คนตระกูลเจี่ยเห็นดังนั้น ต่างคิดหาทางพยุงขึ้น แต่เจี่ยเกิงจื่อกลับโบกมือปฏิเสธพวกคนที่จะพยุงเขาลุกขึ้น พลางว่า “พวกนายอย่าขยับ ให้ผมคุกเข่า!”
“คุณท่าน! คุณเป็นเจ้าตระกูลเย่โล่ จะคุกเข่าได้ยังไงครับ?” คนพวกนั้นถามด้วยสีหน้าตกตะลึง
เขาน้ำตาอาบแก้ม และไม่ตอบคำถามคนคนนั้น ได้แต่มองฟางเหยียนด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
หลังจากร้องไห้สักพัก เขาพูดพร้อมน้ำตาอาบแก้มว่า “เทพหมอฟาง ผมเองก็ไม่รู้ว่าชีวิตนี้ทำผิดอะไรมา มีลูกชายกับเขาแค่คนเดียว แถมยังเป็นลูกหลง ผมอายุสามสิบแปดแล้ว ถึงได้มีลูกชายคนนี้กับภรรยา สำหรับผมแล้ว ลูกชายคนนี้เป็นความหวังทั้งหมดในชีวิตผม แต่ผมไม่คิดเลยว่าเขาอายุพึ่งจะยี่สิบปี ก็เป็นโรคประหลาดนี้ อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องทรัพย์สมบัติ เอาเรื่องความผูกพันมาพูด ลูกคนนี้เป็นความรักเพียงหนึ่งเดียวของผม เห็นลูกคนนี้เติบโตอย่างแข็งแรงเป็นความหวังในชาตินี้ของผม ผมไม่หวังให้เขาร่ำรวยอะไรมากมาย ขอเพียงให้เขาแข็งแรงสุขภาพดีก็พอ เทพหมอฟาง ผมขอร้องคุณช่วยรักษาลูกผมด้วยเถอะ ต่อให้คุณต้องการทรัพย์สมบัติของผมทั้งหมด ผมก็จะยกให้คุณทั้งหมดเลย ผมหวังแค่ให้ลูกผมแข็งแรง”
คำพูดนี้กระแทกใจทุกคนที่อยู่ที่นั่น นี่คือความยิ่งใหญ่ของความรักของพ่อ! พ่ออาจจะแสดงออกว่าไม่ได้สนใจลูกตนเท่าไหร่ มักทำตัวเป็นพ่อที่เข้มงวด แต่พอลูกเกิดเรื่อง เขามักจะตื่นเต้นและวุ่นวายใจมากกว่าทุกคน
ฟางเหยียนไม่ใช่หุ่นยนต์ เขามีความรู้สึก ในส่วนลึกของใจเขาก็มีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
ตอนแรกที่พ่อแม่ของเขาถูกฆ่า และโอบเขาไว้ในอ้อมแขนแน่นๆ ไม่ยอมให้เขาเห็นภาพเลือดสาดนั่น จนต่อมาเขาสลบลงไปท่ามกลางกองเลือดของพ่อกับแม่ ครอบครัวตายจากกันมันเจ็บแค่ไหน ฟางเหยียนเข้าใจ เขาเข้าใจดี
ตอนนี้เจี่ยเกิงจื่อเจอเหตุการณ์คนแก่ต้องมาส่งศพเด็ก ความรู้สึกแบบนี้ฟางเหยียนเองก็เข้าใจ! ต่อให้ฆ่าคนจนชิน จนเลือดเขาเย็นชาเป็นเลือดเย็น แต่พอเขามาอยู่ข้างเย่ชิงหยู่ เขาก็ได้รับรู้ความอบอุ่นของโลกมนุษย์อีกครั้ง ทำให้เขาเริ่มมีความรู้สึกดีกับโลกนี้อีกครั้งหนึ่ง
เจี่ยเกิงจื่อก็แค่คนที่อยากช่วยลูกชายตัวเอง เขาไม่ได้ทำอะไรผิด สำหรับความเป็นพ่อแล้ว เขาเป็นพ่อที่ดี ตอนแรก ลุงเย่ก็ทำแบบนี้กับตนมาตลอดไม่ใช่หรือไง?
บนตัวเจี่ยเกิงจื่อ เขาเห็นเงาของลุงเย่ บางทีอาจจะไม่ใช่เพื่อช่วยเหลือเจี่ยเกิงจื่อ ไม่ใช่เพื่อให้ได้เบาะแสขององค์กรสัตว์เพลิง แต่เป็นเพราะซาบซึ้งกับความรักที่จริงใจแบบนี้ของเจี่ยเกิงจื่อล่ะมั้ง!
พอคิดถึงตรงนี้ ฟางเหยียนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก จับจ้องสายตาไปที่เจี่ยเกิงจื่อที่ร้องไห้น้ำตาไหลพราก ก่อนพยักหน้าน้อยๆว่า “เอาเถอะ! ผมรับปากจะดูให้”
“อ๊า!” เจี่ยเกิงจื่อตื่นเต้นสุดๆ เขารีบโขกศีรษะลงพื้นพลางว่า “ขอบคุณเทพหมอฟาง ขอบคุณเทพหมอฟาง! ขอเพียงคุณยื่นมือเข้าช่วย ลูกชายผมต้องรอดแน่!”
เหมิงซานหันไปมองฟางเหยียน ในใจเศร้าสร้อยมาก หมอนี่คิดเบ็ดเสร็จในมใจมาเรียบร้อยแล้วนี่นา! ในสายตาเหมิงซานแล้ว ฟางเหยียนคือได้ยินคำที่เจี่ยเกิงจื่อบอกว่าจะยกทรัพย์สมบัติให้ทั้งหมดถึงใจอ่อน การที่เขาขอร้องเพื่อตระกูลเจี่ย เป็นเพราะหมอนี่มีฝีมือจริงๆ สามารถใช้แค่ฝ่ามือเดียวก็ทำEvergreenเฉาลงได้ ไม่มีฝีมือจริงทำไม่ได้หรอก
พอคิดถึงตรงนี้ เหมิงซานอดปวดหัวแทนวงการแพทย์แผนจีนของประเทศหวาไม่ได้ เขาต้องการโอกาสสักหนึ่งครั้งในการฟื้นฟูการแพทย์แผนจีนของประเทศหวา แต่เขาแก่มากแล้ว ไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ และแพทย์แผนจีนที่ร้ายกาจบางส่วนก็หลบซ่อนตัว ไม่ยอมออกมาเปิดโลก บอกว่าจะเป็นการลบหลู่วิชาแพทย์ที่ตนร่ำเรียนมา ตอนนี้ได้พบเข้าหนึ่งคน กลับเป็นพวกโลภมากแบบนี้
การแพทย์แผนจีนวิจัยกันที่จิตใจ คนที่จิตใจไม่ดี หวังแค่เงินต่อให้มีฝีมือมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางได้รับการยอมรับ! พอคิดถึงตรงนี้ เหมิงซานรู้สึกหมดหวังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้กับการแพทย์แผนจีนของประเทศหวา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ