แต่สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือ เทียนขุยกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดออกมาว่า “คุณคิดว่าผมต้องการเงินร้อยล้านนั่นหรือ?พวกเราต้องการความเชื่อใจ พวกเรามาเจียงตูจากหนานหลิงก็เพื่อมารักษาโรคให้ลูกชายของคุณ คุณทำแบบนี้กับพวกเรา ทำให้พวกเราผิดหวังมาก”
เมื่อได้ยินดังนี้ เจี่ยเกิงจื่อก็ตาโตขึ้นมาทันใด แล้วได้พูดออกมาเดี๋ยวนั้นว่า “ท่านทั้งสองเป็นคนที่พี่ถังเชิญมางั้นเหรอ?”
“เห้อ!” เจี่ยเกิงจื่อตบหน้าขาแล้วกล่าว “ผมนี่มัน ตาบอดจริงๆ ตาบอดจริงๆ!ขอท่านทั้งสองให้อภัยด้วยนะครับ อย่าถือโทษโกรธเคืองกันเลย เป็นความผิดของผมทั้งหมด!”
เทียนขุยเตรียมจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกฟางเหยียนขัดคอ เขาตบไหล่ขอเทียนขุย แล้วพูดกับเจี่ยเกิงจื่อว่า “ขอโทษนะ ลูกชายของคุณไม่คู่ควรที่จะให้ผมรักษา!เทียนขุย กลับ”
พูดพลาง ฟางเหยียนก็หันหลังจากไป แต่สาวชุดดำจู่ๆก็ไปตามกำแพงแล้วกระโดดไปที่ประตูใหญ่ เธอยืนที่ประตูใหญ่ มองทั้งสองคนอย่างเย็นชา ยกมือขึ้นมาขวางทั้งสองคนไว้
ฟางเหยียนสบตากับสาวชุดดำ แล้วส่งเสียงเออะออกมา “ทำไม?คุณอยากตาย?”
สาวชุดดำขมวดคิ้ว กลืนน้ำลายแล้วกล่าว “คุณจะไปไม่ได้นะ!”
เจี่ยเกิงจื่อที่อยู่ด้านหลังรีบกล่าวว่า “คุณผู้ชาย ได้โปรดหยุดก่อนเถอะนะ!”
พูดพลาง เขายกมือขึ้นมาเพื่อส่งสัญญาณจะเอาของ ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงที่ลักษณะเหมือนชาวต่างชาติมาด้านหลังถือบัตรใบหนึ่งยื่นให้เจี่ยเกิงจื่อ เจี่ยเกิงจื่อรับบัตรนั้นมา เดินไปด้านหลังของฟางเหยียน แล้วกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณผู้ชาย เมื่อกี๊ทำผิดอย่างมหันต์ พวกเราไม่ได้อยากตั้งใจจะทำคุณ นี่เป็นของขวัญในการขอโทษคุณจากเรา นี่คือบัตรวีไอพี ในบัตรมีร้อยล้าน เห็นแก่ท่านถัง ขอคุณชายกรุณารับน้ำใจของเราไว้ด้วยนะคะ แล้วยังมีนอกอีก ถ้าคุณรักษาหาย”
เจี่ยเกิงจื่อคิด ในเมื่อฟางเหยียนเป็นคนที่ถังเสี่ยนจงเชิญมา เขาต้องให้เกียรติถังเสี่ยนจงแน่นอน
ฟางเหยียนเงียบไปสักพัก แล้วค่อยๆหันหลังกลับมาดูเจี่ยเกิงจื่อ จากนั้นยกมือขึ้นมารับบัตรวีไอพีนั้น เมื่อหลังฟางเหยียนรับบัตรสีทองไปแล้ว เจี่ยเกิงจื่อก็สูดหายใจเข้าลึกๆอย่างผ่อนคลายแล้วกล่าว “ขอบคุณคุณผู้ชายที่ใจกว้าง ถ้าคุณรักษาลูกชายผมหาย ผมจะให้คุณผู้ชายนอกอีกห้าพันล้าน ผมเชื่อคำพูดของพี่ถัง!”
ฟางเหยียนเอาบัตรสีทองใส่ไว้ในกระเป๋า ส่งเสียงอืม แล้วกล่าว “พาผมไปดูหน่อย!”
ความจริงเป้าหมายที่ฟางเหยียนรับบัตรนี้มาก็เพื่อไว้หน้าเจี่ยเกิงจื่อ ถ้าเขาไม่อยากให้โอกาสเจี่ยเกิงจื่อจริงๆ จะไม่มีทางรับเงินนี้มาอย่างแน่นอน ร้อยล้าน สำหรับฟางเหยียนแล้วมันน้อยนิดมาก ตอนนี้ถ้าไม่เอาก็ไม่เสียหายอะไร
ในขณะเดียวกันนี้ เสียงผู้เฒ่าที่ดังสนั่นดังออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลเจี่ย “ฉันคิดว่าจะได้เจอกับวัยรุ่นคนเก่งที่ไม่เห็นแก่เงินเสียแล้ว ไม่คาดคิดว่าจะเหมือนคนสามัญทั่วๆไป!”
มองไปตามเสียง เห็นผู้เฒ่าสวมชุดผาวสีขาวเดินออกมาข้างนอก อายุของผู้เฒ่านั้นเดายาก เขาผมขาวทั้งหัว ผมยาวประบ่า หนวดบนริมฝีปากและเคราใต้ริมฝีปากล่างได้ยาวไปจนถึงหน้าอก คิ้วขาวโพลน อีกนิดเกือบจะยาวไปที่บริเวณหนวดแล้ว ดูๆแล้วสูงศักดิ์เป็นพิเศษ
ผู้เฒ่ายกมือขึ้นมาลูบเคราของตัวเอง แล้วกล่าว “เมื่อกี๊ฉันเห็นแกไม่สนใจเงิน จะออกไปให้ได้ เดิมทีก็ชอบความกล้าของแกอยู่นะ ไม่ก้มหัวให้เงินตรา แต่ใครจะรู้เมื่อคุณท่านเจี่ยเอาเงินให้แกต่อหน้า นึกไม่ถึงว่าแกจะรับ การกระทำนี้ของแกทำให้ฉันผิดหวังอย่างหาที่เปรียบมิได้”
“เออะ?” ฟางเหยียนมองชายชราตั้งแต่หัวจรดเท้า คิดว่าผู้เฒ่าคนนี้ปัญญาอ่อนหรือเปล่า จึงได้ถามไปว่า “คุณเป็นใคร?”
“ฉันเป็นใคร?” ชายชราหัวเราะฮ่าๆๆออกมา แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยและแปลกใจ
สีหน้าของเจี่ยเกิงจื่อก็ดูไม่มีขึ้นมาก เขาชะงักไป แล้วถาม “คุณฟาง คุณไม่รู้จริงๆเหรอว่าผู้เฒ่าคนนี้คือใคร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ