จอมนักรบอหังการ นิยาย บท 402

พูดถึงตรงนี้

โจวซีก็จงใจที่จะหยุดชะงักลง

จากนั้น จึงได้พูดประโยคสุดท้ายเสริมขึ้นว่า

“จับเธอกลั่นเป็นยาไปซะเลย! ”

แม้จะพูดแบบนี้ แต่แววตาของโจวซี ก็ไม่ได้มีเจตนาสังหารแต่อย่างใด

รับรู้ถึงความรู้สึกได้ว่า เธอก็แค่พูดล้อเล่นเท่านั้น

มองไปที่กัวจื่อจู๋

เธอกำลังยิ้มเยาะ

ราวกับว่าไม่ได้ใส่ใจที่โจวซีพูดข่มขู่เลย และกลับพูดต่อว่าอย่างไม่พอใจด้วย

“เธอนอกจากจะกลั่นยาเก่งแล้ว ปากของเธอนี่ก็ร้ายกาจด้วยยิ่งนัก! ”

คิดไม่ถึงว่า เมื่อพูดจบ ก็มีเสียงที่แก่ชรา ดังขึ้นมาจากห้องโถงด้านหลังของห้องดื่มชาแห่งนี้

“แล้วข้าล่ะ? ข้ามีปากที่ร้ายกาจ หรือมีมือที่ร้ายกาจกันล่ะ? ”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ กัวจื่อจู๋ ก็หันมองไปยังห้องโถงด้านหลังห้องดื่มชาโดยไม่รู้ตัว

ก็มองเห็น หญิงชราคนหนึ่งในชุดคลุมเต๋าสีเทาดำ

ที่กำลังยกกะละมังน้ำร้อนอยู่

และเดินออกมา

หลังจากที่มองเห็นรูปร่างหน้าตาของหญิงชราคนนี้อย่างชัดเจนแล้ว สีหน้าท่าทางของกัวจื่อจู๋ ก็เต็มไปด้วยอาการตกตะลึง

ถึงขนาดที่ว่า หลุดเอ่ยปากออกมา

“ผู้อาวุโสยู่ฉาน? ท่าน ท่านยังมีชีวิตอยู่? ”

หญิงชราคนนี้ มีชื่อว่าเฉินยู่ฉาน ออกบวชที่วัดอี่เซียนเช่นเดียวกัน

แต่ หล่อนไม่ได้มีสถานะธรรมดาในวัดอี่เซียน แต่เป็นถึงผู้อาวุโสไท่ซ่างของวัดอี่เซียนเลยทีเดียว!

แม้แต่เจ้าอาวาสอย่างกัวเถาจือ

ก็ยังเป็นเธอที่ได้เคยอบรมสั่งสอนมา

กัวเถาจือพบเจอเธอ ก็ยังต้องคุกเข่าลงไปที่พื้น เพื่อแสดงความเคารพ

และเรียกขานว่า

“ผู้อาวุโสยู่ฉาน! ”

พูดได้ว่า......

เฉินยู่ฉานคนนี้ คือประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตอยู่แห่งโลกบู๊ในทุกวันนี้ ขนาดแม้แต่กัวเถาจือเอง ก็ยังไม่รู้ถึงอายุที่แท้จริงของเธอเลย!

เวลานี้ กัวจื่อจู๋ แทบไม่อยากจะเชื่อว่า

ผู้อาวุโสยู่ฉานที่ได้เสียชีวิตลงไปแล้วนั้น ยังจะมีชีวิตอยู่อีก!

เธอไม่ได้เสียชีวิตไปแล้วหรอกเหรอ?

ในตอนนั้น ตัวเองเห็นกับตาตัวเองว่าเธอได้เสียชีวิตลงไปแล้ว!

อีกทั้งยังเป็นตัวเองและกัวเถาจือ ที่ได้ลงมือนำร่างของเธอบรรจุลงไปในโลงศพสัมฤทธิ์กับมือเอง!

เธอ ทำไมยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ล่ะ?

เธอ ทำไมถึงได้มาอยู่กับโจวซี?

ขณะที่กัวจื่อจู๋ กำลังตกตะลึงอยู่นั้น เฉินยู่ฉานก็ได้นำกะละมังวางไว้ที่ข้างเท้าของโจวซี จากนั้น......

ก็หายตัวแวบไปกับที่......

หลงเหลือเพียงแต่ร่องรอยในที่ตรงนั้น

ทันใดนั้น

เปรี๊ยะ!

เฉินยู่ฉานก็ยกมือขึ้น

และตบไปที่ใบหน้าของกัวจื่อจู๋

ทันใดนั้น!

กัวจื่อจู๋ ก็ถูกตบจนกระเด็นตกมาจากที่นั่ง

และร่วงตกไปอยู่ที่ด้านนอกประตูของห้องดื่มชานี้

ยังไม่ทันที่กัวจื่อจู๋ จะตกตะลึงอีกครั้งหนึ่ง เฉินยู่ฉานที่ยกมือตบหน้าเธอเมื่อครู่นี้นั้น ก็ได้ส่งเสียงไอออกมาแล้ว

มือกุมไปที่ทรวงอก

ราวกับว่าเป็นคนชราที่ร่างกายอ่อนแออย่างที่สุด

แต่ ต่อให้เป็นแบบนี้ เฉินยู่ฉานหลังจากที่อาการไอทุเลาลงแล้ว ก็ยังได้จ้องมองไปที่กัวจื่อจู๋ ที่อยู่นอกประตูและพูดว่า

“แม้ว่าคนจะแก่ชราแล้ว แต่หากจะฆ่าเธอ ก็ยังสบายมาก! ”

กัวจื่อจู๋ ที่ถูกตบจนกระเด็นออกไปนอกประตูนั้น ใบหน้าแดงก่ำทั้งแถบ และจดจ้องไปที่เฉินยู่ฉาน

เกิดความเคียดแค้นขึ้นมาในจิตใจ

ไอ้แก่คนนี้

แม้ไม่รู้ว่าทำไม ยังไม่ตาย แต่เมื่อเห็นสภาพของเธอในวันนี้ ก็ถือว่าแก่ชรามากแล้ว น่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

และก็มองไปยังโจวซีที่นั่งอยู่

เมื่อเห็นเฉินยู่ฉานมีอาการไออย่างรุนแรง ใบหน้าที่งดงามก็เกิดความกังวลใจขึ้นบ้าง

“ผู้อาวุโสยู่ฉาน ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ”

เฉินยู่ฉานสูดหายใจลึก ควบคุมอาการเรื้อรังในร่างกาย แล้วก็ตอบกลับเบา ๆ ว่า

“ไม่เป็นไร”

ขณะที่พูด เฉินยู่ฉานก็เดินมายังด้านหน้าของโจวซี โค้งตัวลงแล้วถอดรองเท้าและถุงเท้าของโจวซีออก

จากนั้น......

ก็นำเท้าสองข้างของโจวซี จุ่มลงไปในน้ำร้อนในกะละมัง

กัวจื่อจู๋ ที่อยู่ด้านนอกประตูเห็นสภาพการณ์นี้แล้ว ก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

โจวซีคนนี้......

เหมือนจะมีอะไรที่ผิดปกติ!

เท้าสองข้างของเธอ......

ไม่!

ร่างกายช่วงล่างของเธอทั้งหมด เหมือนจะขยับเคลื่อนไหวไม่ได้แล้ว!

ตอนนี้เธอคือคนอัมพาต!

ทำไมเธอถึงกลายเป็นคนอัมพาตไปได้?

มิน่าล่ะ ตั้งแต่ที่ตัวเองเข้ามาด้านใน เธอก็นั่งอยู่ที่ตรงนั้น โดยไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย!

เวลานี้ เฉินยู่ฉานเหมือนกับทำเป็นไม่สนใจกัวจื่อจู๋ โดยได้ช่วยโจวซีล้างเท้าอย่างตั้งใจ พร้อมกับพูดบ่นไปด้วย

“วางใจได้ ก่อนที่ข้าจะตายลงไป จะต้องกลับไปที่วัดอี่เซียนอีกครั้งเป็นแน่ และฆ่ากัวเถาจือทิ้งซะ เพื่อระบายความแค้น ให้กับขาสองข้างของเธอนี้! ”

“หล่อนช่างใจร้ายเสียจริง ในตอนนั้นเพื่อแย่งชิงตำแหน่งเจ้าอาวาส คิดไม่ถึงว่าจะให้เธอกินยาทะลวงชีพจรที่คุณภาพต่ำเข้าไป! ”

“ไม่อย่างนั้น เมื่อสามปีก่อน เธอก็คงจะไม่กลายเป็นแบบนี้! ”

กัวจื่อจู๋ ที่อยู่ด้านนอกประตูได้ยินคำพูดดังกล่าว

ก็เปลี่ยนจากหวาดกลัว กลายเป็นดีใจ

ถึงอย่างไรเธอก็คงคิดไม่ถึงว่า การที่โจวซีกลายเป็นคนอัมพาตแบบนี้นั้น

จะเป็นเพราะได้กินยาทะลวงชีพจรคุณภาพต่ำเข้าไป!

ยาที่ยังไม่ได้กลั่นอย่างแล้วเสร็จ ก็จะกลายเป็นยาพิษ!

ผลที่ได้รับของการกินยาทะลวงชีพจรคุณภาพต่ำเข้าไปนั้น ก็จะต้องตายลงอย่างไม่ต้องสงสัย!

ไม่คิดว่า โจวซีนี้ จะกลายเป็นคนอัมพาตไปได้!

สำหรับเฉินยู่ฉานนี้!

ดูเหมือนว่า จะต้องกลับไปที่วัดอี่เซียนเป็นแน่ เพื่อล้างแค้นให้กับโจวซี!

แต่ ลำพังแค่ร่างกายที่แก่ชราน่าสงสารของเธอนี้

เกรงว่า แม้จะเป็นตัวเอง หากใช้พลังอย่างเต็มที่ ก็ยังสามารถจัดการเธอให้อยู่หมัดได้!

พูดมาถึงตรงนี้ กัวจื่อจู๋ ก็ค่อย ๆ คลานขึ้นมาจากพื้น

แต่ ก็ไม่ได้ไปรบกวนสร้างความลำบากอะไรต่อเฉินยู่ฉาน

กัวจื่อจู๋ ครุ่นคิดอย่างโหดร้ายว่า

ในเมื่อไม่ว่าจะเป็นโจวซี หรือว่าเฉินยู่ฉาน ต่างก็เห็นว่ากัวเถาจือเป็นศัตรู......

ถ้าอย่างนั้นตัวเอง ก็ควรจะรอให้หลี่หานหูมาถึงก่อน แล้วร่วมมือกับหลี่หานหู จัดการฆ่าพวกหล่อนทิ้งซะ!

ขณะที่กัวจื่อจู๋ กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น

โจวซีก็พลันกระซิบพูดกับเฉินยู่ฉานว่า

“เมื่อครู่กัวจื่อจู๋ เพิ่งจะสอบถามฉันว่าหานจื่อเซียนเคยมาหาฉันที่นี่บ้างไหม ซึ่งไม่รู้ว่าถามเพราะอะไรเหมือนกัน! ”

เฉินยู่ฉานตกใจเล็กน้อย หันหน้ามองไปที่กัวจื่อจู๋ และสอบถามขึ้น

“พูดมานะ ที่เธอมาตี้ตูในครั้งนี้ มีจุดประสงค์อะไรกัน? ”

กัวจื่อจู๋ พลันหัวเราะขึ้น

“แน่นอนว่ามาเพื่อฆ่าคนยังไงล่ะ โดยจะเริ่มฆ่าหานจื่อเซียนก่อน แล้วก็จัดการกับไอ้เด็กเถื่อนเย่อู๋เทียน แล้วก็นำตัวไอ้เด็กเถื่อนเย่อู๋เทียนนั้น กลับไปยังวัดอี่เซียน เพื่อลงโทษประหารชีวิต! ”

เฉินยู่ฉานหัวเราะเยาะ

“ลำพังแค่เธอน่ะเหรอ? ”

กัวจื่อจู๋ อมยิ้ม

“ยังมีหลี่หานหูด้วย เขาเองก็มาแล้ว! ”

เฉินยู่ฉานกับโจวซี สีหน้าเปลี่ยนไปพร้อมกัน

กัวจื่อจู๋ สังเกตเห็นถึงลักษณะท่าทางที่เปลี่ยนไปของสองคนนี้ จึงยิ่งมั่นใจมากขึ้น และพูดต่อว่า

“ใช่แล้ว ก่อนที่ฉันกับหลี่หานหูมายังตี้ตูนั้น ได้พบเจอตัวของหานจื่อเซียนแล้ว! ”

“หานจื่อเซียนถูกพลังฝ่ามือของฉันสามครั้ง และยังจะถูกฝังเข็มเงินพิษภูตษสิบสองเข็มของหลี่หานหูด้วย ตอนนี้ หล่อนคงจะตายทั้งเป็นแล้ว! ”

“ไม่อย่างนั้น พวกเธอคิดว่า ฉันมาอาศรมหวินซีทำอะไรล่ะ? ก็แค่ ต้องการที่จะกำจัดทางหนีทีไล่ของหานจื่อเซียนเท่านั้นเหรอ! ”

“ตอนนี้ดูเหมือนว่า หล่อนไม่ได้มาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ได้ไปที่ซอยหลัวฝู เพื่อแจ้งข่าวคราวให้กับ ไอ้เด็กเถื่อนที่หล่อนให้กำเนิดนั้นแล้ว! ”

“แต่ว่า เมื่อดูจากเวลาในตอนนี้ คิดว่าคนรับใช้หลี่หานหูนั้น คงจะได้ตามไปยังซอยหลัวฝูแล้ว และถึงขนาดได้ลงมือจัดการ กับสองแม่ลูกเลวทรามคู่นั้นด้วยแล้วเป็นแน่! ”

เมื่อพูดจบลง ไม่ว่าโจวซี หรือเฉินยู่ฉาน สีหน้าท่าทางก็เคร่งเครียดอย่างที่สุด

ทันใดนั้น เฉินยู่ฉานก็ถอนหายใจ

“กี่ปีมานี้ ฉันได้เย็บรองเท้าหนึ่งคู่ให้กับไอ้หนุ่มนั้นทุกปี จนถึงตอนนี้ เย็บได้ทั้งหมดหกคู่แล้ว คิดไม่ถึงว่า ในท้ายที่สุด ก็ยังไม่สามารถที่จะมอบให้กับเขาได้ด้วยมือของตัวเอง! ”

โจวซีไม่สามารถที่จะควบคุมสภาพอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ได้แล้ว

ใบหน้าที่เดิมทียิ้มแย้มผ่อนคลายต่อทุกเรื่องราว ได้กลายเป็นเย็นยะเยือกขึ้นอย่างที่สุด

ถึงขนาดที่ว่า แม้แต่แก้วชาในมือก็ถูกบีบจนแตกละเอียด เศษของแก้วชาได้บาดไปที่ฝ่ามือของเธอ แต่เธอเองก็ยังคงไม่รู้สึกอะไร

ได้แต่จ้องมองไปยังกัวจื่อจู๋ ที่อยู่ด้านนอกประตู

และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า

“ฉัน โจวซี ในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาสอี่เซียนอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบ ขอประกาศคำสั่งและรางวัลว่า หากผู้ใดที่ฆ่ากัวเถาจือและกัวจื่อจู๋ รวมถึงหลี่หานหูทั้งสามคนได้ จะสามารถเข้าสู่แดนหกได้ในวันเดียว! ”

กัวจื่อจู๋ ได้ยินคำพูดดังกล่าวแล้ว ก็หัวเราะเยาะ

“โจวซี เธอก็แค่ไอ้ขยะที่ไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง แม้แต่ตัวเองก็ยังเอาตัวไม่รอดเลย เธอจะช่วยให้คนอื่นเข้าสู่แดนหกได้ในวันเดียวเหรอ? มันช่างน่าตลกเป็นยิ่งนัก! หรือจะพูดอีกอย่างว่า ต่อให้เธอจะมีความสามารถนี้ แต่ทั้วทั้งใต้หล้านี้ นอกจากหญิงชราที่อยู่ด้านหน้าของเธอ และฉัน ใครจะไปได้ยินคำพูดของเธอในวันนี้ล่ะ? ”

เมื่อพูดจบลง

ด้านนอกประตูใหญ่ของอาศรมหวินซี

ก็มีเสียงของวัยรุ่นคนขึ้นดังผ่านเข้ามา

“คำพูดดังกล่าว ฉันได้ยินแล้ว! ”

เย่อู๋เทียน!

มาแล้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ