้ซือ

มองรอยยิ้มบนใบหน้าของหานตี้ซือดูอ่อนโยนอย่างมาก......

ในความรู้สึกกลับน่าสะพรึงกลัวมากขึ้น!

กลับดูที่เฉิงเฟยหู เมื่อฟังที่หานตี้ซือพูดแบบนี้ ก็ตะลึงอ้าปากตาค้างเหมือนกัน

ไม่เคยคิดถึงเลย

หานตี้ซือ ถึงกับรู้จักเย่อู๋เทียนด้วย!

ถ้างั้นเรื่องโกหกที่ปั้นแต่งขึ้นมาเมื่อกี้นี้ ความก็แตกโดยที่ไม่ต้องมีใครแฉ?

หานตี้ซือก็ถามเฉิงโม่หนงอีกประโยคหนึ่ง

“หนูน้อย เธอมาที่นี่ทำไม?”

เฉิงโม่หนงสีหน้าตื่นผวาขึ้นมา ไม่รู้จะตอบว่ายังไง

เพราะหล่อนไม่เพียงแต่เห็นหานจื่อฉีที่ถูกสับเละจนไม่เห็นสภาพของคน ยังมีหานปู้กางที่ล้มนอนอยู่ อีกทั้งสังเกตเห็น ในเรือนใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า ยังมีศพหัวขาดอยู่อีกหนึ่งศพ!

หานตี้ซือเห็นเฉิงโม่หนงไม่ตอบ

ถอนใจออกมาครั้งหนึ่ง

พึมพำเหมือนพูดให้ตัวเองฟังว่า

“ด้านที่เลวร้ายไม่น่าดูของฉัน กลับถูกเธอได้เห็นแล้ว เธออย่าได้เอาเรื่องนี้ไปบอกเย่อู๋เทียนเป็นเด็ดขาดเชียวนะ ไม่งั้น เขาจะดูถูกในความเป็นอาจารย์ของฉัน เพราะถึงยังไง ถ้าคิดจะฆ่าคน ก็ต้องมีศักดิ์ศรีหน่อย เรื่องนี้ ฉันเปรียบเย่อู๋เทียนแล้ว ต้องเป็นแค่เด็กนักเรียน!”

พอคำนี้พูดออกมา

เฉิงโม่หนง เหมือนถูกฟ้าผ่า

ตาเฒ่าบ้าที่อยู่ข้างหน้านี่ เป็นอาจารย์ของเย่อู๋เทียน?

เฉิงเฟยหูกับเฉิงจิ้นซอง

ก็มีท่าทีเหมือนตกใจช็อกตาย

ต่างคิดกันไม่ถึง

ตาเฒ่าบ้าที่อยู่ข้างหน้านี้ เป็นอาจารย์ของเย่อู๋เทียน!

โดยเฉพาะเฉิงเฟยหูที่คุกเข่าอยู่

หน้าซีดเป็นขี้เถ้าแห้ง!

เรื่องที่แวบขึ้นมาคิดในนาทีแรก

ตาเฒ่าบ้าคนนี้ถ้ารู้ถึงเป้าหมายที่ตัวเราทำในครั้งนี้ มิต้องทำเหมือนที่ทำกับหานจื่อฉี จับเราสับเละเลยหรือ?

และก็ในเวลานั้นเอง เย่อู๋เทียน เดินออกมาจากเรือนใน

ในมือ คลึงเล่นกับห่วงหยก

เป็นของที่เตรียมจะมาให้เฉิงโม่หนง

หานตี้ซือสังเกตุได้ถึงการเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างหลัง หันหลังกลับไปดูด้วยสัญชาตญาณ

ยิ้มอย่างเขิน ๆ

“เทียนเอ๋อร์ อาจารย์ก็ว่าจะทำตามประสงค์ของนาย นำเอาหานจื่อฉีกับหานปู้กางไปไว้ที่วัดไห่ฮุ่ย!”

เย่อู๋เทียนปรายตามองไปที่หานจื่อฉีที่ถูกสับจนไม่เห็นสภาพของคนแวบหนึ่ง

ไม่พูดอะไรมาก

หลังจากนั้น ก็กวาดตามองไปที่หน้าประตูตรงตัวของเฉิงโม่หนง

แรก ๆ ก็สะดุดอึ้งนิดหนึ่ง

ยิ้ม ๆ

“พี่สาว พี่ทำไมมาที่นี่ได้?”

แวบแรกที่เฉิงโม่หนงมองเห็นเย่อู๋เทียน ความอัดอั้นในความน้อยใจ พลุ่งพล่านขึ้นมาเต็มอก

พูดออกไปได้ประโยคเดียว

“พี่สาวของนายกำลังจะถูกจับขายไปแล้ว นายจะดูแลหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ