หลังจากนั้นไม่นาน กองกำลังทหารแต่ละประเทศก็ออกมาต่อขบวนจนเสร็จ
ร็อกลินในฐานะผู้ถืออำนาจของประเทศมหาอำนาจ รีบแสดงออกให้เย่อู๋เทียนดำเนินการขั้นต่อไป
หมายความว่า สามารถร่วมมือกับกองกำลังทหารแต่ละประเทศได้ตลอดเวลา ฆ่าทิ้งให้หมด รวมถึงผู้ที่อยู่ระดับสูงของประเทศหลงด้วย!
จัดการอย่างโหดเหี้ยม!
รอยยิ้มบนใบหน้าของเย่อู๋เทียนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
“เมืองเจียงไห่นี้ มีอาวุธร้ายแรงระดับสูงสุด จำเป็นต้องเตรียมป้องกันไว้นะ”
“เช่นนี้ ท่านนำกองกำลังทหารของแต่ละประเทศ ไปที่ชั้นสิบสามของอาคารจินเม่าก่อน!ฉันได้ยินมาว่า ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ลับเฉพาะของประเทศหลง สามารถทนต่อแผ่นดินไหวสิบริกเตอร์ได้!”
“รอสักครู่ ฉันจะไปดูแลงานประชุมสุดอำนาจด้วยตัวเอง!”
“ส่วนผู้ที่อยู่ระดับสูงของประเทศหลงพวกนี้…...”
พูดถึงตรงนี้ เย่อู๋เทียนก็มองไปยังท้องฟ้า
เครื่องบินรบแปดเหลี่ยมสีดำกำลังใกล้เข้ามา ไม่รอให้เครื่องบินรบแปดเหลี่ยมบินถึงอาคารจินเม่า ประตูเครื่องบินก็ถูกเปิดออก
ยอดฝีมือที่สวมหน้ากากกระโดดลงมาจากด้านในร้อยกว่านาย
ทันใดนั้น ยอดฝีมือที่ท่าทางน่ากลัวร้อยกว่านาย กระจายอยู่บนดาดฟ้าของอาคารจินเม่า รวมถึงบนอาคารก่อสร้างของบริเวณโดยรอบ
“คนพวกนี้ ต่างก็เป็นกองกำลังทหารของวิหารเทพ!”
“มีพวกเขาอยู่ เมืองเจียงไห่โดนทำลายไม่เหลือซากแน่!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ที่อยู่ระดับสูงของประเทศหลงพวกนี้?”
พอร็อกลินได้ยิน ก็มองไปยังยอดฝีมือที่สวมหน้ากากอยู่บริเวณโดยรอบ
ทันใดนั้น รับรู้ได้ถึงความฮึกเหิมอย่างมาก
กองกำลังทหารประเทศอื่นๆ รวมถึงผู้นำของแต่ละประเทศมองฉากตรงหน้า ก็รู้สึกฮึกเหิมอย่างมากเช่นกัน
ดูแล้ว วิหารเทพได้เตรียมพร้อมแผนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไว้นานแล้ว!
ทำให้ผู้คนรู้สึกบ้าคลั่งจริงๆเลย!
ต่อมา ภายใต้การนำของร็อกลิน กองกำลังทหารแต่ละประเทศต่างก็เดินเข้าไปในอาคารจินเม่าทีละลำดับ
ผู้นำแต่ละประเทศก็รีบรุดไปด้านหน้าเช่นกัน
เกรงว่าจะไปช้า จนหาที่นั่งดีๆไม่ได้!
โดยเฉพาะผู้นำประเทศเชวี่ยและประเทศเทียนจ้าว กำลังครุ่นคิดอย่างหนัก ว่าต่อไป ควรจะประพฤติตัวต่อหน้าหัวหน้าแห่งสิบสองผู้พิทักษ์ของวิหารเทพยังไง!
หลังจากที่กองกำลังทหารและผู้นำแต่ละประเทศเข้าไปที่ชั้นสิบสามของอาคารจินเม่าแล้ว
ประตูเหล็กที่หนาถึงหลายเมตร ก็ปิดลงทันที
ชั้นสิบสามที่กว้างขวางราวกับหลุมหลบภัยทางอากาศ ทันใดนั้นก็ตกอยู่ในความมืดมิด
“ไฟ ไฟดับเหรอ?”
“ทำไมไฟถึงดับล่ะ?”
“เกิดอะไรขึ้น?”
กองกำลังทหารแต่ละประเทศนับพัน ต่างก็มองอะไรไม่เห็น
มีคนกลับไปยังทางเดิม แต่กลับพบว่าประตูใหญ่ได้ปิดไปแล้ว
อีกอย่างในสถานที่นี้ อุปกรณ์สื่อสารทุกอย่างล้วนใช้งานไม่ได้
มือถือก็ไม่มีสัญญาณ กลายเป็นของไร้ประโยชน์!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ถึงมีคนร้องตะโกนออกมา
“พวกเราโง่ยิ่งนัก ติดกับดับแล้ว!”
“จะต้องมีอะไรแปลกๆอย่างแน่นอน!”
“ไม่หรอก อย่าพูดมั่วซั่ว นั่นเป็นถึงหัวหน้าแห่งสิบสองผู้พิทักษ์ของวิหารเทพเชียวนะ!”
“ใครที่ใส่ร้ายปีศาจแดงแห่งผู้พิทักษ์? ฆ่ามันเลย!”
“อยากตายก็ตายเอง อย่ามาพูดมั่วซั่วที่นี่ ระวังปากไว้ด้วย!”
“ที่นี่ไฟดับแล้ว!”
“มืดมาก มองอะไรไม่เห็นเลย!”
ด้านนอก เย่อู๋เทียนได้นำฝ่าบาทเข้าไปยังชั้นแรกของอาคารจินเม่า
สีหน้าของฝ่าบาทยังคงลำบากอย่างมาก
มองเย่อู๋เทียนอย่างเย็นชา
“นายคิดว่า นายทำแบบนี้แล้วประเทศหลงจะยอมก้อหัวให้งั้นหรือ?”
เย่อู๋เทียนมึนงงเล็กน้อย จุดบุหรี่สองด้าม แล้วยื่นให้ฝ่าบาทหนึ่งด้าม
ฝ่าบาทโกรธจนปาบุหรี่ทิ้ง
“ประเทศหลงฉัน ประชาชนสองพันล้าน ไม่มีทางยอมแพ้เช่นนี้แน่!”
เย่อู๋เทียนแบะปากไม่แย่แส ก้มลงไปหยิบบุหรี่ขึ้นมา
เวลานี้ ดาบคมที่เป็นองครักษ์เงาฟ้า และเฉาจ้านหยางต่างก็เดินมาทางนี้
“ก็เศษสวะ เหมือนกับดาบคม”
“แต่ว่า วันนี้ดูแล้วยังมีประโยชน์อยู่บ้าง”
ฝ่าบาทโกรธจนทุบโต๊ะ
“ทำไมไม่บอกฉัน?”
“โชคดีที่ฉันไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ท่านรู้หรือไม่ เมื่อครู่นี้เอง ฉันเกือบออกคำสั่งโยกย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้ว!”
เย่อู๋เทียนถอนหายใจ
“ไม่มีประโยชน์ กุญแจปริศนาถูกอิสสาคนนั้นไขไปแล้ว ใช้การไม่ได้อีก เป็นเหมือนเศษเหล็กไร้ประโยชน์ก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง”
“นี่ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ฉันสร้างสถาบันเจิ้นกั๋วขึ้นมา”
“พูดถึงกำลังรบ ประเทศหลงไม่มีศัตรู เทคโนโลยีกำลังรบ จุดอ่อน ไม่ยอมรับก็คงไม่ได้”
“แต่ว่า หลังจากวันนี้ น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว อิสสาคนนั้น ฉันทดสอบเขาก่อนหนึ่งสัปดาห์ พอถึงเวลาไว้รอดูผลงานของเขาก็แล้วกัน”
ในใจฝ่าบาทซับซ้อนอย่างมาก
ผ่านไปนานพอสมควรถึงจะพูดออกมา
“งานประชุมสุดอำนาจยังไม่ทันได้เริ่ม ก็กลายเป็นแบบนี้ไปซะได้!”
“ต่อจากนี้จะทำไงล่ะ? คงจะไม่ปล่อยให้คนพวกนี้อยู่ที่ประเทศหลงต่อไปใช่ไหม?”
“ไม่สอดคล้องกับนโยบายของประเทศหลงเลยนะ!”
เย่อู๋เทียนสูบบุหรี่อีกครั้ง
“ท่านใจเย็นๆก่อน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันวางแผนไว้หมดแล้ว กองกำลังทหารแต่ละประเทศ จัดการที่ละกลุ่ม กักขังทีละกลุ่ม ส่วนงานประชุมสุดอำนาจควรดำเนินอย่างไรต่อก็ดำเนินไป พวกเราไม่รังแกคนหรอก”
ฝ่าบาทเบิกตาโพล่ง
“นี่เรียกไม่รังแกคนงั้นหรือ? แล้วจะรังแกยังไงต่อ?”
เย่อู๋เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“จะพูดเช่นนี้ไม่ได้ ตอนที่รังแกพวกเรา พวกเขาก็ไม่ได้ออมมือเลยสักนิด อีกอย่างพวกเราร่วมมือกับวิหารเทพ อยากจะฆ่าฉัน ฉันก็คงกล้ำกลืนฝืนทนไม่ไหวหรอกนะ”
ฝ่าบาทโมโหจนทุบโต๊ะอีกครั้ง
“พอแล้ว ใจเย็นๆ เรื่องนี้ไว้แค่นี้เถอะ นอกจากนี้สิ่งที่วิหารเทพทำกับกองกำลังทหารแต่ละประเทศ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรานี่?”
“ตอนนี้ แต่ละประเทศพันธมิตรก็ไม่ได้มีโทสะกัน ยังต้องผ่านวันพรุ่งนี้ไปอยู่ดี”
“ท่านระงับอารมณ์ก่อน ฉันจะไปถามเสียหน่อย เจ็ดปีก่อน สรุปแล้วใครเป็นคนปล่อยเรื่องสถานที่พักระหว่างการเดินทางของฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...