จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 140

สรุปบท บทที่ 140 แกไม่ควรจะมายั่วโมโหผู้หญิงของฉัน!: จอมนักรบทรงเกียรติยศ

อ่านสรุป บทที่ 140 แกไม่ควรจะมายั่วโมโหผู้หญิงของฉัน! จาก จอมนักรบทรงเกียรติยศ โดย โซ่วปี่หนานซาน

บทที่ บทที่ 140 แกไม่ควรจะมายั่วโมโหผู้หญิงของฉัน! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จอมนักรบทรงเกียรติยศ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย โซ่วปี่หนานซาน อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เจ้าผอมสี่ตาเช็ดน้ำตาที่รินไหลออกมาที่หางตา พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ว่า “งั้น ๆ ๆ... งั้นฉันมีทางเลือกอื่นอีกไหม? ฉันไม่ขออะไรเลย แค่หวังว่าแกจะไว้ชีวิตฉัน ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ ฉันไม่อยากตาย”

ฟางเหยียนก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว พูดด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นว่า “ตลอดชีวิตนี้ ฉันเกลียดคนข่มขู่ฉันที่สุด เกลียดคนที่ใช้ปืนจ่อคนที่สำคัญกับฉันมากที่สุด”

พูดจบก็เห็นของชิ้นหนึ่งบินออกมาจากมือของเขา เจ้าผอมสี่ตาเหนี่ยวไกปืนไม่ทัน มือของเขาก็ถูกบางสิ่งบางอย่างแทงทะลุ อานุภาพของของชิ้นนั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง ไม่ด้อยไปกว่าลูกกระสุนเลยแม้แต่น้อย ซัดจนเขาถอยหลังติด ๆ กันไปหลายก้าว ปืนพกหล่นลงบนพื้น

เขาเงยหน้าขึ้นมามองไปทางฟางเหยียนอย่างลุกลี้ลุกลน เห็นว่าในมือของฟางเหยียนหนีบเหรียญเหรียญหนึ่งเอาไว้ สิ่งที่แทงทะลุมือของเขาเมื่อกี้ก็คือเหรียญ

คนที่สามารถใช้เหรียญยิงทะลุมือคนอื่นได้ ยิงออกมาได้มีอานุภาพเทียบเท่ากับปืนได้นี่ มันใช่เรื่องที่คนธรรมดา ๆ สามารถทำได้เหรอ? เป็นอริกับเขาเท่ากับหาเรื่องตายให้ตัวเองชัด ๆ ในสายตาของเขา ตัวเองก็เป็นเหมือนกับมดตัวเล็ก ๆ ที่น่าสงสารตัวหนึ่งเท่านั้น

ถือปืนมาข่มขู่เมียของเขา นี่ไม่ใช่รนหาที่ตายแล้วจะเป็นอะไรได้!

“ไม่! ขอร้องล่ะ อย่าฆ่าฉันเลยนะ ฉันยังไม่อยากตายจริง ๆ” เจ้าผอมสี่ตาคุกเข่าลงบนพื้น น้ำตารินไหลออกมาอีกครั้ง

ฟางเหยียนไม่ได้มองเขา เพียงแต่ใช้สายตามองไปบนร่างของเซียวห้านที่ใบหน้าเขียวคล้ำสั่นไปทั้งตัว

ถูกสายตานั้นจ้องเข้า เซียวห้านที่สั่นไปทั้งตัวก็สะดุ้งโหยง ความหนาวยะเยือกลามจากไขสันหลังจนขึ้นสมอง!

ฟางเหยียนเค้นรอยยิ้มเย็นชาออกมาบนใบหน้า พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ ว่า “ต่อไปก็ถึงตาเธอแล้ว!”

ประโยคนี้ราวกับสายฟ้าฟาด บนใบหน้าของเธอไร้สีเลือด ขาวซีดราวกับกระดาษ

เธอคิดว่าฟางเหยียนไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมาย แค่อาศัยอำนาจลับหลังบางอย่างปกป้องเอาไว้ก็เท่านั้น ใครจะไปคิดว่าเธอเดาผิด เธอคิดไม่ถึงเลยว่าฟางเหยียนจะแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้

บุกเดี่ยวฆ่าคนไปเป็นพัน ปืนผาหน้าไม้ที่อยู่ตรงหน้าเขาทั้งหมดไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด แม้แต่ชายหน้าบากในสามคุณชายแห่งจินโจวก็ยังสู้เขาไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว แล้วตระกูลเซียวของพวกเขาจะไปยั่วยุได้อย่างไรกัน

ตอนนี้เธอถึงจะได้รู้ว่าตัวเองนั้นโง่เง่าแค่ไหน ไร้เดียงสาแค่ไหน!

ตระกูลเซียวของพวกเขาไปยั่วยุเอาคนแบบที่ไม่รู้มีความเป็นมาจากไหนเข้าให้แล้ว!

“ตกใจจนสำออยขึ้นมาแล้วเหรอ? ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฟางเหยียนเยื้องย่างทีละก้าว ๆ จนมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเซียวห้าน

เซียวห้านถอยหลังไปทีละก้าว ๆ จนกระทั่งหลังติดกำแพงแล้วจึงหอบหายใจออกมาหนัก ๆ

ฟางเหยียนจ้องตาของเธอด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ความรู้สึกนั้นมันช่างแปลกประหลาดเกินไป เหมือนกับภูเขาลูกใหญ่ ๆ กำลังกดทับตนเอง กดจนตนหายใจไม่ออก

ทันใดนั้นฟางเหยียนก็ยกมือขึ้นมาวางอยู่บนใบหน้าซีดขาวของเซียวห้าน ตอนแรกเริ่มเขาใช้นิ้วหัวแม่มือนิ้วเดียว จากนั้นก็ค่อย ๆ ใช้มือทั้งมือวางอยู่บนใบหน้าของเธอ พอสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวของเซียวห้าน ฟางเหยียนถึงได้พูดอย่างเอ้อระเหยว่า “เธอในตอนนี้ ไม่เหมือนกับเธอที่อยู่ในโทรศัพท์เลยนะ เธอเป็นอะไรไปเหรอ?”

เซียวห้านอยากจะหนีไปตั้งนานแล้ว แต่ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเธอไร้เรี่ยวแรง หนีไปไหนไม่ได้โดยสิ้นเชิง

เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้งแล้วเอ่ยถามว่า “แก ๆ ๆ... แกเป็นใครกันแน่?”

ฟางเหยียนยักไหล่แล้วเอ่ยว่า “ฉัน เป็นสามีของเขา เธอให้ฉันมาเองนี่ ทำไมถึงได้ถามว่าฉันเป็นใครกันนะ?”

เซียวห้านส่ายศีรษะแล้วเอ่ยว่า “ฉันถามตัวตนของแก แกเป็นใครกันแน่? ทำไมต้องพุ่งเป้าไปที่ตระกูลเซียวของพวกเราไปทุกด้าน? ตระกูลเซียวของพวกเราไม่มีเรื่องบาดหมางอะไรกับแก แก...”

“ไม่มีความแค้น?” ฟางเหยียนทวนคำพูดที่ออกมาจากปากของเซียวห้านออกมาอีกรอบ ตัดบทพูดของเธอที่ยังไม่พูดไม่จบไป ยิ้มแล้วพูดว่า “เธอแน่ใจเหรอว่าตระกูลเซียวไม่มีเรื่องบาดหมางกับฉัน?”

เซียวห้านพยายามข่มความกลัวที่อยู่ในใจของตัวเองเอาไว้แล้วเอ่ยถามว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเรามีความแค้นอะไรกับแก?”

ถึงอย่างไรเซียวห้านก็เป็นถึงคุณหนูของตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองจินโจว ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจมาตั้งแต่เด็ก ผิวพรรณรูปร่างก็ถูกดูแลมาอย่างดีมาก ๆ ดีเลิศไปหมดทุกด้าน แต่... เธอได้พบกับฟางเหยียน

“เพี๊ยะ!” ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาตบหน้าเธอกะทันหัน ตะคอกอย่างเหี้ยมโหดว่า “เก็บลูกไม้นี้ของเธอไว้เถอะ เธอคิดว่าแบบเธอจะมาเป็นทาสรับใช้ฉันได้อย่างนั้นเหรอ?”

ฝ่ามือเดียวตบจนเธอล้มลงไปอยู่บนพื้น ถูกปฏิเสธแล้ว ทั้งยังใช้วิธีนี้มาปฏิเสธอีก นี่ยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?

ฟางเหยียนก้มตัวลง สัมผัสนิ้วมือของเซียวห้าน จากนั้นก็จับหนึ่งในนิ้วมือนั้นขึ้นมาแล้วเอ่ยว่า “เซียวห้าน คิดออกหรือยังว่าเธอเคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน?”

“กึก!” ได้ยินเสียงดังกึกหนึ่งที นิ้วมือของเธอถูกดึงจนขาดออกมาอย่างไม่มีพิธีรีตอง

เซียวห้านเจ็บจนน้ำตาไหลออกมาทันที ความรู้สึกที่กล้ามเนื้อบนร่างถูกดึงออกไปอย่างไม่มีพิธีรีตองแบบนี้ คนที่มีเคยประสบมาอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้ มีเพียงคนที่เคยประสบมาเท่านั้นถึงจะรู้ว่าความรู้สึกแบบนั้นเป็นเช่นไร เจ็บเจียนขาดใจ

“นึกออกหรือยัง?” ฟางเหยียนถามทีละคำ ๆ

เซียวห้านพยักหน้าอย่างต่อเนื่องแล้วเอ่ยว่า “คิดออกแล้ว ๆ เป็นจางฟาง นี่เป็นเรื่องที่ฉันเคยทำกับร่างกายของจางฟาง ขอร้องล่ะ ขอร้องล่ะ... ปล่อยฉันไปเถอะ! ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่าเธอนะ”

จางฟางเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนคนหนึ่งจากเมืองจินโจวที่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกับเซียวห้าน แต่เซียวห้านไม่ชอบคนอย่างจางฟางที่ขยันจนสามารถไปเรียนต่อเมืองนอกได้ มีอยู่ครั้งหนึ่ง เป็นเพราะคำพูดเดียวของคนคนหนึ่ง ทำให้ชะตาชีวิตของจางฟางเปลี่ยนแปลงไป

คนคนนั้นพูดกับเซียวห้านว่า พวกเธอสองคนเข้าเรียนในที่เดียวกัน ทำไมถึงได้แตกต่างกันมากมายถึงขนาดนั้น คนคนหนึ่งอบอุ่นอ่อนโยนช่างเอาใจใส่ ผลการเรียนโดนเด่น อีกคนกลับเผด็จการไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนกับเป็นอันธพาลสาวคนหนึ่ง

ประโยคนี้ทำให้เซียวห้านรู้สึกสะเทือนใจ ดังนั้นเธอจึงพุ่งเป้าไปที่จางฟาง จากการเริ่มต้นล้างแค้นเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงขั้นลักพาตัวเธอมา

ต่อมาเธอก็ตัดนิ้วมือทั้งห้าของจางฟางออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ