หม่าจงหัวมองดูลูกๆทุกคน แล้วกล่าวอย่างลึกซึ้งว่า “ลูกๆทั้งหลาย ถึงแม้พวกแกจะมีความสามารถในการรับผิดชอบ แต่ตอนที่เกิดปัญหากลับขาดการปรึกษา ตระกูลหม่าของเราทำผิดอย่างใหญ่หลวง ตอนนี้ พวกเราต้องกลับตัวอย่างจริงใจ บางทีถ้าบอกเรื่องนี้กับคนอื่นจะไร้ประโยชน์ แต่ถ้าบอกเขา เขาต้องช่วยตระกูลหม่าของเราแน่นอน
คนรุ่นหลังของตระกูลหม่าล้วนเป็นคนที่จงรักภักดี หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ของหม่าจงหัว ทุกคนก็ยืดอก ภูมิใจกับการที่ตนเป็นคนของประเทศหวาคนหนึ่ง นี่คือสายเลือด ทุกอนุของสายเลือดของตระกูลหม่าเต็มไปด้วยความภักดีคำนี้ ทุกรุ่นของพวกเขารับใช้ประเทศหวา จิตใจเป็นมีประเทศหวามานานแล้ว
“แต่…” ในหัวของหม่ากวงชาวผุดคนที่ไร้ยางอายคนนั้นขึ้นมา เขากลืนน้ำลาย แล้วถาม “พ่อ คนนั้นเป็นศัตรูของพวกเขาเหรอ? พวกเขาก็เป็นคนของประเทศหวาไม่ใช่เหรอ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต่างก็เป็นคนของประเทศหวาด้วยกันทั้งนั้น”
“บังอาจ!” หม่าจงหัวตวาดต่อ จ้องหม่ากวงชาวด้วยสีหน้าดุดันแล้วกล่าว “พวกมันไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเทียบกับความเป็นอยู่ของเรา ในสายตาของฉัน พวกมันไม่คู่ควรจะเป็นคนประเทศหวา!”
หม่ากวงชาวแววตาสงสัย แล้วถาม “พ่อ หมายความว่ายังไง?”
“ไม่ต้องถามมากขนาดนั้น ฟังฉันก็พอแล้ว” หม่าจงหัวเอามือไขว้หลัง แล้วกล่าวอย่างจริงใจ
“แล้วถ้าพวกมันมาหาเรื่องพวกเราจะทำยังไง? คนนั้นพูดไว้แล้ว ถ้าพวกเราหักหลังพวกมันล่ะก็ พวกมันจะสังหารพวกเราทั้งตระกูล!” เสียงของหม่ากวงชาวสั่นคลอน
หม่าจงหัวยังคงนิ่งสงบ กำหมัดแน่น แล้วกล่าวด้วยสายตาเป็นประกาย “งั้นก็ให้มันลองดู!”
ไม่นาน ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาจากด้านนอกประตู แล้วตะโกน “คุณท่าน คุณฟางมาถึงแล้วครับ”
“เชิญเข้ามา!” หม่าจงหัวพูดเสียงดัง จากนั้นก็เหลือบไปมองโต๊ะที่ตัวเองตบไปกับเศษแก้วที่ตกลงบนพื้น แล้วสั่ง “เก็บกวาดตรงนี้ให้เรียบร้อย”
เมื่อพูดจบเขาสะบัดมือเดินออกจากห้องโถงตระกูลถัง เดินผ่าสวนมาที่ประตู ตอนที่เพิ่งมาถึงประตู เขาเห็นฟางเหยียนและเทียนขุยสองคนเดินมาทางนี่ ในมือของฟางเหยียนถือดาบไว้ เป็นดาบที่ดาบและกระบี่รวมอยู่ในตัวเดียวกัน ดูๆแล้วสนิมเขรอะ เก่ามาก แต่ตัวดาบกลับมีความสวยงามน่าตะลึงที่พูดไม่ออก
“พ่อ!” เมื่อเห็นฟางเหยียนถือดาบในมือ หม่ากวงชาวมองหม่ากวงหัวอย่างซีเรียสแล้วกล่าว “พ่อดูสิ ในมือเขา…”
หม่าจงหัวยกมือขึ้นขัดจังหวะหม่ากวงชาว แล้วกล่าว “อย่าพูดมั่ว!”
“ยินดีต้อนรับจอมพลโผ้จวินครับ!” หม่าจงหัวโค้งคำนับเก้าสิบองศา ท่าทางเคารพให้เกียรติ เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ ลูกชายทุกคนก็พากันคำนับ ด้วยสีหน้าจริงใจ
พูดจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อกี๊หม่าจงหัวเล่าเรื่องประสบการณ์ของฟางเหยียนให้หลายๆคนฟัง หลายๆคนไม่มีทางเชื่อว่าฟางเหยียนจะเป็นบุคคลระดับจอมพลได้ จอมพลในยุคโบราณสัดส่วนได้มาตรฐาน ผอมแห้งอย่างเขา เป็นครั้งแรกที่เห็น
ฟางเหยียนยกดาบในมือขึ้นมา จู่ๆรอบๆก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น การ์ดของตระกูลหม่าต่างพากันล้อมเข้ามา ทุกคนต่างเคร่งขรึม ในมือถือของคล้ายๆมีดสปาต้า
“บังอาจ!” เทียนขุยตวาดออกมาอย่างโมโห ก้าวเท้าเตรียมจะลงมือ
แต่หม่าจงหัวรีบขยับตัวแล้วกล่าว “ทำอะไร? พวกแกจะทำอะไร? ถอยหลังไปทั้งหมด”
หม่าจงหัวและเขาไม่ได้มีอะไรผิดใจกัน ถ้าจะพูดว่าผิดใจ ก็มีการตายของหม่าซวี่ซง แต่หม่าจงหัวเป็นคนที่รู้สถานการณ์ อย่างน้อยเขารู้ว่าหม่าซวี่ซงยังไม่มีคุณค่าพอที่จะตายด้วยน้ำมือของเขา ดังนั้นจึงได้ลงมือเอง
เมื่อมาถึงห้องโถงตระกูลหม่า ฟางเหยียนนั่งข้างๆโต๊ะ จากนั้นหม่ากวงชาวถือแก้วชามาที่ฟางเหยียน เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่น “จอมพลครับ ครั้งที่แล้วข้าน้อยมีตาแต่หามีแววไม่ ขอจอมพลได้โปรดให้อภัย”
ฟางเหยียนไม่ได้ยื่นมือไปรับแก้วชาทันใด เพียงแต่มองดูร่างของหม่ากวงชาวคุกเข่าแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
ดูท่าทางของเขาแล้วไม่ได้อยากจะยกโทษให้หม่ากวงชาวเลย คนของตระกูลหม่าเริ่มร้อนใจ หม่าเหาเป็นคนที่ฉลาดที่สุด เขาพูดคนแรกว่า “จอมพลครับ เรื่องที่พี่รองของผมทำเมื่อก่อนมันแย่มากจริงๆ จอมพลผู้ยิ่งใหญ่มีน้ำใจ อย่าถือสาพี่รองของผมเลยนะครับ” เมื่อพูดจบ หม่าเหาโค้งคำนับเก้าสิบองศาอีกครั้ง
“ใช่ครับ ขอจอมพลโผ้จวินได้โปรดให้อภัยน้องรองของผมด้วยครับ!” หม่ากวงหรงยืนขึ้น โค้งคำนับต่อหน้าฟางเหยียน
ฟางเหยียนมองหม่ากวงหรง แล้วถาม “คุณคือพ่อของหม่าซวี่ซง?”
หม่ากวงหรงมองไปมา แล้วกล่าว “ใช่ครับ!แต่หม่าซวี่ซงมันไม่รู้เรื่องเอง สมควรตาย ต้องโทษผมที่ไม่สั่งสอนเขาให้ดี จึงทำให้เขาเป็นแบบนี้ พวกเราไม่โทษท่านครับ ถ้าจะโทษก็โทษพวกเราเอง”
“อ๋อ??” ฟางเหยียนจ้องหม่ากวงหรงแล้วถาม “คุณไม่เคยคิดที่จะล้างแค้นแทนลูกชายของคุณงั้นเหรอ?”
“ปุก!” หม่ากวงหรงตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้นทันที ร้องไห้พลางพูด “ฟ้าดินรู้ดี ท่านคือเทพของประเทศหวา พวกเราจะกล้าล้างแค้นท่านได้อย่างไรกัน!ให้ความกล้ากับพวกเราสักเท่าไหร่ พวกเราก็ไม่กล้าอยู่ดีครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ