จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 255

เฉินถิงเย่ว์เอามือกลับไปอย่างอับอาย เมื่อกี๊ได้ยินซ่งฉาวอู่พูดถึงคนนี้ ว่ากันว่าเขาตำแหน่งสูงมาก แล้วยังมาจากกองทัพอีกด้วย วัยรุ่นหยิ่งยโส เคยผ่านสงคราม เคยทำคุณูปการให้เช่นกัน เข้าใจได้ แต่กฎที่เคารพนับถือผู้สูงอายุและรักเด็กก็ยังต้องมี เพราะนี่คือคุณธรรมอันดีงามที่สืบทอดกันมาของชนชาติหวา แต่คนนี้ประพฤติตัวแบบนี้กับเขา ไม่ค่อยเคารพตัวเองสักเท่าไหร่

ไม่ว่าจะยังไงตัวเองก็เป็นคณบดีโรงพยาบาลนี้ ตำแหน่งก็ไม่แย่นะ!ถูกเขามองข้ามแบบนั้น รู้สึกค่อนข้างงามหน้า

แต่เฉินถิงเย่วก็ไม่กล้าที่จะไม่ตอบ จึงได้พูดว่า “ผมไม่ค่อยแน่ชัดในลำดับขึ้นตอนสักเท่าไหร่ เรื่องนี้...”

“ซ่งฉาวอู่!” ฟางเหยียนเรียกชื่อซ่งฉาวอู่อย่างเลือดเย็น ขัดจังหวะคำพูดของเฉินถิงเย่ว์

นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาไม่ให้เกียรติตัวเอง นี่ทำให้เฉินถิงเย่ว์เสียหน้าต่อหน้าลูกน้องอย่างที่สุด จากเรื่องเล็กๆเหล่านี้เพียงพอที่จะรู้ว่าความอวดดีของคนนี้ไม่ได้น้อยเลย

“หา!” ซ่งฉาวอู่สะดุ้ง แล้วกล่าวอย่างติดๆขัดๆ “ผม ผมไม่ทราบครับ!”

ซ่งฉาวอู่ทำอะไรไม่ถูก!

“เหอะเหอะ!” ฟางเหยียนดูแคลน แล้วกล่าว “ไม่รู้?งั้นคุณทำอะไรอยู่ที่นี่ตั้งนาน?ฟังคณบดีคนนี้โม้งั้นเหรอ? ถ้าผมเดาไม่ผิดละก็ เกิดเรื่องแล้วคณบดีคนนี้ถึงได้ออกจากบ้านแล้วมาโรงพยาบาลสินะ?”

คณบดีชะงักทันใด เขากลับไปแล้วจริงๆ ได้ยินว่าโรงพยาบาลเกิดเรื่องจึงได้รีบมา แต่เขาก็ไม่อนุญาตให้คนอื่นว่าเขาแบบนั้นนะ นี่อยู่ที่หน้าประตูโรงพยาบาลของเขา และข้างๆยังมีหมอจำนวนมากยืนฟังอยู่อีกด้วย

“เด็กน้อย คุณหมายความว่ายังไง?คุณรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร?” เฉินถิงเย่ว์ตะคอกอย่างโมโห

ฟางเหยียนหันไปมองเฉินถิงเย่ว์ แล้วกล่าว “ตัวตนของคุณ ผมไม่อยากรู้ ในฐานะที่เป็นคณบดีของโรงพยาบาล แม้แต่เกิดอะไรขึ้นยังไม่รู้เลย คุณคิดว่าตัวคุณเองยังมีคุณสมบัติที่จะเป็นคณบดีโรงพยาบาลอีกต่อไปมั้ย?”

เฉินถิงเย่ว์ค่อนข้างมึนงง ประโยคนี้หมายความว่ายังไง?กำลังท้าทายอำนาจของตนอยู่เหรอ?

เขากัดฟัน กล่าวอย่างยับยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่ “คุณไม่รู้จักการเคารพนับถือผู้สูงอายุและรักเด็กเหรอ?ผมอายุปูนนี้ถือเป็นปู่ของคุณได้แล้วนะ คุณพูดกับผู้อาวุโสด้วยท่าทีแบบนี้?อย่าคิดว่ามีแค่คุณที่เคยผ่านสงครามมา ตอนที่ผมวัยรุ่นก็เคยผ่านสงครามมาแล้วเหมือนกัน ตอนนั้นผมนำทีมแพทย์ไปรักษาวีรบุรุษที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำสงคราม”

เคารพนับถือผู้สูงอายุและรักเด็ก!ปู่!ถ้าเขารู้ว่าปู่ของตนคุกเข่าต่อหน้าเขาเพื่อขอให้เขาสืบทอดกิจการของตระกูล ไม่รู้ว่าเขาจะมีท่าทียังไงอีก ฟางเหยียบเหลือบตาไปมองเขา แล้วไม่พูดอะไรอีก

จากนั้นมองไปยังซ่งฉาวอู่แล้วกล่าว “ไปสืบมาว่าเกิดอะไรขึ้น ผมอยากรู้ว่าหมอสามคนนั้นทำอะไรกับเขา!”

“รับทราบ!” ซ่งฉาวอู่ตอบรับ แล้ววิ่งไปยังสถานที่กักตัวของเหล่าแพทย์อย่างตาลีตาเหลือก

ฟางเหยียนไม่เชื่อว่าเทียนขุยจะฆ่าคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ พวกเขาต้องทำอะไรเขาแน่ๆ ถึงได้เขาคลุ้มคลั่งแล้วฆ่าคน เทียนขุยไม่ได้เป็นคนที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ต่อให้บ้าคลั่งสุดๆเขาก็ไม่มีทางทำแบบนั้น

ตอนนี้ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว เทียนขุยยังไม่ออกมา ก็เพียงพอที่จะดูออกแล้วว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ซ่งฉาวอู่พูดทั้งหมด ว่าเขาบ้าไปแล้ว ดังนั้นฟางเหยียนจึงมั่นใจ ว่าหมอสามคนนั้นต้องทำอะไรกับเขาแน่นอน

ฟางเหยียนเชื่อมั่นในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขามาก เพราะเขาเข้าใจทุกคนในสำนักเจ็ดพิฆาต!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ