ตามหลักแล้ว สถานที่นี่ดูน่ากลัวขนาดนั้น เจี่ยเกิงจื่อเกิดเรื่องที่นี่ ไม่ควรจะซื้อคฤหาสน์ที่นี่ถึงจะถูก แต่เขาก็ซื้อ ไม่เพียงซื้อ การตกแต่งภายในยิ่งไม่เหมือนกับคฤหาสน์อื่นอีกด้วย
ทิศทั้งแปดตกแต่งด้วยผู้พิทักษ์มังกรเทพ นี่คือจะทำสถานที่ที่เป็นหยินขั้นสุดเปลี่ยนให้เป็นหยางขั้นสุดแห่งหนึ่ง! ที่เขาว่า จุดหยางขั้นสุดต้องมีหยิน และจุดหยินขั้นสุดต้องมีหยาง นี่เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากปรมาจารย์ท่านหนึ่งที่ศึกษาดาราศาสตร์และภูมิศาสตร์ สถานที่หนึ่งมืดมนเกินไป เท่ากับมีโอกาสเปลี่ยนเป็นหยางขั้นสุดได้ พอเป็นหยางขั้นสุดถึงจะมีโอกาสเปลี่ยนเป็นหยินขั้นสุด ทุกสิ่งในโลกล้วนเท่าเทียมกัน นี่เป็นสมดุลหยินหยางที่ว่าไว้ในคติทวินิยม ส่วนหยินหยางไม่มีทฤษฎีที่ถูกต้องสมบูรณ์หรอก
สามารถชี้แนะจนเจี่ยเกิงจื่อตกแต่งคฤหาสน์จนออกมาเป็นแบบนี้ ตอนนี้ก็เลยโชคดีได้เอาใช้ เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์เบื้องหลังคนนั้นเห็นถึงปัญหานี้ตั้งแต่ตอนบุกเบิกตอนนั้น!
ซึ่งก็หมายความว่า ตอนที่เจี่ยเกิงจื่อพึ่งบุกเบิกที่นี่ ก็มีปรมาจารย์ชี้แนะให้เขาจัดวางห้องนี้แบบนี้แล้ว
ในที่สุดเจี่ยเกิงจื่อลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมานั่ง สีหน้าเคร่งเครียดค่อยผ่อนคลายลงในวินาทีนี้ คิ้วที่ขมวดมุ่นก็คลายออก สีหน้าตึงแข็งพังลงในวินาทีนี้ เขามีท่าทีหมดแรง คล้ายกับหมดพลัง ดูแล้วเหมือนพลังงานร้ายชนิดหนึ่ง เขานั่งพิงเก้าอี้ตัวอ่อนระทวย พูดอย่างหมดแรงว่า “ใช่ ผมเป็นเถ้าแก่คนที่สามของสุ่ยหยุนต้งเทียนจริงๆ สถานที่นี้ผมรับมาแล้วก็บุกเบิกสำเร็จครับ “
“ตอนผมรับการก่อสร้างมา ก็เป็นเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนแล้ว ตอนนั้นผมเป็นชายหนุ่มอายุแค่สามสิบกว่า ตระกูลเจี่ยในตอนนั้นถือว่ามีชื่อเสียงอยู่บ้างในประเทศหวา เพียงแต่หลังจากผมบุกเบิกพื้นที่นี้ ตระกูลเจี่ยก็หายไป เพราะผมเป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลเจี่ย ผมไปจากเจียงตู ตระกูลเจี่นก็หายสาบสูญตามผมเหมือนกัน ผมไปพัฒนาที่ต่างประเทศ! สืบทอดตระกูลเย่โล่”
ใช่ เมื่อสามสิบปีกว่าปีก่อนมีตระกูลเจี่ยอยู่จริงๆ พวกเขาไม่ถือว่าเป็นตระกูลใหญ่ขนาดนั้น อย่างน้อยก็เทียบตระกูลฟางไม่ได้เลย แต่พวกเขาก็มีอยู่จริงในประเทศหวา ขอแค่พัฒนาต่อ สามารถแทนที่ตระกูลเฉิงในวันนี้ได้สบาย
ใครก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตระกูลเจี่ยหายไปจากประเทศหวาในเวลาชั่วคืนเดียว ธุรกิจทั้งหมดก็หายวับไปในคืนเดียว นับจากนี้ก็ค่อยๆหายไปจากสายตาผู้คนอย่างช้าๆ พอเวลาผ่านไป ตระกูลนี้ก็โดนลืมเลือนจากประเทศหวา
“ตอนแรกที่ผมตัดสินใจบุกเบิกพื้นที่นี้ ก็แอบคิดเล็กคิดน้อยเหมือนกัน ผมคิดว่าคนอื่นทำมาพอประมาณแล้ว ตนเข้าไปทำนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว ขอเพียงรับมาทำสักหน่อย ต่อไปผมก็จะพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศหวาได้แล้ว ผมเล็งเห็นธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศหวา การท่องเที่ยวจะกลายเป็นแหล่งรายได้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในอนาคตของประเทศหวา ในตอนที่ผมตัดสินใจรับการก่อสร้างนี้มา มีคนต่างชาติมาหาผม เขาบอกว่าตัวเองเป็นอาจารย์พิธีของประเทศหนึ่ง เขาดูโหงวเฮ้งผมแล้ว และบอกผมว่า ถ้าผมจะบุกเบิกดินแดนแห่งจิตวิญญาณมังกรนี้ ต้องทำพิธีสี่สิบเก้าวันก่อนเพื่อปลอบประโลมคนที่ตายในที่ดินผืนนี้ ทำการสื่อสารกับเทพมังกรก่อนค่อยทำต่อ ถ้าในพิธีทั้งสี่สิบเก้าวันนี้เกิดอะไรขึ้น พวกเราจะดำเนินการต่อไม่ได้ ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น ก็บุกเบิกต่อไป ผมค่อนข้างเชื่อเรื่องพวกนี้ เลยคิดเกี่ยวพันไปถึงเรื่องแปลกที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ผมเลยเชื่อฟังเขา รับปากจะทำพิธี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ