ในข้อเท็จจริงแล้ว หลายปีมานี้ เฉิงโม่หนงได้มีการฝันถึงพรานป่าคนหนึ่งมาตลอด
เพียงแต่ว่า ทุกครั้งเวลาที่ฝันถึงพรานป่าคนนั้น ไม่สามารถเห็นหน้าตาเขาได้อย่างชัดเจน
ทุกครั้งที่ฝัน
พรานป่าคนนั้น มักจะใช้ท่าทางที่อ่อนโยน ยืนอยู่ท่ามกลางป่าทึบ
ถึงแม้จะมองหน้าตาของเขาไม่ชัด
เฉิงโม่หนงก็มีความรู้สึกได้ว่า เขาจะต้องเป็นผู้ชายที่แสนดีทีเดียว
มีอยู่ครั้งหนึ่ง
เฉิงโม่หนงยังฝันถึงเขาพูดกับหล่อนด้วย
เขายืนห่างออกไม่ไกลนัก มองมาด้วยความเอื้ออารี พูดมาว่า
“เด็กดี เชื่อฟังนะ”
หลังจากนั้น เฉิงโม่หนงก็วิ่งไปหา
แต่ ไม่ว่าเฉิงโม่หนงจะตามไปยังไง พรานป่านายนั้น ก็จะยืนอยู่ห่างไม่ไกลจากตัวเองไปมาก
ไม่ว่าตัวเองจะวิ่งไปเร็วแค่ไหน ดูเหมือนไม่มีทางจะเข้าใกล้ฝ่ายตรงข้ามได้เลย
พรานป่านายนั้นเป็นใคร?
กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
เฉิงโม่หนงก็ถามตัวเองแบบนี้ทุกครั้ง
แต่
ไม่มีคำตอบ
สมัยเด็ก เฉิงโม่หนงเคยบอกกับเย่อู๋เทียน ตัวเองมักจะฝันถึงพรานป่านายหนึ่ง
แต่ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นเป็นใคร
วันนี้.......
จะได้คำตอบแล้วไหมในที่สุด?
พรานป่านายนั้น จะใช่คุณพ่อของหล่อนเองหรือไม่?
เย่อู๋เทียนมองไปที่เฉิงโม่หนง เสมือนมองทะลุความนึกคิดของหล่อน สายตาเต็มไปด้วยความอาทร พูดเบา ๆ ว่า
“พรานป่านายนั้น ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเธอ แต่ว่า เขาดีกับเธอมาก บุญคุณที่มีต่อเธอ ยังจะมากกว่าพ่อแท้ ๆ ของเธอเสียอีก”
เฉิงโม่หนงขอบตาเริ่มแดงถาม
“งั้น เขาเป็นใคร?”
เย่อู๋เทียนนิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง แล้วตอบ
“ตามที่ฉันได้สืบสาวมาในปีนั้น เขาชื่อสือหย่ง มีความแค้นท่วมท้นล้นทะเล หลังจากฆ่าคนที่ฆ่าพ่อเขาจนหมดบ้านทั้งสี่สิบเจ็ดคนแล้ว ก็หลบหนีไปอยู่บริเวณเทือกเขาเอ๋อเหมย ระหว่างนั้น เขาได้ช่วยเด็กทารกหญิงคนหนึ่ง ออกพ้นจากปากเสือ และเด็กหญิงคนนั้น ก็คือเธอ!”
เฉิงโม่หนงน้ำตาทะลักออกมาเป็นเขื่อนแตก
“แล้วหลังจากนั้นหละ?”
เย่อู๋เทียนตอบไปต่อ
“หลังจากนั้น เขาก็อาศัยล่าสัตว์เป็นอาชีพ เลี้ยงจนเธอรอด”
เฉิงโม่หนงถาม
“เขาเลี้ยงฉันจนอายุถึงสามขวบหรือ?”
เย่อู๋เทียนตอบ
“ให้ชัด ๆ เลย คือสองขวบกับอีกเก้าเดือน”
เฉิงโม่หนงถามอีกทั้งน้ำตา
“แล้วทำไมคุณไม่บอกฉันตั้งแต่แรก?คุณไปสืบรายละเอียดเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
เย่อู๋เทียนมองหน้าเฉิงโม่หนงอย่างลึกซึ้ง เอื้อมมือเช็ดน้ำตาให้หล่อน
“เธอกับฉันตอนเด็ก ๆ ก็นอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน ตัวเธอเองก็คงอาจจะไม่รู้ตัว เธอมักจะละเมอ และยังเรียกฉายาของใครคนหนึ่ง เรียกเขาว่า คนหน้าบาก”
“เพราะในส่วนความจำลึก ๆ ของเธอ ก็คือรอยบากบนหน้าของสือหย่ง นั่นคือจุดเดียวที่เธอเก็บอยู่ในความทรงจำ”
“ทุกครั้งที่เธอละเมอเรียกเขาว่าคนหน้าบาก เธอก็มักจะหัวเราะ”
“อีกทั้ง ตอนนั้นที่ฉันไปสืบสวนเรื่องนี้ ยังเข้าไปดูห้องในโพรงหิน เห็นมีก้อนหินก้อนหนึ่งสลักตัวหนังสือไว้ ข้อความตัวหนังสือนั้นก็คือ......เด็กดี เชื่อฟังนะ”
“ด้วยเพราะเหตนี้.......เขาหวังให้เธอได้ดี ตัวพี่เอง ทุกครั้งเวลาที่ฝันถึงเขา ก็มักจะมีความสุขกับอดีตในความคิด ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ ฉันจะกล้าไปรื้อเรื่องเก่านี้มาเล่า แล้วทำให้เธอเจ็บปวดทำไม?”
เฉิงโม่หนงร้องไห้ไม่ยอมหยุด
จิตใจ
ว้าวุ่นไปอย่างที่สุด
เวลาผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ในที่สุดหล่อนก็ได้รู้ ตัวหล่อนเองไม่ได้ถูกเฉิงเฟยหูกับเฉิงจิ้นซองอุ้มมาเลี้ยงดูที่บ้านตระกูลเฉินนี้
แต่ว่า เป็นคนร้ายสองคนนี้ แย่งมาจากพ่อเลี้ยงแท้ ๆ ของหล่อน เอามาอยู่ที่บ้านตระกูลเฉิน!
ชั่วเวลานั้นเอง
แววตาที่เฉินโม่หนงหันไปมองเฉิงเฟยหู เหมือนมองฆาตกรคู่แค้นที่ฆ่าพ่อตัวเอง
สงสารตัวเอง
ยอมรับฆาตกรเป็นพ่ออยู่หลายปี!
ดูที่ เฉิงเฟยหูในตอนนี้ ไม่กล้าสบตากับเฉิงโม่หนงแล้ว
เอาแต่โขกหัวกับพื้น
ตัวสั่นงันงกร้องขออภัยโทษ
“ไว้ชีวิตด้วย!ไว้ชีวิตฉันเถอะ!”
“ลูกหนง!พวกเราถึงแม้จะชิงตัวเธอมาอยู่บ้านตระกูลเฉิง แต่หลายปีมานี้ ก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอลำบากนะ!”
“อภัยให้ตระกูลเฉิงของเราเถอะ!”
เฉิงโม่หนงยืนมองลงไปที่เฉิงเฟยหู ความคับแค้นเต็มใบหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...