“โอว…...”
เสียงที่ดังกังวานทั่วฟ้า ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน เสียงคำรามเหมือนกับฟ้าผ่า ราวกับจะฉีกภูเขาทิพย์ออก
“มาแล้วเหรอ?หรือนี่คือสัตว์ในตำนานที่กลางวันไม่ออกมา แต่ออกมาตอนกลางคืนงั้นเหรอ?” ฟางเหยียนพึมพำ กระโดดลง ออกมาจากเต็นท์ จ้องสัตว์ในตำนานที่กำลังจะปรากฏอย่างเตรียมพร้อม!
“อ้า…...”
เสียงกรีดร้องดังมาจากด้านหลัง ต่งยู่ตกใจตื่นขึ้นมา อุดหูตัวสั่น ส่งเสียงตกใจออกมาว่า “ฟางเหยียน ฉันกลัว”
ฟางเหยียนไม่ตอบ กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่เป็นไรนะ มีผมอยู่”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ต่งยู่ค่อยๆปล่อยวางความอกสั่นขวัญหายลง
การตอบที่ชิลล์ๆของฟางเหยียน เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่อบอุ่น ทันใดนั้นก็ทำให้เธออบอุ่นขึ้นมาทันใด
เสียงคำรามยังคงดังต่อไป เสียงคำรามเหมือนกับเสียงผีสางนางไม้ และค่อนข้างเหมือนกับเสียงของลิงอุรังอุตัง เสียงนี้มีแต่เพิ่มขึ้นไม่ลดลง เสียงร้องยิ่งแหลมและรันทดเจ็บปวด ราวกับถูกคนทรมานอย่างไรอย่างนั้น เป็นเสียงผีสางนางไม้จริงๆ หอนไปทุกที่
อย่าว่าแต่ต่งยู่ค่อนข้างหวาดกลัวเลย แม้แต่คิ้วของฟางเหยียนก็ขมวดขึ้นมา เขาทำสงครามมายาวนาน สังหารพวกเสเพลที่คิดจะเข้ามาในประเทศหวาไม่น้อย และเคยเห็นเรื่องราวแปลกๆมาไม่น้อย แต่เมื่อพูดถึงสัตว์ประหลาดภูเขาทิพย์ ก็ทำให้เขาอดที่จะเคร่งเครียดขึ้นมาไม่ได้
มนุษย์ก็เป็นแบบนี้ เช่นผีที่คนเคารพมากที่สุด นี่เป็นความมุ่งหวังของมนุษยชาติที่มีต่อเรื่องที่ไม่รู้มาก่อน ดังคำที่กล่าวว่า เรื่องที่ไม่อยู่ในการควบคุมของมนุษยชาติ จะเต็มไปด้วยความประหลาดใจและเคารพนับถือ ดังนั้นสำหรับเทวดาอีกทั้งเทพผี คนจำนวนมากยังคงหวาดกลัวต่อสิ่งนั้นอยู่
สำหรับฟางเหยียน เสียงร้องคำรามนี้เทียบได้กับการตะโกนของกองกำลังเป็นหมื่นๆพันๆ และยังมีพลังทำลายล้างกว่ากองกำลังเป็นหมื่นๆพันๆ การเข่นฆ่าของสนามรบ ตะโกนฆ่าดังสนั่น แต่เสียงร้องนี้กลับโจมตีในใจของคนได้โดยตรง ทำให้คนเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ ไร้ซึ่งพลัง
ฟางเหยียนกลัวเหรอ?
ไม่!
เขาไม่กลัว เพราะเขาคือฟางเหยียน เขาคือเทพสงครามทรงเกียรติของประเทศหวา และเป็นราชาเพียงคนเดียวเท่านั้น!
ปกป้องดินแดน รักษาความปลอดภัยของประชาชน เป็นความรับผิดชอบที่เลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อคุกคามความปลอดภัยของประชากร งั้นเขาก็จะไม่แคร์ที่จะกำจัด เอาความสะอาดกลับคืนมาสู่ดินแดนตะวันตก
“เดี๋ยวหลบที่นี่ห้ามขยับ เข้าใจมั้ย?”
ต่งยู่กำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆก็กล่าวอย่างตกใจว่า “อ้า……นี่ นี่มันสัตว์ประหลาดอะไรกัน? เป็นคนหรือผี!”
และนี่ฟางเหยียนจึงได้มองไปที่ต่งยู่ ตากระตุกรัวๆ ที่โล่งกว้างอย่างว่างเปล่า จู่ๆก็ปรากฏสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารขึ้นตัวอย่างหนึ่ง มันสูงใหญ่ เหมือนกับรูปปั้นดินที่หล่อตัวพิมพ์ สูงสองเมตรเห็นจะได้ สูงกว่าฟางเหยียนไปอีกครึ่งหัว ภายใต้แสงไปที่สว่างไสว ขนสัตว์ที่ดำและยาวยุ่งเหยิงกลับชัดเจน ราวกับไร้ที่ติ
มันยืนอยู่ตรงหน้าของทั้งสอง ดูๆแล้วเหมือนภูเขาลูกหนึ่ง
“อาว!” หลังจากคำรามออกมา มันยกมือขึ้นมาทุบหน้าอกตัวเองอย่างรุนแรง จากนั้นแขนขาลงสู่พื้น
หลังจากที่แขนขาอยู่กับพื้น ร่างกายของมันก็เปล่งแสงสีแดงออกมา
แสงนี้เหมือนกับลูกไฟ สว่างไสวขึ้นทันใด ทำให้สายตาของฟางเหยียนถูกเร้าขึ้นอย่างมากที่สุด
เมื่อเขาปรับสายตาได้แล้ว มองไปที่สัตว์ประหลาดนั่น นึกไม่ถึงว่าจะปล่อยออกมาจากร่างกายของสัตว์ประหลาด
นั่นเหมือนกับร่างกายของสัตว์ประหลาดจะเป็นตัวปล่อยแสง ทำให้ป่าทึบที่มืดมิดกลายเป็นกลางวันไปได้
จากความสว่างของแสง รูปลักษณ์ทั้งหมดของสัตว์ประหลาดปรากฏอยู่ต่อหน้าของฟางเหยียน
นั่นเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง เป็นสัตว์ประหลาดที่แท้จริง
แขนขาของมันอยู่กับพื้น ฝ่ามือเหมือนคนเป๊ะๆ ขาทั้งสองอยู่ด้านหลัง
บนร่างกายของเขามีความเป็นมนุษย์ มีเพียงศีรษะที่ไม่เหมือนกับศีรษะของมนุษย์โดยสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ