เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าอุทาน “ฟางเหยียน ฉันรู้ว่าคุณทำเพื่อฉัน แต่คุณวู่วามเกินไป ความจริงเราไล่เขาออกไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำร้ายร่างกาย ตอนนี้ทำร้ายร่างกายแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยพวกเราไปง่ายๆแน่นอน อิทธิพลของเหลียงจงเยอะมาก พวกเราเอาไม่อยู่หรอกนะ”
เย่ชิงหยู่ยังคงกลัวเหลียงจงมาล้างแค้นฟางเหยียน ปกติฟางเหยียนจะไม่เห็นหัวใครก็ได้ แต่นี่ไม่ใช่คนที่เขาจะแตะต้องได้!
ฟางเหยียนส่ายหน้าหัวเราะอย่างไม่กลัว แล้วกล่าว “คุณกลัวอะไร มันรังแกคุณ ต้องได้รับการลงโทษ นี่เป็นกฎ กฎของผม ใครก็ฝ่าฝืนไม่ได้”
ฟางเหยียนพูดอย่างรอบคอบ แต่ใบหน้าของเย่ชิงหยู่ยังคงหม่นหมองอยู่เช่นเคย เธอสูดหายเจ้าเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “ผมไม่กังวลว่าพวกมันจะมารังแกผม แต่ผมกังวลว่ามันจะมาจัดการคุณ แม้คุณเก่งกาจ แต่อำนาจเค้ามากกว่า”
“เหรอ?” ฟางเหยียนกล่าว “อำนาจ?ชิงหยู่ อำนาจของพวกมันก็เท่านั้นแหละ!ความจริงทั้งเขตซีหนาน ผมกลัวเพียงคนเดียว มีคนเดียวที่มีอำนาจมากกว่าผม!”
“ใคร?" เย่ชิงหยู่ถามอย่างแปลกใจ
ฟางเหยียนกล่าวอย่างทันทีว่า “คุณ อำนาจของคุณมากกว่าใครทั้งนั้น!เพราะคุณสั่งผมได้ เหลียงจงอาจจะมาหาพวกเรา แต่ไม่มีทางมาเพื่อล้างแค้นแน่นอน แต่มาเพื่อขอร้องผม”
เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินประโยคนี้ ก็ขมวดคิ้ว มองไปที่ฟางเหยียนอย่างไม่เข้าใจ “ขอร้องคุณ?ทำไมต้องขอร้องคุณ?”
ฟางเหยียนตอบ “บริษัทของมันกำลังจะล้มละลายแล้ว ถ้าไม่ขอร้องผม ทำได้เพียงรอให้กิจการของมัน ล้มละลายไปเท่านั้น คุณคิดว่าเมื่อกี้ผมพูดเล่นเหรอ ผม ไม่มีทางล้อเล่นต่อหน้าคุณแน่นอน”
“ชิ!" เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าด้วยความไม่เชื่อแล้วกล่าว “ก็ว่าไป ฉันเชื่อคุณได้ทุกอย่าง แต่เรื่องนี้ไม่รู้จะเชื่อยังไง คุณโทรแค่สายเดียวแล้วจะทำให้เขาที่ทรัพย์สินหลายหมื่นล้านล้มละลายได้อย่างไรกัน”
เย่ชิงหยู่ไม่เชื่อว่าฟางเหยียนจะทำเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ สายที่โทรเมื่อกี้นั้นก็แค่ข่มขู่คนก็เท่านั้น บนโลกนี้ จะมีคนที่มีความสามารถมากขนาดนั้น แค่สายเดียวจะสามารถยึดกิจการระดับหมื่นล้านได้
นอกเสียจากความสามารถของคนนี้จะค้ำฟ้า ตัวตนของฟางเหยียนน่าสงสัย แต่ก็ไม่ถึงขั้นค้ำฟ้า!
ฟางเหยียนไม่ต่อร้องต่อเถียง เพียงแต่ถือชาแล้วดื่มลงไป
เขามองหน้าจิ้มลิ้มของเย่ชิงหยู่ แล้วพึมพำในใจว่า “บนโลกนี้จะมีใครรังแกคุณได้ ใครๆก็รู้ว่าคุณคือผู้หญิงของราชา บางทีมีแค่คุณเท่านั้นที่ไม่รู้”
ตอนที่กำลังอุทานอยู่นั้น เขายินดีที่เย่ชิงหยู่มีชีวิตที่สบายได้ขนาดนี้ บนโลกนี้ มีหลายอย่างที่เห็นแจ้ง แต่ทว่ายิ่งเป็นทุกข์ อย่างเย่ชิงหยู่ที่มีชีวิตอย่างไม่ต้องกังวลใดๆ ก็ดีนะ
ในขณะที่เขามองเย่ชิงหยู่อยู่นั้น จู่ๆมือถือดังขึ้น ฟางเหยียนหยิบมือถือออกมาดู ศาสตราจารย์โจวโทรมาหาเขา ตอนที่เขากำลังจะรับสาย เย่ชิงหยู่ถามขึ้นมาว่า “ใครโทรหาคุณ?"
ฟางเหยียนชะงัก แล้วตอบกลับ “เพื่อนคนหนึ่ง!"
เย่ชิงหยู่ไม่ถามต่อ ฟางเหยียนรับสาย ปลายสายเป็นเสียงตื่นตระหนกของศาสตราจารย์โจว
“ครูฟาง คุณจะเมื่อไหร่กันแน่เนี่ย? ผมรอที่จะฟังคุณบรรยายไม่ไหวแล้ว เรื่องหลิงสือแดงเขียวผมรู้ถ่องแท้แล้วนะ คุณรีบๆมา ผมจะได้เอาผลลัพธ์ให้คุณ!" ศาสตราจารย์โจวเป็นคนแบบนี้ ไม่ชอบเยิ่นเย้อ พูดให้จบรวดเดียว สบายใจมาก
ฟางเหยียนตอบ “รอไปก่อนแล้วกัน! ผมจัดการธุระเสร็จแล้วจะไป อ้อ เรื่องหลิงสือ ผมหวังว่าศาสตราจารย์โจวจะเก็บเป็นความลับ ตอนนี้ผมยังไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้”
ศาสตราจารย์โจวหัวเราะฮ่าฮ่า “สบายใจได้ ถ้ายังไม่ได้รับการอนุญาตจากคุณ ผมไม่มีทางเอาเรื่องของคุณออกมาพูดสุ่มสี่สุ่มห้าแน่นอน แต่ คุณคิดให้ดีนะ ของสิ่งนี้ถ้าเผยแพร่ออกไปแล้ว จะต้องสั่นสะเทือนวงการอย่างแน่นอน”
“ช่างมัน!" ฟางเหยียนใช้สามคำอย่างไร้ความรู้สึก
ศาสตราจารย์โจวกล่าวอย่างค่อนข้างผิดหวัง “โอเค งั้นผมรอคุณมา ครูฟางช่วงนี้ลองไตร่ตรองข้อเสนอแนะของผมดูนะ เพียงแค่คุณยอมมาสอนที่นี่ ผมให้ในสิ่งที่คุณอย่างได้ทุกอย่าง พูดหยาบๆหน่อย ก็คือคุณจะมีตำแหน่งทางสังคมแน่นอน ถึงตอนนั้นคุณไม่เพียงแค่มีหน้ามีตาในโลกของการศึกษาเท่านั้น แต่ในโลกโบราณคดี โลกแห่งเทคโนโลยีคุณก็จะมีบทบาทด้วยเช่นกัน”
“ขอบคุณครับ! งั้นแค่นี้ก่อนแล้วกัน ศาสตราจารย์โจว” เมื่อฟางเหยียนพูดประโยคนี้จบ ก็ตัดสายไปทันที
สำหรับสิ่งหยาบคายเหล่านี้ ฟางเหยียนไม่ใส่ใจใดๆ หน้าตาทางสังคม? เขาคือจอมพลโผ้จวินของสำนักเจ็ดพิฆาต ในโบราณเทียบได้กับกษัตริย์ สามารถสั่งการได้ แล้วเขายังจะต้องการตำแหน่งอะไรอีก?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ