พูดคำพูดนี้ออกมา แววตาของเย่อู๋เทียน เปลี่ยนดูหนาวเยือกดั่งมาจากนรกแดนน้ำแข็ง
ส่วนคำพูดของหานวี่เซียวนี้ฟังเข้าหูเฉิงเฟยหูไปนั้น เฉิงเฟยหู ผวาวาบตัวแข็งอยู่กับที่!
ลูกตาทั้งสองข้าง เหมือนลูกกระพรวนเลือดสองลูก แทบทะลักล้นออกมานอกเบ้าในฉับพลัน!
เฉิงเฟยหูยังไงก็คิดไม่ถึง!
หานวี่เซียวที่เขาเห็นว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเขาได้ตรงข้างหน้านี้ อยู่ต่อหน้าเย่อู๋เทียน......
กลับเรียกตัวเองว่าบ่าว
นี่.........
เย่อู๋เทียนจะน่าสะพรึงกลัวไปถึงขนาดไหน?
ก็แม้กระทั่งหานวี่เซียวที่เหมือนเซียนเทพ อยู่ต่อหน้าเขายังเรียกตัวเองเป็นบ่าว?
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว
ตัวเขาเองนี้ คืนนี้คงหนีไม่พ้นตายแน่แล้วหรือ?
แต่ในขณะที่เฉิงเฟยหูกำลังคิดเรื่องที่น่ากลัวอยู่นั้น
หานวี่เซียวที่คุกเข่าอยู่ข้าง ๆ ตัวเขานั้น คงกลัวเย่อู๋เทียนจะโกรธ
โขกหัวลงกับพื้น
ส่งเสียงเหมือนผีเปรต!
“ชิงตี้!ขอท่านชิงตี้โปรดอภัยบ่าวด้วย!”
“วิทยายุทธของบ่าวนี้ ยังไม่สมควรต้องถึงกับให้ท่านทำลายทิ้งนะครับ!”
“บ่าวขอสาบาน สาบานอย่างขอให้มีอันเป็นไปร้ายแรง!”
“ชีวิตฉันที่เหลือนี้ ได้จากท่านชิงตี้ที่เปรียบดั่งพ่อแม่ที่ให้ชีวิตใหม่!”
“แม้นท่านชิงตี้มีคำสั่ง บ่าว ให้ไปตายก็ไม่ถอย!”
“ยังมี ท่านชิงตี้โปรดดู หัวสี่หัวที่บ่าวหิ้วมานี้ ต่างก็เป็นพี่น้องสายสกุลของหานจื่อฉี!”
“พวกเขาก่อกรรมทำเข็ญมากมาย ทำร้ายชายข่มเหงหญิง โทษตายก็ยังไม่สาสม!”
“บ่าวจึงได้จัดการสังหารทิ้งหมด!”
“ฆ่าทิ้งหมด!”
โอ้พระคุณจะรู้มั้ยว่าหานวี่เซียวน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนเวลานี้
เย่อู๋เทียนเพียงแต่ยืนอยู่ข้างหน้าเขา
ไม่พูดไม่จา
ก็ทำให้เขาผวาเกือบตาย
เหตุเพราะว่า หานวี่เซียวรู้ดีถึงความน่ากลัวของเย่อู๋เทียน
ไม่เพียงมองหานจื่อฉีกับหานปู้กางเหมือนแค่มดปลวก!
ต่อให้กัวโพ่จวิน มาเจอกันต่อหน้ากับเขา ก็ยังต้านรับไม่ได้แม้แค่กระบวนท่าเดียว!
ถึงเวลานาทีนี้ หานวี่เซียวไม่กล้าคิดแล้วว่าเย่อู๋เทียนฝึกพลังฝีมือไปถึงขั้นไหนแล้ว!
เพียงเห็นชัดเจนที่จุดนี้ว่า
ต่อหน้าเย่อู๋เทียน ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งเชิงวิทยายุทธหน้าไหน ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
ไปดูเฉิงเฟยหูอีกที
ด้วยเหตุที่หานวี่เซียวกำลังลนลานลุกลี้ลุกลนจัดเอาหัวคนสี่หัวที่เขลอะไปด้วยเลือดให้เย่อู๋เทียนดู
ฉับพลันนั้นเอง.......
เฉิงเฟยหูดูเหมือนจะตกใจจนเซ่อไปแล้ว
เส้นประสาทที่ตึงเครียดจัด ทันใดนั้น ก็ขาดไป!
ถึงแม้ไม่ถึงกับช็อกตาย
แต่สภาพก็ไม่ผิดอะไรกับคนตาย
คุกเข่าอยู่กับพื้น
นิ่งทื่อไม่ขยับ
ตาแข็งทื่อไม่กะพริบ
ทื่อแข็งไปเฉย ๆ อยู่กับที่
ในสมอง..........
ว่างโล่ง..............
เย่อู๋เทียนสังเกตุเห็นสภาพของเฉิงเฟยหู ก็เลยไม่ไปใส่ใจอีก
แต่หันมองหานวี่เซียวที่คุกเข่าโขกหัวขอให้อภัยอยู่
พูดเสียงเรียบ ๆ
“ตั้งแต่นี้ต่อไป หากไม่ได้รับคำสั่งจากฉัน คุณ ห้ามออกจากวิลล่าว่อหลงแม้แต่ก้าวเดียว!”
หานวี่เซียวได้ยินคำสั่งมาดังนี้ เหมือนได้รับอภัยโทษครั้งใหญ่
น้ำตาผู้เฒ่าไหลพราก โขกหัวถี่ยังกับตำพริกกระเทียม!
“ขอบพระคุณท่านชิงตี้!ขอบพระคุณท่านชิงตี้มากครับ!”
เย่อู๋เทียนก็ไม่ได้ใส่ใจกับหานวี่เซียวอีก หันไปมองเฉิงโม่หนง ออกเสียงเตือนเรียบ ๆ
“ไปกันเถอะ กลับไปจัดเตรียมสัมภาระ ตามฉันไป เราจะไปเขาเอ๋อเหมยกัน!”
เฉินโม่หนงมองเย่อู๋เทียนอย่างไม่แน่ใจ
ถามเสียงสั่นเครือ
“คุณแน่ใจจริง ๆ หรือ พ่อเลี้ยงของฉัน อยู่ที่เขาเอ๋อเหมย?”
เย่อู๋เทียนยกมือขึ้นลูบผมสลวยของเฉิงโม่หนง แล้วถามกลับ
“ฉันเคยโกหกเธอเมื่อไหร่หรือ?”
เฉิงโม่หนงขยับปากที่ซีดขาวจะพูด แต่ที่สุดก็ไม่มีข้อสงสัยอะไรจะถาม
เพราะ.....
อย่างที่เย่อู๋เทียนพูด
เขา แต่ไหนแต่ไรมายังไม่เคยโกหกอะไรหล่อนเลย
ในเมื่อเขาพูด
สือหย่งยังมีชีวิตอยู่
ถ้างั้น สือหย่งก็ต้องยังมีชีวิตอยู่แน่นอน
สำหรับค่ำคืนนี้ของเฉิงโม่หนง
ชั่วชีวิตนี้ไม่มีวันลืม!
เริ่มจากถูกเฉิงเฟยหูกับเฉิงจิ้นซองพามาวิลล่าว่อหลง พวกเขาจะพาหล่อนมาขายเป็นให้เมียน้อยแก่หานจื่อฉี
พอมาถึงที่นี่กลับได้เห็น
หานจื่อฉี.......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...