หวังชิงชิงในใจเต้นตึกตัก เธอส่ายหน้าแรงๆ พลางกล่าวว่า “โจวเจิ้ง หรือพวกนายตระกูลโจวดีแต่ใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้? หรือว่านายกับคนตระกูลของพวกนายเป็นคนต่ำช้าไร้ยางอายมาตลอดชีวิต?”
“ต่ำช้า? ไร้ยางอาย? เหอะ!” โจวเจิ้งพูดโดยไม่คิดเช่นนั้น “คนที่ต่ำช้าไร้ยางอายมันคือเธอ!”
“พอฉันจัดการเขาแล้ว ฉันค่อยมาลงดาบจัดการเธอ!” พูดจบ โจวเจิ้งก็ยกมือขึ้นมาชี้หวังชิงชิงอย่างดุดัน
จากนั้นสีหน้าเขาก็มืดครึ้มอยู่พักหนึ่ง แล้วหมุนกายเดินออกไปจากห้องด้วยท่าทางสบายๆ
เห็นโจวเจิ้งเดินออกมาจากห้อง หัวใจของหวังชิงชิงนอกจากสิ้นหวังแล้ว ยังมีความคิดอย่างหนึ่ง ฆ่าตัวตาย!
แต่โจวเจิ้งที่เพิ่งเดินถึงหน้าประตูก็วกกลับมาอีก ไม่เพียงแค่นี้ ในมือเขายังถือเชือกเส้นใหญ่มาด้วยเส้นหนึ่ง เขาเดินมายังข้างกายหวังชิงชิง เข้ามามัดตัวหวังชิงชิงไว้โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
แต่หลังจากมัดเสร็จแล้ว เขาก็หัวเราะฮึๆ “ตอนนี้ เธออยากฆ่าตัวตายก็ทำไม่ได้แล้ว!”
วันต่อมา ณ โรงแรมหัวหลง
แต่เช้าตรู่ที่โรงแรมก็มีแขกมากันไม่น้อยแล้ว เมื่อเช้าตรู่สามวันก่อน โรงแรมแห่งนี้ได้ถูกตระกูลโจวจองไว้หมดแล้ว แม้แต่ภัตตาคารโรงแรมรวมถึงถนนทั้งหมดบริเวณใกล้ๆ ก็ถูกตระกูลโจวจองไว้หมดแล้วเช่นกัน จุดประสงค์ก็เพื่อความสงบเรียบร้อย ไม่อยากเห็นคนพลุกพล่าน
ที่ตระกูลโจวผูกมิตรล้วนเป็นตระกูลมีชื่อรวมถึงบุคคลสำคัญในวงราชการบางส่วน หากมีนักธุรกิจก็จะรวมเข้าไปในนั้นด้วย นั่นก็ต้องคิดจะประจบสายสัมพันธ์ของตระกูลโจว ดังนั้นสามารถมาร่วมงานแต่งลูกชายตระกูลโจวได้ นั่นจะต้องเป็นคนที่มีฐานะไม่ธรรมดา
หากฟางเหยียนไม่ได้มายังดินแดนตะวันตก เขาไม่มีทางมาร่วมงานแต่งของลูกชายตระกูลโจวอะไรนี่แน่ ตอนนี้มาถึงแล้ว เขาย่อมต้องไปสักหน เจ้าสาวที่จะเข้าพิธีแต่งงานคือหวังชิงชิง อยู่ที่ฟางซื่อกรุ๊ป เธอคือลูกน้องที่เขาเคยไว้ใจได้ที่สุด คนอย่างฟางเหยียนก็เป็นเช่นนี้ ขอเพียงรู้สึกว่าคุณน่าไว้ใจ ไม่ว่าไปอยู่ไหน คุณก็คือคนของตนตลอดไป
เขารู้ว่าหวังชิงชิงไม่อยากแต่งงาน หากมีแววว่าถูกบีบบังคับ อย่างนั้นตนก็จะพาหวังชิงชิงจากไปทันที เขาไม่ถือสาที่จะมีเรื่องกับตระกูลโจว ไม่ว่านี่เป็นถิ่นของตระกูลโจวหรือไม่ ไม่ว่าตระกูลโจวจะล่วงเกินได้หรือไม่
หากทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ งั้นก็ชนมันเสียเลย เขาไม่สนหรอกว่านี่จะเป็นถิ่นใคร
แต่วันนี้เขาถูกหยางจิ่งเซียนพามา หยางจิ่งเซียนเป็นคนที่ตระกูลโจวตั้งใจเชิญมา สามารถพาคนในครอบครัวติดตามมาได้สองคน เดิมเขาคิดจะพาเจ้าสามกับเจ้าเจ็ดมา แต่เจ้าสามยังไม่หายดี ประกอบกับฟางเหยียนก็อยู่ที่นั่น เขาจึงจำเป็นต้องพาฟางเหยียนมา
เขามีชื่อเสียงสูงส่งในดินแดนตะวันตก ได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนไม่น้อย ดังนั้นการจะเชิญหยางจิ่งเซียนมาจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ก่อนที่จะเข้าโรงแรมหัวหลง หยางซงลังเลอยู่นานมาก ยังคงดึงแขนของฟางเหยียนไว้ พูดกับเขาว่า “น้องฟางเหยียน ยังคงมีบางอย่างที่ฉันอยากจะพูดกับนาย พวกเรามาตกลงกันก่อนแล้วค่อยเข้าไปเถอะ!”
ฟางเหยียนนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าให้หยางซง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ