เคล็ดเผาฟ้า ท่าไม้ตายของฟางเหยียน ท่าเดียวสิ้นสุดต่อสู้ และยังทำลายศัตรูได้อีก มีพลังทำลายล้างอย่างมหาศาล บ้าคลั่งอย่างหาที่เปรียบมิได้!ท่านี้ เขามั่นใจแค่30% แต่สามารถทำลายล้างได้ทั้งหมด
เขาไม่รู้ว่าเคล็ดเผาฟ้ายี่สิบขั้นจะมีพลังมากถึงขั้นไหน แต่เคล็ดเผาฟ้าในตอนนี้แข็งแกร่งมากแล้ว!
เขาพนมสองมือขึ้น ตรงกลางระหว่างสิบนิ้วปรากฏเป็นมีดไฟยักษ์เล่มหนึ่งที่เป็นเปลว ก็คือมีดยักษ์ที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ช่างสะเทือนฟ้าดินจริงๆ!มีดยักษ์พุ่งลงมาจากฟ้า เทียนขุยไม่ได้โง่ เมื่อเห็นดังนี้ จึงยกมือทั้งสองขึ้น พยายามให้มือทั้งสองขวางมีดยักษ์เล่มนั้นของฟางเหยียนไว้
หมัดของเขาเต็มไปด้วยพลังมหาศาล เห็นเพียงดวงไฟลุกโชนสองดวงชนเข้าด้วยกัน จี้ที่แขวนอยู่รอบๆต่างหล่นลงกับพื้นทั้งหมด แววตาเกรี้ยวกราดของเทียนขุยค่อยๆกลับมา หยาดเหงื่อของเขาราวกับเมล็ดถั่วได้ไหลลงมา และแล้ว พลังขาทั้งสองข้างของเขาค่อยๆหมดไป แล้วทรุดลงกับพื้น คุกเข่าบนพื้นทันที แพ้แล้ว!เทียนขุยแพ้อย่างราบคาบ!
“โอว!” เสียงคำรามดังขึ้นอีกครั้ง เหมือนเทียนขุยปล่อยชี่แท้สุดท้ายออก แล้วล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรงทั้งตัว และสิ่งที่ตามมาคือเขากระอักเลือดออกมา
นัยน์ตาของเขาค่อยๆเลือนไป ตอนที่ดวงตาของเขายังพอมองเห็นอยู่นั้น เขาเห็นคนที่ทำให้เขาเคารพได้คนนั้น เขานั่นเอง จอมพลโผ้จวิน แต่ก็เป็นความรู้สึกสุดท้ายแล้ว เขาก็ค่อยๆ ค่อยๆฟุบไปกับพื้น
การต่อสู้จบลง ฟางเหยียนค่อยๆเก็บท่าในมือของตัวเองช้าๆ ตนก็ไอออกมาอย่างรุนแรงหลายครั้ง ตอนที่ร่างกายยังไม่พักฟื้นเต็มที่ แล้วยังใช้เคล็ดเผาฟ้าจะเป็นการแว้งกัดมาทำร้ายตัวเอง ต่อให้ใช้เคล็ดเผาฟ้าเพียงขั้นเดียวก็ตาม หลังจากที่ไอหลายๆครั้งติดต่อกัน เขาได้ไอเป็นเลือดออกมาอีกครั้ง นี่เป็นผลกระทบจากการที่ร่างกายยังไม่ทันฟื้นฟูอย่างเต็มที่แล้วยังใช้เคล็ดเผาฟ้า!
สภาพในห้องรกเละเทะไปหมด เขาพักผ่อนไปชั่วขณะหนึ่ง แล้วจึงพยุงตัวขึ้นอย่างช้าๆ เดินไปที่เทียนขุย
เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าของเทียนขุย เขาคุกเข่าลงไป คว้าแขนของเทียนขุยมาแล้วเริ่มวัดชีพจรที่ข้อมือของเขา เมื่อพบว่าเทียนขุยยังปลอดภัยดี ฟางเหยียนจึงค่อยๆปล่อยแขนของเทียนขุยอย่างช้าๆ
สิบนาทีผ่านไป เทียนขุยค่อยๆตื่นขึ้นมา ตอนที่เขาลืมตาขึ้น ได้ถามกับตัวเองว่า “ฉันอยู่ไหน?ที่นี่ที่ไหนกัน?”
หลังจากที่พูดประโยคนี้เสร็จเขาลุกขึ้นอย่างเร็ว เหมือนกับฝันไป เมื่อยืนขึ้นแล้วก็เห็นฟางเหยียนที่อยู่ตรงข้ามเขาพอดี
เมื่อเห็นฟางเหยียน เขารีบโค้งคำนับ แล้วคุกเข่าลงกับพื้น ตะโกน “จอมพลโผ้จวิน!”
เขาไม่รู้ว่าทำไมจอมพลโผ้จวินถึงได้มาอยู่ที่นี่ และไม่รู้ว่าในห้องนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แต่เมื่อเห็นจอมพลโผ้จวิน สิ่งแรกที่เขาต้องทำ คือคุกเข่า!
เมื่อคุกเข่าลง สมองของเขาก็ค่อยๆผ่อนคลายลง ทำให้นึกย้อนกลับไปยังเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี๊ได้อย่างรวดเร็ว เขาจำได้ว่าเขาถูกคนนั้นต่อยกระดูกที่มือหักละเอียด หมัดทั้งสองอีกทั้งกระดูกที่มือก็หักละเอียดเช่นกัน เมื่อนึกจุดนี้ เขาได้ขยับกระดูกที่มือโดยปริยาย นึกไม่ถึงว่าจะไม่เจ็บแล้ว แล้วยังขยับได้อีก เทียนขุยดีใจกับเรื่องที่ตัวเองคาดไม่ถึง!นี่มันฟื้นฟูกลับมาแล้วเหรอ?
ช่วงสุดท้ายก่อนที่เทียนขุยจะสลบไป เขาสิ้นหวังอย่างหาที่เปรียบมิได้กับเรื่องที่เขาต้องเสียมือทั้งสองข้างไป!คิดในใจว่าต่อไปนี้ตนต้องกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพคนหนึ่งแล้วเหรอ?แต่ไม่คาดคิด ว่าตัวเองจะขยับได้ และมือของตัวเองก็ฟื้นฟูแล้วเช่นกัน!
นี่มันฝันไปหรือเปล่าเนี่ย? เขาแอบหยิกตัวเอง เจ็บ!เป็นเรื่องจริง เขามีความรู้สึก นี่เป็นความจริง!
ฝ่ามือและแขนได้ฟื้นฟูแล้ว เขา และแล้วเขาก็ฟื้นฟูกลับมาได้แล้ว!
คนที่สามารถทำให้เขาฟื้นฟูกลับมาได้มีเพียงคนเดียว นั่นก็คือคนที่อยู่ตรงหน้า เทพที่ตนเลื่อมใสที่สุด และเคารพที่สุด!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ