ตอน บทที่ 591 คุณชายตระกูลฟางเหรอ จาก จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 591 คุณชายตระกูลฟางเหรอ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จอมนักรบทรงเกียรติยศ ที่เขียนโดย โซ่วปี่หนานซาน เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
"ไอ้เวร!" อาเตาต่อยใบที่หน้าของหลิ่วจื้อเชาอีกครั้งอย่างแรง
จมูกของหลิ่วจื้อเชามีเลือดไหลออกมาทันที น้ำตาของเขาก็เริ่มกลิ้งไปมาในดวงตาของเขา
เขายกมือขึ้นแตะจมูกของตนที่มีเลือกออก จากนั้นก็ถามด้วยสีหน้าใกล้จะร้องไห้ “พี่เตา ช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
อาเตาแค่นเสียง จากนั้นก็พุ่งเข้าไปตะคอกใส่หลิ่วจื้อเชา "แกมันไอ้สารเลว! สารเลว! ผู้หญิงของท่านฟางหนูชั้นต่ำอย่างแกมีสิทธิ์แอบมองหรือไง? รู้หรือไม่ว่าถ้าไม่มีท่านฟาง ก็ไม่มีฉันอาเตาในวันนี้!"
ท่านฟาง?! นี่เป็นความเคารพที่อาเตามีต่อฟางเหยียน และยังถือเป็นเกียรติสูงสุดอีกด้วย
แต่สำหรับฟางเหยียนแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป เขาเบื่อที่จะฟังคำพวกนี้มานานแล้ว
"นาย? พวกนายรู้จักกัน?" หลิ่วจื้อเชามองไปที่อาเตาจากนั้นก็มองไปยังฟางเหยียนและถาม
อาเตาไม่ได้ทุบตีเขา แต่ทำเพียงแค่ยกกำปั้นขึ้นและทักทายเขาอีกครั้ง
จากนั้นอาเตาก็ตะโกนใส่หลิ่วจื้อเชา "คุกเข่าลง!"
ร่างกายอ้วนท้วมของหลิ่วจื้อเชาสั่นเทาไปครู่หนึ่ง เขามองซ้ายขวา จากนั้นจึงคุกเข่าลงอย่างช่วยไม่ได้
“ท่านฟาง ได้โปรดชี้แนะ!” อาเตาเอ่ยพร้อมประสานกำปั้นไปยังฟางเหยียน
เย่ชิงหยู่รีบคว้าแขนของฟางเหยียนเอาไว้และกล่าวว่า "ฟางเหยียน อย่าลงไม้ลงมือ!"
ฟางเหยียนพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดกับเย่ชิงหยู่ "วางใจเถอะ"
เขามองไปที่หลิ่วจื้อเชาที่คุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วถามว่า "เป็นไง? ตอนนี้นายรู้สึกอย่างไร? อยากจะเรียกปู่ของนายมาคุกเข่าขอความเมตตาจากฉันอีกไหม หรือว่านายจะคุกเข่าขอความเมตตาด้วยตัวเอง?"
“ผม ผม ผมขอความเมตตา ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ปล่อยผมไป!” หลิวจื้อเชาน้ำตาแทบจะไหลออกมา
“อ้อใช่ เพชรเลือดฟีนิกซ์นี้ผมให้คุณ ยังมีนาฬิกา ผมก็ขอมอบให้คุณด้วย” ด้านหนึ่งพูดไป อีกด้านหนึ่งหลิวจื้อเชาก็หยิบสองสิ่งนี้ออกมา
อันที่จริงเขามีความคิดอื่นอยู่ ขอแต่ของทั้งสองสิ่งนี้หายไป เขาก็จะสามารถบอกกับหลิวเหอฉางได้ว่าของของตนถูกคนปล้นไป ถึงตอนนั้น ฟางเหยียนก็จะถูกปู่ของเขาเก็บกวาดอยู่ดี
เขาอยู่ต่างประเทศมาเป็นเวลานานและไม่รู้ว่า เมื่อปู่ของเขาเห็นฟางเหยียนก็ถึงกับต้องเอ่ยเรียกว่าท่านผู้มีพระคุณ
เมื่อมองดูของทั้งสองสิ่งนี้ ฟางเหยียนก็ค่อย ๆ มาตรงหน้าของหลิวจื้อเชาและถามว่า “นายกำลังคิดว่าถ้าฉันเอาของทั้งสองไป นายก็จะสามารถบอกปู่ของนายได้ว่าพวกเราขโมยของของนาย จากนั้นปู่ของนายก็จะมาตามเก็บกวาดพวกเราใช่ไหม?”
หนึ่งประโยค ทำเอาดวงตาของหลิ่วจื้อเชาเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวขึ้นมาทันที
"ไอ้เวร!" อาเตาโกรธจัดจนยกเท้าขึ้นเตะไปที่ตัวของหลิ่วจื้อเชา ร่างอ้วนๆของเขาถูกเตะจนกลิ้งไปมาบนพื้น
“นี่แกยังกล้าคิดแบบนี้อีก แกคิดว่าพวกเราเป็นหมูหรือไง?” อาเตาโกรธจนแทบกัดฟัน
ฟางเหยียนยกมือขึ้นหยุดการกระทำของเขาและเอ่ยว่า “พอแล้ว ตอนนี้ฉันไม่มีเรื่องอะไรแล้วใช่ไหม?”
อาเตารีบพูด “ไม่มีแล้วแน่นอนครับ ท่านฟาง ตามสบาย! ผมจัดการเรื่องเสร็จ จะรีบให้ไอ้ลูกหมานี่ไสหัวออกไปจากที่นี่! คืนนี้ผมจะอยู่ที่นี่ ดูแลความปลอดภัยของคุณเอง!”
"อย่างนั้นก็ดี! อย่าเล่นจนตายก็พอ" พูดจบ ฟางเหยียนก็จับมือของเย่ชิงหยู่ และเดินเข้าไปในชุมชนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่ฟางเหยียนจับมือดูไม่ค่อยคุ้นหน้า อาเตาก็เกาหัวและพูดว่า “ท่านฟางเปลี่ยนผู้หญิงอีกแล้วหรือ? จริง ๆเลย นี่เป็นคนที่สี่แล้ว แต่ละคนสวยขึ้นเรื่อยๆ ขอแค่วันไหนแบ่งมาให้ฉันบ้างสักคนก็คงดี”
"อย่างนั้นผมขอถามพี่สักคำถาม?" หลิ่วจื้อเชามองไปที่อาเตาและเอ่ยอย่างช่วยไม่ได้
หลิ่วจื้อเชาพยักหน้าและพูดว่า "ได้! แต่แค่คำถามเดียวเท่านั้น"
“ทำไมพี่ถึงได้กลัวผู้ชายคนนั้นขนาดนี้? เขาเป็นลูกพี่ของพี่จริงๆเหรอ?” หลิ่วจื้อเชายังคงไม่ยอมแพ้
ในความทรงจำของเขา ฟางเหยียนเป็นแค่เจ้าบ่าวที่ถูกเลี้ยงต้อย ขณะเรียนหนังสือวันทั้งวันก็แต่ตามตูดของเย่ชิงหยู่
อาเตาหัวเราะเยาะเย้ย “นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอยู่หรือไง? แน่นอนว่าเขาเป็นลูกพี่ของฉัน ถ้าไม่มีเขาก็ไม่มีฉันในวันนี้ ยังมีอีกเรื่อง อย่าได้คิดว่าปู่ของนายเก่งกาจอะไร แค่เขาเอ่ยประโยคเดียวก็สามารถทำให้ปู่ของนายล้มละลายได้ นายเชื่อไหม?”
หลิ่วจื้อเชาเบิกตากว้างส่ายหัวแล้วพูดว่า "ฉันไม่เชื่อ!"
อาเตาหัวเราะหึหึขึ้นมาและเอ่ยว่า “ฉันรู้ว่าไม่มีใครเชื่อ แต่นี่คือความจริง ฟางซื่อกรุ๊ปเป็นของเขา"
“ฟาง คุณชายตระกูลฟาง?” หลิ่วจื้อเชาเบิกตากว้างทันที
ตอนนี้เขาตกใจกลัวแล้ว
ถ้าฟางเหยียนเป็นคุณชายตระกูลฟางจริงๆ อย่างนั้นเขาก็สามารถทำให้ปู่ของเขาล้มละลายในคำเดียวจริงๆ!
ตระกูลฟาง สำหรับแต่ละคนแล้วล้วนเป็นความห่างไกลออกไปจนแทบไม่มีอยู่
เย่ชิงหยู่รู้จักอาเตา ตอนนี้เขาเป็นลูกพี่ของโลกใต้ดินในเมืองจินโจว ในโลกใต้ดินคำพูดของเขาถือเป็นประกาศิต แต่ว่าเมื่อกี้เขาถึงกับเรียกฟางเหยียนว่าท่านฟาง นี่เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าเขานั้นนับถือฟางเหยียนมาตั้งนานแล้ว
มีเรื่องเหลือเชื่อมากมายเกิดขึ้นกับฟางเหยียน ตอนนี้ความประหลาดใจของเธอไม่ได้มากดั่งเช่นเมื่อก่อนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ