นี่เป็นปัญหาที่หยางจิ่งเซียนกังวลที่สุด เขากังวลอย่างมากว่าเทียนขุยจะย้อนกลับมาอีก ตอนนี้ฟางเหยียนได้รับบาดเจ็บแล้ว ถ้าพวกเขาย้อนกลับมาอีก ตระกูลหยางต้องรับมือไม่ไหวแน่
ฟางเหยียนส่ายหัวบอก “ไม่! คุณวางใจเถอะ หยางกง”
“เฮ้อ!” หยางจิ่งเซียนมือพาดหลังถอนหายใจยาว พลางพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “ตระกูลหยางผมทำกรรมอะไรไว้เนี่ย ถึงต้องมาเจอคนพวกนี้? นั่นน่ะเป็นทหารกล้าจากกองทัพเลยนะ ถ้าจะมาทำลายตระกูลหยางจริงๆ พวกผมจะมีทางรอดได้ยังไงกัน!”
ฟางเหยียนถอนหายใจเบาๆ พูดอย่างมั่นใจว่า “วางใจเถอะ ตระกูลหยางของพวกคุณเป็นตระกูลดีที่มีการอบรมที่สืบทอดกันมา ประเทศหวาเราไม่มีทางไม่สนใจ แผนการชั่วร้ายของพวกเขาไม่มีทางสำเร็จแน่!”
“แผนการชั่วร้าย?” หยางจิ่งเซียนถามอย่างสงสัย “พ่อหนุ่มฟาง พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” พอพูดมาถึงตรงนี้ เขาก็นึกขึ้นมาได้ถึงคำถามนั้นที่ฟางเหยียนถามเขา พอเข้ามาที่นี่ ฟางเหยียนก็ถามเขาก่อนเลยว่ารู้จักเสี่ยวหงกับเทียนขุยไหม เหมือนฟางเหยียนจะรู้ว่าพวกเขาต้องมาตระกูลหยางตั้งแต่แรก!
พอคิดถึงตรงนี้ หยางจิ่งเซียนมองฟางเหยียนพลางถามอย่างระมัดระวังว่า “พ่อหนุ่มฟาง คุณรู้มาตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมว่าเสี่ยวหงกับเทียนขุยจะมาบ้านผม?”
พอคำนี้ออกมา บรรดาลูกชายของหยางจิ่งเซียนพร้อมใจกันลุกขึ้น แต่ละคนมองมายังฟางเหยียนด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ออก สักพัก จากสายตาที่ฉาบด้วยความซาบซึ้งใจตอนแรกก็แปรเปลี่ยนเป็นมองพิจารณาตาลุกวาวโรจน์
พี่ใหญ่ตระกูลหยางถามขึ้น “พ่อครับ พ่อพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง? พ่อหมายความว่า พ่อหนุ่มฟางถามพ่อเรื่องเกี่ยวกับเสี่ยวหงและคนที่ชื่อเทียนขุยตั้งแต่ตอนเข้ามาแรกๆหรอ?”
พี่ใหญ่ตระกูลหยางเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด เรียนรู้การทำธุรกิจมาตั้งแต่เล็ก มองเรื่องต่างๆทะลุปรุโปร่ง นี่ไง แค่คำพูดประโยคเดียวของหยางจิ่งเซียน ก็สามารถฟังความหมายในประโยคออก เปิดปากถามทีเดียว แทงใจดำเป็นร้อย
หยางจิ่งเซียนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองไปที่ฟางเหยียน ฉินเข่อกลับทนดูไม่ได้ที่พวกเขาทำให้ฟางเหยียนลำบากใจ เลยพูดขึ้นว่า “พวกพี่ทำอะไรกันน่ะ? เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่ฟางเหยียน บ้านเราคงเกิดเรื่องแล้ว ตอนนี้เขายังบาดเจ็บอยู่เลยนะ พวกพี่ไม่ขอบคุณเขาก็พอว่า ทำไมยังจะคาดคั้นเขาอีกล่ะ ต่อให้มีปัญหาจริง รอให้เขาหายดีก่อนค่อยถามสิ!”
“เข่อเข่อเงียบก่อน เรื่องนี้ต้องสืบให้รู้ชัด! ไม่งั้นพวกเราไม่สามารถแน่ใจได้ว่าพ่อหนุ่มฟางเป็นพวกเดียวกันกับเรา หรือมีเป้าหมายเหมือนคนอื่น” พี่ใหญ่ตระกูลหยางพูดระหว่างจับจ้องมองเขม็งไปที่ฟางเหยียน
ที่จริงฟางเหยียนเข้าใจความหมายของพี่ใหญ่ตระกูลหยางดี เขาก็แค่คิดว่าทั้งหมดนี่เป็นแผนการของฟางเหยียน เพราะตั้งแต่เรื่องยังไม่เกิด ฟางเหยีนนก็ถามท่านหยางแล้วว่ารู้จักสองคนนั่นไหม
ฟางเหยียนยิ้มเศร้าบอกว่า “ถ้าผมบอกว่าผมมาเพื่อตามหาเทียนขุย พวกคุณจะเชื่อไหม?”
เขาพูดจบปุ๊บ เจ้าสามหยางที่ได้รับบาดเจ็บก็โพล่งขึ้นมาทันทีว่า “จะเป็นไปได้ยังไง! เทียนขุยคนนั้นเป็นรองผู้นำของสำนักเจ็ดพิฆาต คุณเป็นใครล่ะ? ทำไมต้องมาตามหาเขาด้วย? สามารถมาตามหาเขาได้ น่าจะมีแต่หัวหน้าเบื้องบนของเขาเท่านั้นล่ะ”
พอเขาพูดถึงตรงนี้ ฟางเหยียนก็ไอออกมาสองครั้ง พลางว่า “ในเมื่อคุณไม่เชื่อ งั้นก็ช่างเถอะ!”
“ฉินเข่อ ขอบคุณมาก!” พูดจบ ฟางเหยียนก็ยืนขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ