ผู้จัดการคนนั้นหัวเราะหึๆ กวักมือพลางพูดว่า“ลุย!”
ชายร่างกำยำหลายคนก้าวออกไปหนึ่งก้าว ใบหน้าของผู้จัดการมองไปทางหลงซิ่วซิ่วกับชายผมทองคนนั้นอย่างยิ้มประจบ แล้วเอ่ยถาม“คุณหนูหลง คุณปีเตอร์ครับ ผมจัดการด้วยวิธีนี้ไม่ทราบว่าสมเหตุสมผลไหมครับ?”
“โน ไม่สมเหตุสมผล!”ชายผมทองที่ชื่อปีเตอร์ถลึงตาจ้องมองไปที่เทียนขุยด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวพลางพูดขึ้นมาว่า“เขาหักนิ้วฉันหักขนาดนี้ มันหักไปแล้ว เอาแค่สองมือของเขา มันง่ายเกินไป ต้องฆ่าเขาซะ ฆ่าเขา”
พูดจบ ปีเตอร์ก็เอามีดหั่นเนื้อสเต๊กมาหนึ่งด้าม แล้ววาดมีดไปมาด้วยความโกรธแค้นทางเทียนขุย
ผู้จัดการคนนั้นพูดอย่างลำบากใจ“คุณปีเตอร์ครับ นี่คือโทษฆ่าคนตายเลยนะครับ!เราไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้หรอกครับ”
“งั้นเหรอ?งั้นคุณรอกลับบ้านเถอะ!”หลงซิ่วซิ่วเสียสติไปโดยสิ้นเชิง เดินตามความคิดของชายผมทอง
เธอใช้สายตามองไปที่ผู้จัดการอย่างเย็นชา“ร้านของพวกคุณอย่าคิดจะเปิดมันต่อไปอีกเลย ฉันจะโทรหาพ่อฉัน ฉันจะให้เขามาจัดการเรื่องนี้”
“อย่านะครับๆๆ!”ผู้จัดการไม่กล้าให้หลงซิ่วซิ่วเรียกพ่อของเธอมา ถ้าพ่อของเธอมา งั้นชีวิตของเขาจะต้องไม่สงบแน่ เขาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า“คุณหนูหลงครับ เราทำเขาพิการได้นะครับ แต่จะฆ่าไม่ได้เด็ดขาด ทำให้เขาพิการไม่ได้แพ้การฆ่าเลยใช่ไหมครับ?ในบางครั้งฆ่าคนคนหนึ่ง มันง่ายสำหรับเขาเกินไป”
“ได้!”ปีเตอร์ยืดหลังตรง จิ้มไปที่จมูกของผู้จัดการ แล้วพูดกับเขาโดยใช้สายตามองลงมา“ผมยังจะให้เขามุดจากที่นี่ของผมไปด้วย หลังจากนั้นก็ถ่ายคลิป โพสต์ไปในโลกออนไลน์ ผมจะให้คนอื่นรับรู้ถึงการผิดใจกับผม”
ยโส โอหัง นี่ถือสถานที่ของคนประเทศหวา ทำไมถึงมีคนแบบนี้ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยังมีคนจำนวนมากที่ไปสรรเสริญเยินยอคนอย่างหมอนี่ เป็นเพราะคำสรรเสริญเยินยอของพวกเขา ถึงทำให้หมอนี่หยิ่งผยองพองขนได้ขนาดนี้?
“ได้ยินไหม?”หลงซิ่วซิ่วใช้ถามผู้จัดการคนนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ผู้จัดการรีบพยักหน้าแล้วพูด“ได้ยินครับ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้แหละครับ ทำเดี๋ยวนี้แหละ”
“ไอ้หนุ่ม นายจะจัดการเอง หรือจะให้ฉันช่วย?”ต่อหน้าคนสองคนนี้เขาเชื่องเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง พอหันกลับมาทางเทียนขุย กลับตาลปัตรเป็นคนที่มองคนอื่นอย่างดูถูก คนที่เหนือกว่าคนอื่น
เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วมองไปที่เทียนขุย พลางพูดขึ้นมาว่า“อย่าคิดว่านายจะสวมเสื้อผ้าแบบนี้ นายจะเป็นคนมีตำแหน่งสูงนะ ดูน้ำหน้าของนาย อย่างมากก็แค่คนใช้แรงงาน!ฉันขอเตือนนายอย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า เดี๋ยวถึงเวลา……”
“หึๆ!หุบปากเน่าๆของแกซะ!”เทียนขุยไม่อาจทนกับคำพูดของเขาได้อีกต่อไป จึงพูดตัดบทเขาออกไป
หลังจากนั้นสายตาของเขาก็ไปอยู่บนตัวของชายผมทอง เขาพูดว่า“ได้ ในเมื่อแกชอบโพสต์ในโซเชียล งั้นฉันจะถ่ายคลิปไว้อันหนึ่งแล้วโพสต์ลงไป”
ผู้จัดคนนั้นอ้าปากตาค้าง นี่หมายความว่าไง?นี่คือการยอมแพ้เหรอ?ฉันก็คิดว่านายจะเก๋าแค่ไหนเชียว?แค่คนใช้แรงงานเท่านั้น อาศัยใช้กำลังของตัวเอง ถึงกล้าจองหองขนาดนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ