เขากำหมัดทั้งสองแน่น แววตาทั้งคู่จ้องไปที่อ๋าวไท่ ถ้าดวงตาสามารถฆ่าคนได้ อ๋าวไท่ได้ถูกฆ่าไปแล้ว
ตอนนี้ในสายตาของอ๋าวไท่มีเพียงเทียนขุย เขาล้มลงกับพื้นมองไปยังเทียนขุย ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อแล้วกล่าว “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะแข็งแกร่งขนาดนั้น! ทำไมภายในเวลาสั้นๆไม่ถึงหนึ่งเดือนแกแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ มันไม่ใช่อะ มันไม่ใช่”
ความนิ่งใหญ่ของเทียนขุยได้เปลี่ยนความคิดเขาเสียใหม่ ต่อให้ฝันเขาก็ไม่คาดคิด นึกไม่ถึงว่าเทียนขุยจะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ได้ ยี่สิบวัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่กับร่างกายของมัน?
นักบู๊ล้วนรู้ดีว่าไม่มีศิลปะการต่อสู้ไหนที่สำเร็จอย่างรวดเร็ว ศิลปะการต่อสู้ทุกแขนล้วนค่อยๆสะสมทีล่ะวันทีล่ะวัน บางครั้งแพ้ก็คือแพ้ ฝีมือดีกว่ายังไงก็ดีกว่า ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไร้ค่า คิดจะเปลี่ยนจากคนที่ต่อกรใดๆไม่ได้เลยกับอ๋าวไท่ให้สามารถเทียบเท่า แล้วยังมีเปอร์เซ็นต์ที่จะชนะอ๋าวไท่ได้มีน้อยมากเมื่อยี่สิบวันก่อน การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ อ๋าวไท่จะไม่แปลกใจได้อย่างไรกัน!
“บอกฉันนมา แกทำได้อย่างไรกัน? แกทำมันได้อย่างไร?” อ๋าวไท่เริ่มบ้าคลั่ง เงยหน้าขึ้นไล่ถามเทียนขุย สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นแปลกใจอย่างสุดขีด
เทียนขุยยิ้มมุมปาก ดูแคลนออกมา เงยหน้าขึ้นมาแล้วกล่าว “คนตาย ไม่คู่ควรจะรู้มากขนาดนั้น”
นี่คือความภาคภูมิของกองทัพวีรบุรุษ เทียนขุยมาจากกองทัพ ในร่างกายมีสายเลือดของกองทัพ ตอนนี้ที่เขาทำแบบนั้น ก็แค่เอาคืนครั้งที่แล้วที่คนนั้นเย่อหยิ่งและผยองใส่เขาก็เท่านั้น
เพิ่งพูดจบ เขาเหยียบพื้นอย่างมั่นคง ราวกับอยากจะให้พื้นดินสั่นสะเทือนเพราะการเหยียบในครั้งนี้ จากนั้นเขาก็กัดฟัน แล้วตะคอกใส่อ๋าวไท่อย่างชัดเจนว่า “เตรียมตัวตายได้เลย!”
เทียนขุยในนาทีนี้ ความมั่นใจเต็มเปี่ยม เพราะเมื่อกี๊อ๋าวไท่ถูกเขาโจมตีจนลอยไป กลับกัน อ๋าวไท่ที่เดิมทีสูงส่ง ยโสโอหังอย่างยิ่ง ราวกับเทพก็มิปราณ ตอนนี้สีหน้าเต็มไปด้วยความตะลึงและความสงสัย
เขาไม่เคยถูกคนทำร้ายถึงขนาดนี้ ในสายตาเขาทุกคนเป็นแค่มด แต่ในวันนี้ เขากลับถูกคนตีจนล้มลงกับพื้น และคนนี้ก็ยังเป็นคนที่เมื่อก่อนเขาชนะมาแล้วด้วย ตอนนี้อ๋าวไท่เสียใจที่ตอนนั้นทำไมถึงไม่เช็กให้ดีๆว่าเขาตายแล้วหรือยัง ถ้าเช็กว่าเขาตายแน่แล้ว ก็ไม่ถึงขั้นต้องเจอกับจุดจบแบบนี้
แต่ สิ่งสำคัญที่สุดของนักบู๊ก็คือเกียรติยศและศักดิ์ศรี ต่อให้ล้มลงกับพื้นแล้ว ต่อให้ในใจจะตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อ๋าวไท่ก็ไม่มีทางก้มหน้ายอมแพ้ เมื่อนึกถึงจุดนี้ อ๋าวไท่จับหน้าอกแล้วค่อยๆยืนขึ้นจากพื้น
ที่แท้ ซี่โครงที่หน้าอกก็แตกแล้วนั่นเอง ถ้าไม่ใช่เพราะมีความอดทนที่แข็งแกร่ง อ๋าวไท่จะลุกขึ้นมาไม่ได้แล้วจริงๆ
“เหอะๆ!” การแสยะยิ้มของอ๋าวไท่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นดูแคลน เขายังคงมีท่าทีที่โอหังอย่างยิ่งเช่นเคย จ้องไปที่เทียนขุยอย่างอาฆาตแล้วกล่าว “แกคิดว่าแกเป็นใคร?ในสายตาของฉัน ก็เป็นแค่มดเท่านั้น!มดยังไงก็เป็นมดอยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางเป็นเทพที่สูงส่งได้ ฉันสิ ถึงจะเป็นผู้นำของโลกใบนี้”
เมื่อพูดจบ อ๋าวไท่อ้าแขนออก แขนทั้งสองข้างของเขาเหมือนกับปีก ทันใดนั้นก็ทำให้ทั้งตัวลอยขึ้น ร่างกายของเขาเหมือนนกน้อย ลอยขึ้นในอากาศ
เหตุการณ์นี้ทำให้ถังยู่อดที่จะส่งเสียงตะลึงออกมาไม่ได้ เธอชี้ไปที่ร่างกายของอ๋าวไท่แล้วกล่าวอย่างอ้ำๆอึ้งๆว่า “มัน มันๆๆบินได้!คุณเห็นหรือยัง นึกไม่ถึงว่ามันจะบินได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ