ขณะนี้ มีอาจารย์สองคนที่ยังไม่ได้สติกลับมา รอให้อารองซ่งออกไปจากประตูมหาลัยแล้วจริงๆ พวกเขาจึงได้สติกลับมา ทั้งสองเช็ดมือ แล้วกล่าว “น่าแปลกจริงๆ เมื่อกี๊หนาวมากเลยนะ!”
“ใช่ ผมคิดว่ามีแค่ผมที่รับรู้ได้ นึกไม่ถึงว่าคุณก็เป็นเหมือนกัน!”
“ไร้สาระ มันชัดเจนมากเลยนะ? เหมือนกับแรงอาฆาตที่มีในนิยายเลยอะ! ทำให้ใจของคนกลายเป็นความมืดมนที่เยือกเย็น”
ไม่ใช่แค่สองคนเท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงพลังนี้ ความจริงคนที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนมากล้วนรับรู้ได้ถึงพลังเห็นความเยือกเย็นนี้
ฟางเหยียนไม่สนใจคำพูดของพวกเขา เพียงแค่หันหลังไปอย่างไม่ลังเล แล้วพูดกับศาตราจารย์โจวว่า “ไปกันเถอะ!”
ศาตราจารย์โจวพนักหน้า หันหลังแล้วเดินไป
เดินไปได้ยังไม่ถึงสองก้าว ซ่งหยิงก็ถอนหายใจ แล้วถาม “หลังเลิกเรียนแล้ว ฉันเลี้ยงข้าวอาจารย์ได้มั้ยคะ?”
เมื่อพูดจบเธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงได้พูดเสริมอีกว่า “ถือว่าเป็นการขอบคุณสำหรับครั้งที่แล้วที่คุณได้ช่วยฉันไว้ที่สถานีรถก็แล้วกัน”
ฟางเหยียนครุ่นคิดสักพัก แล้วกล่าว “ดูเวลาของผมก่อนก็แล้วกันนะครับ! วันนี้อาจจะไม่ได้”
ซ่งหยิงส่งเสียงอ๋อออกมา เกิดความผิดหวังเบาๆขึ้นภายในจิตใจ
แต่เธอเหมือนนึกอะไรออก แล้วเตือนฟางเหยียนว่า “อ้อ บางทีอารองของฉันอาจจะ…”
เธอสะอื้น จับแขนของฟางเหยียนแล้วกล่าว “ยังไง คุณก็ระวังตัวหน่อยก็แล้วกันค่ะ”
ฟางเหยียนดูแคลน แล้วกล่าว “ไม่เป็นไร!”
ไม่ว่าอีกฝ่ายจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน มากสุดก็แค่สำหรับคนทั่วไปเท่านั้นแหละ แต่สำหรับจอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวาแล้ว ต่อให้คุณเป็นคนที่เก่งกาจขนาดไหน ก็ต้องถูกจัดการอยู่ดี!
เมื่อเห็นฟางเหยียนสบายๆแบบนี้ ซ่งหยิงก็ถอนหายใจยาวๆ
เมื่อเห็นด้านหลังของฟางเหยียน คิดในใจว่าก่อนกลับบ้านได้ฟังคลาสของเขา ชีวิตการเป็นนักศึกษาของตัวเองก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว!
เมื่อนีกถึงจุดนี้ ซ่งหยิงอดินเข้าห้องบรรยายพร้อมกับหลายๆคนอย่างทำอะไรไม่ได้
ในห้องบรรยายเต็มไปด้วยผู้คนแล้ว แทบจะเป็นนักศึกษาของเอกประวัติศาสตร์ทั้งหมด คนที่นั่งอยู่แถวหน้าสุดคือเหล่าศาตราจารย์ ในห้องบรรยายปฏิบัติตามคำสั่งของศาสตราจารย์โจว เตรียมกล้องวิดีโอและของอื่นๆไว้เรียบร้อยแล้ว รอก็เท่าแต่ฟางเหยียนเข้ามาบรรยาย
ภายใต้การนำของศาสตราจารย์โจว ฟางเหยียนเดินขึ้นบนสแตนด์
“ศาตราจารย์ฟาง! ทำตามความคิดของคุณเลยครับ ไม่ต้องเครียด!” ศาสตราจารย์โจวให้กำลังใจ
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่อยู่ด้านล่างเวที ฟางเหยียนไม่รู้สึกเครียดเลยแม้แต่น้อย ศาสตราจารย์โจวก็แค่เตือนก็เท่านั้น
เครียดคืออะไร ฟางเหยียนไม่ค่อยแน่รู้จักสักเท่าไหร่ เขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ากี่ปีแล้วที่ไม่รู้สึกเครียดมา ด้านหน้าก็แค่นักเรียนร้อยกว่าคนเท่านั้น เขาเคยเผชิญกับทหารต่างชาติที่สายตาดุดันกว่าแสนๆนาย นั่นเป็นคนที่พยายามจะเอาชีวิตของเขา เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่โหดเหี้ยมเหล่านั้นเขาไม่รู้สึกอึดอัดอะไรแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็แค่นักเรียนที่ไม่มีพิษไม่มีภัยร้อยกว่าคน ดังนั้นอารมณ์ของเขาจึงสงบนิ่งที่สุดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ