“เหอะๆ” ฟางเหยียนส่ายหน้าอย่างกลัดกลุ้มพลางพูดว่า “ช่างเถอะ! เธอไม่เหมาะ!”
“ไม่ๆๆ ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมาะมาก ถ้าอย่างนั้นให้ฉันเรียนจากคุณเถอะ สามปีห้าปี คุณกำหนดเวลามา ฉันยอมเป็นเด็กฝึกหัดอยู่ข้างกายคุณ ติดตามคุณไปทั่วสารทิศ ขอเพียงคุณสอนทักษะฉันบ้างก็พอ ฉันชอบวิชาแพทย์แผนจีนของประเทศหวาเรามากจริงๆ นะ ขอร้องคุณล่ะ หรือคุณไม่อยากให้วิชาแพทย์แผนจีนได้รับการสืบทอดงั้นเหรอ?”
“ไม่ได้!” ฟางเหยียนตอบเสียงเฉียบขาดคำหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “ฉันไม่ชอบเด็กฝึกหัด!”
หลินอีอีส่งเสียงหาออกมา พูดอย่างเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ฉันอะไรก็ทำได้หมด ทำกับข้าวให้คุณก็ได้ ล้างเท้าให้คุณก็ได้ บีบนวดให้คุณก็ยังได้ ยังสามารถพูดคุยเป็นเพื่อนคุณแก้เบื่อได้ด้วย ฉันร้องเพลงเป็น แถมยังมีความสามารถอีกมากมายก่ายกอง ขอเพียงคุณต้องการฉันทำได้ทั้งนั้น คุณพาฉันไปด้วยเถอะ!”
ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาแล้วพูดว่า “พรสวรรค์ของเธอ ยังไม่พอ!”
“หา!” หลินอีอีพูดด้วยความหดหู่มากกว่าเดิม “ฉันรู้สึกว่าดีมากเลยนะ ทำไมคุณ...”
“พอแล้ว!” หมอหลินตวาดออกมาหนึ่งประโยค หลินอีอีถึงค่อยปิดปากตัวสั่นเทา แต่มองออกได้ว่าเธอชอบแพทย์แผนจีนมากจริงๆ หมอหลินค้อมเอวพลางพูดว่า “ขอบคุณคุณฟางที่ทำให้ผมได้รู้จักแพทย์แผนจีนตัวจริง!”
“ไม่เป็นไร!” กล่าวจบฟางเหยียนก็ก้าวเท้าเดินไปทางฝั่งคนตระกูลหยาง ทิ้งสองปู่หลานตระกูลหลินไว้
หลังจากส่งหมอหลินกลับไปแล้ว ฟางเหยียนก็รั้งอยู่บ้านตระกูลหยาง ฉินเข่อเป็นคนพาเขาไปพักผ่อน ระหว่างทั้งสองคนกำลังเดินเข้าไปยังห้อง ฉินเข่อก็พูดเสียงค่อยว่า “ขอบคุณนะคะ ฟางเหยียน”
ฟางเหยียนยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร! คุณก็ช่วยผมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“อืม!” ฉินเข่อพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “วันนี้ถ้าไม่ได้คุณ เกรงว่าตระกูลเราคงเกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
“ไม่เป็นไร! นี่ก็คือโชคชะตา” ฟางเหยียนยังคงใช้น้ำเสียงปลอดโปร่งตอบ
พูดถึงโชคชะตาคำนี้ ฉินเช่อยังเชื่ออยู่เล็กน้อยว่าฟางเหยียนเป็นผู้บำเพ็ญเซียน
“จริงสิ!” ตอนที่เดินมาถึงหน้าประตู ฉินเข่อก็หยุดเท้าพร้อมถามว่า “วันนี้คุณอยู่ที่บ้านพูดอะไรกับลุงใหญ่ฉันบ้าง?”
ฟางเหยียนชะงักเล็กน้อย ตอบว่า “เขารู้ฐานะของผมบ้างแล้ว!”
“หา!” ฉินเข่อถามด้วยความประหลาดใจ “ฐานะคุณคืออะไรหรือ?”
“ฮึ!” ฟางเหยียนหัวเราะเสียงเย็นชา สูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “คุณอย่ารู้ดีกว่า!”
ฉินเข่อในใจหนาวเหน็บ ส่งเสียงอ้อออกมาหนึ่งคำ ใบหน้าเผยความผิดหวังออกมาจางๆ แต่ไม่รู้ก็ดีเหมือนกัน ฟางเหยียนก็คือปีศาจที่ฆ่าคนไม่กะพริบตาคนหนึ่ง
แต่ภาพจำที่ตัวฉินเข่อมีต่อฟางเหยียนนั้นยังคงไม่เลวทีเดียว อย่างน้อยฟางเหยียนก็ทำให้เธอรู้สึกถึงความปลอดภัย นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้หญิง
ผู้ชายคนหนึ่งไม่มีเงินได้ ไม่มีอำนาจได้ หากเขาเพียงมอบความรู้สึกปลอดภัยให้ผู้หญิงได้มากพอ เช่นนั้นผู้หญิงคนนี้จะต้องติดตามเขาอย่างสุดจิตสุดใจอย่างแน่นอน ตอนแรกฉินเข่อไม่รู้สึกอะไรกับฟางเหยียน รู้เพียงว่าเขาฆ่าคนได้ร้ายกาจยิ่ง ทั้งยังช่วยตนภายใต้สถานการณ์ล่อแหลมเช่นนั้น เมื่อได้อยู่ร่วมกันในวันนี้ เธอยังมีความรู้สึกเกิดขึ้นในใจชนิดหนึ่งจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่พวกพี่ชายในบ้านเห็นด้วยที่พวกเธอคบกัน เธอก็พอใจมาก
หลังจากส่งฟางเหยียนไปยังห้องแล้ว ฉินเข่อก็เป็นฝ่ายจัดเตียงให้ฟางเหยียนเล็กน้อย ฉินเข่อไม่เคยจัดเตียงให้ใคร เมื่อก่อนงานในบ้านล้วนเป็นคนรับใช้ทำให้ แต่วันนี้เธอทำด้วยตัวเอง และไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเต็มใจ หากเป็นเมื่อก่อน เธอไม่มีทางบริการผู้ชายคนหนึ่งแน่ ต่อให้เป็นคนที่ชอบมากก็ตาม เธอรู้สึกว่าตัวเองบริการใครไม่เป็น แต่ตอนนี้ แต่ตอนนี้ยอมเสียหน้า เธอยินดีทำเรื่องเหล่านี้ให้ฟางเหยียนด้วยความเต็มใจ
ยืนอยู่ในห้อง ฟางเหยียนเงยหน้าขึ้นมามองสำรวจห้องนี้ นี่คือห้องที่หรูมากห้องหนึ่ง เทียบกับโรงแรมไม่รู้ว่าหรูตั้งกี่เท่า สรุปได้ว่าชีวิตที่คนมีเงินเสพสุขคนธรรมดาแค่คิดก็ยังไม่กล้าคิด
ห้องน่าจะกว้างประมาณสองร้อยผิง เตียงถูกวางไว้ตรงจุดที่ไม่กว้างนัก ด้านนอกมีโซฟา มีทีวีและเครื่องใช้ไฟฟ้านานาชนิด แม้แต่ข้างห้องก็ยังมีเครื่องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำขนาดเล็กก็มี!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ