แต่ว่า สุดท้ายโล่หวางก็ไม่พูดมันออกมา
ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีความกล้า แต่เป็นเพราะขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยปาก ก็มองเห็น พ่อของเธอ เดินออกมาจากอาคารจินเม่า
ชายชราสูบยาสูบ ท่าทางเต็มไปด้วยความกังวล
เย่อู๋เทียนมองไปยังชายชรา และถามออกไปว่า
“อะไรงั้นหรือ ?”
หลังจากที่ชายชราเข้ามาใกล้ มองเย่จื่อหลงที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น และถามกลับมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“เขาพูดหรือยัง ?”
เย่อู๋เทียนพยักหน้า
“พูดแล้ว”
ชายชราเพิ่งจะพูดอะไรออกไป ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองโล่หวาง
“เธอถอยไปก่อน ข้ามีเรื่องที่ต้องการพูดคุยกับชิงตี้”
ทันใดนั้นสีหน้าของโล่หวางก็บูดเบี้ยว
“ฉันเป็นลูกสาวของท่านนะ แถมยัง เป็น......”
ไม่รอให้โล่หวางพูดจบ ชายชราก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด
“ฉันบอกให้แกถอยไปก่อน !”
โล่หวางจู่ ๆ ก็รู้สึกน้อยใจ
เย่อู๋เทียนเอ่ยขึ้น
“ให้เธอฟังอยู่ข้าง ๆ เถอะ ฉันได้ยินมาว่าเธอใกล้ชิดกับนังหนูตระกูลถัง วันนี้ถือว่าให้เธอได้รับบทเรียน ว่าอะไรที่เรียกว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ !”
โล่หวางไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมเย่อู๋เทียนถึงพูดแบบนี้
ชายชราฟังคำพูดของเย่อู๋เทียน สีหน้ากลับเคร่งเครียดถึงขีดสุด
“นายจะบอกว่า คนที่ทรยศนายในวันนั้น คือคนของตระกูลถังงั้นหรือ ?”
เย่อู๋เทียนไม่กล่าวปฏิเสธ ชี้ไปที่อาคารจินเม่า
“เข้าไปคุยข้างในเถิด”
สีหน้าชายชราเปลี่ยนไปจากเดิม
หลังจากนั้น
ทั้งสามคนก็เข้ามายังห้องทำงานชั้นแรกในอาคารจินเม่า
ชายชราที่ได้ยินสามคำนั้นเข้า จู่ ๆ ก็ใช้ฝ่ามือตบลงบนโต๊ะด้วยความเกรี้ยวกราด
“ถังเจิ้งเฟิง !”
“ไอ้แก่นั่น มันกล้าดียังไง !”
เย่อู๋เทียนพูดสงบสติอารมณ์ด้วยความนิ่งเฉย
“อย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่น เพียงแค่ฟังคำพูดของเย่จื่อหลง ไม่พอที่จะนำใช้ตัดสินถังเจิ้งเฟิงได้ !”
“ถ้าหากถังเจิ้งเฟิงยอมสวามิภักดิ์ให้กับวิหารจอมเทพจริง ๆ นั่นก็แสดงว่า เขาได้ทำการติดต่อกับประเทศโดยรอบ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา !”
“เรื่องนี้ ยังต้องการการยืนยันอยู่ !”
ชายชราอดใจรอการไต่สวนไม่ไหว
“แล้วจะยืนยันได้ยังไง ?”
เย่อู๋เทียนยิ้มเบา ๆ
“กลุ่มคนที่อยู่ขุมที่สิบสาม ยังคิดว่าฉันคือปีศาจแดงแห่งวิหารจอมเทพ !”
“หลังจากนี้สามวัน ฉันจะไปถามพวกเขาเอง”
ชายชราขมวดคิ้ว
“ทำไมต้องอีกสามวันด้วย ? ตอนนี้เลยไม่ได้หรือ ?”
“อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่ว่าพวกเราจะทำอะไรก็ได้ !”
เย่อู๋เทียนตกไปที่บ่าของชายชรา
“คุณจะรีบร้อนเกินไปแล้ว”
“ปล่อยพวกมันไปสามวันก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ฝึกนกเหนี่ยวนี่นา ก็ต้องสร้างความฮึกเหิมให้เหยี่ยวก่อน !”
“แล้วก็ หลังจากนั้นสามวัน ฉันจะให้คนไปจับตาดูตระกูลถังเอาไว้ !”
“รอดูท่าทีของถังเจิ้งเฟิงก่อน ถึงอย่างไร ผู้นำของทั้งหกสิบประเทศก็ปรากฏตัวอยู่ที่เจียงไห่ ถ้าหากเขาทำตัวมีพิรุธ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ !”
“เจ็ดปีมาแล้ว ถ้าถังเจิ้งเฟิงคิดจะก่อกบฏจริง ๆ ข้อมูลที่ได้รับรายงานตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาในประเทศหลง ทรัพย์สินที่ปล้นมาทั้งหมด คงเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง”
“ฆ่าน่ะมันง่าย แล้วหางที่อยู่ด้านหลังเขาล่ะ ?”
ชายชราได้ฟังคำพูดเหล่านี้จากเย่อู๋เทียน ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าอย่างเยือกเย็น
ถังเจิ้งเฟิงเป็นถึงผู้บัญชาปกครองชายแดน
เพียงแค่ทรยศเท่านั้น......
ประเทศหลงทุกหนแห่ง จะต้องพบเจอกับผลกระทบอันรุนแรง
แต่ในตอนนี้ กลยุทธ์ตีหญ้าให้งูตื่นไม่ใช่ความคิดที่ดี
แต่ว่า.....
เมื่อคิดว่าการประชุมสุดยอดไม่สามารถจัดขึ้นได้ตามกำหนด ผู้นำทั้งหกสิบประเทศ ต่างก็ต้องพบกันสถานการณ์ยากลำบากอยู่บนขุมที่สิบสามของอาคารจินเม่า
ชายชราเกิดความทุกข์ใจ
“ในตอนนี้ ทั่วทั้งโลกกำลังจับจ้องมาที่เมืองเจียงไห่นะ !”
“งานประชุมสุดอำนาจไม่มีทางที่จะจัดได้อย่างราบรื่นแน่ หากรัฐมนตรีของแต่ละประเทศยากที่จะติดต่อกับผู้นำของพวกเขาได้ เกรงว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ที่เกินจะควบคุมขึ้นแน่ !”
เย่อู๋เทียนท่าทีเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
“ไม่กี่ปีมานี้ สหพันธ์ระหว่างประเทศทำการบางอย่างกับประเทศหลง โดยต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายใน !”
“ถ้าหากว่าพวกเขาตกอยู่ในความวุ่นวาย เพราะไม่เห็นข่าวคราวของผู้นำประเทศ แล้วจะเกี่ยวอะไรกับประเทศหลงงั้นหรือ ?”
“ก็อย่างที่บอก ให้วิหารจอมเทพรับผิดชอบเรื่องนี้ !”
“วิหารจอมเทพนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้แล้ว เข้ามาสืบสวนแล้วก็ ฆ่าทิ้งให้หมด!”
ในตอนนั้น ชายชราไม่กล้าสบสายตากับเย่อู๋เทียนอีกแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ
เรื่องนี้อะไรก็ดีหมด เสียอย่างเดียวคือไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนพยายามจะยัดเยียดพระเอกให้มีเมียมากกว่า1? พระเอกเก่งมีเมียคนเดียวไม่ได้?...