“ส่วนสัตว์ในตำนานมานะสร้าง ก็คือสัตว์ที่บำเพ็ญตนภายหลัง เช่นงูเขียวฟ้าผ่าทัณฑ์ที่พวกแกรู้เป็นอย่างดี นั่นเป็นผลลัพธ์ของการบำเพ็ญตนภายหลัง การบำเพ็ญตนของสวรรค์ประทานหนึ่งวันเท่ากับการบำเพ็ญตนของมานะสร้างหนึ่งปี นี่เป็นความแตกต่างของทั้งสอง สัตว์ในตำนานฉินเสียงหลินนั่นฉันรับเลี้ยงมาเมื่อหลายปีก่อน ฉันเห็นมันแปลกประหลาดจากคนทั่วไปตั้งแต่เล็ก แล้วยังเชี่ยวชาญภาษาสัตว์ จึงได้สอนวิชาเขาไปบ้าง”
ผู้เฒ่าเพลิดเพลินกับการพูด!พูดพลางยังลูบเครายาวของตัวเองอย่างคึกคักมากอีกด้วย
ฟางเหยียนขมวดคิ้ว แล้วถาม “แล้วคุณล่ะ?”
ผู้เฒ่าชะงักไป แล้วกล่าวอย่างครุ่นคิดว่า “ฉัน?”
ฟางเหยียนพยักหน้าถาม “คุณเป็นประเภทไหน?”
“ฉันเป็นพวกบำเพ็ญตนมานะสร้าง!” ผู้เฒ่าไม่รู้สึกแปลกใจ กับการที่ฟางเหยียนดูออกว่าเขาเป็นผู้บำเพ็ญตน
“งั้น คุณพอจะให้ผมดูบาดแผลบนร่างกายได้มั้ย?” เหมือนฟางเหยียนจะคว้าโอกาสได้ ว่าคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าคือผู้บำเพ็ญตน
ผุ้บำเพ็ญตนคืออะไร ผู้บำเพ็ญตนคือยอดฝีมือโลกภายนอก อาจารย์ของตนก็เป็นพวกผู้บำเพ็ญตน ในประเทศหวามีนินจา นินจาก็เป็นการบำเพ็ญตนอย่างหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่นินจาจะฝึกการต่อสู้ฝึกชี่ แต่ผู้บำเพ็ญตนไม่เหมือนกัน
ผู้บำเพ็ญตนฝึกฝนจิตใจ พูดอีกอย่าง คนพวกนี้กำลังบำเพ็ญเซียน!
สิ่งเหล่านี้ได้ยินแล้วบางทีก็ไร้สาระอยู่บ้าง แต่ความจริงก็คือในประเทศหวามีการซ่อนคนที่บำเพ็ญเซียนอยู่บ้าง ส่วนทำไมคนพวกนี้ไม่ปรากฏกาย คนปกติไม่สามารถมองเห็นได้ ไม่สามารถพบปะได้ เป็นเพราะคนเหล่านี้ได้ละทางโลก ไม่สนทางโลกไปแล้ว!พวกเขาเลือกจะหลบซ่อนอาศัยอยู่ในที่แห่งหนึ่ง ดูดซึมพลังที่พระอาทิตย์ดวงจันทร์ปล่อยออกมา บำเพ็ญตนในทุกๆวัน
นานเข้า คนที่บำเพ็ญเซียนจึงได้ละจากทางโลกจากคนธรรมดา
บางทีพวกเขาจะอิ่มทิพย์ ใช้ท้องฟ้าเป็นบ้าน!
ส่วนฟางเหยียน เขาเป็นนินจา แล้วยังสุดยอดอีกด้วย มีเพียงขั้นสุดยอดจึงจะพบปะกับผู้บำเพ็ญตนแบบนี้ได้
แน่นอน บางทีคนธรรมดามากมายยังไม่เข้าใจ ไม่เชื่อว่าในโลกนี้มีผู้บำเพ็ญตน นี่เปรียบเสมือนมดเหยียบอยู่บนเท้าของช้างตัวหนึ่ง มันจะไม่รู้สึกว่าช้างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิต
ความเข้าใจของคนมีขีดจำกัด คุณไม่มีทางรู้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี!
ผู้เฒ่าลูบเครา ส่ายหน้าเบาๆแล้วกล่าว “ถ้าอาการนี้ของสหายตัวน้อยเพิ่งจะได้รับบาดเจ็บ บางทีฉันพอจะแนะนำได้บ้าง!แต่ตอนนี้ดูๆแล้ว เป็นแผลเก่า รวมเป็นหนึ่งกับร่างกายของแกไปนานแล้ว ฉันไม่มีทางรักษาได้”
ฟางเหยียนใจเต้นตึกๆ ตามที่คาดการณ์ไว้ ผู้บำเพ็ญตนก็เป็นแค่ผู้บำเพ็ญตน เขายังไม่ใช่เทพ!
ยิ่งสงบไปสักพัก ฟางเหยียนถาม “แล้วคุณคือระดับยอดดาวเหนือหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ชะงักไปสักพัก เต๋ายอดเซียนเพิ่งจะรู้สึกตัวตอบว่า “แกหมายถึงแดนเหรอ?”
ฟางเหยียนพยักหน้า ไม่กล่าวใดๆ!
เต๋ายอดเซียนถอนหายใจ แล้วกล่าว “ตั้งแต่ฉันผู้เฒ่าอาศัยอยู่ในป่าลึกหลายร้อยปี ละจากแดนอะไรนั่นไปนานแล้ว ถ้าจะพูดแดนคำนี้ บางทีอาจจะเป็นระดับยอดดาวเหนือที่แกพูดก็ได้!”
หลายร้อยปี?
ระดับยอดดาวเหนือ!
นี่เป็นระดับสูงสุด!
ต่งยู่ที่ทานไปพอประมาณแล้วตกใจจนส่งเสียงอ้าออกมา จากนั้นเธอตาลุกโตถาม “หลายร้อยปี?”
ผู้เฒ่ามองต่งยู่ แล้วกล่าว “ใช่ นับดีๆ ประมาณสามร้อยปีได้แล้วมั้ง!”
คำพูดนี้ยิ่งทำให้ต่งยู่อ้าปากค้าง
ผู้เฒ่าที่อายุร้อยปีสำหรับความเข้าใจของเธอเป็นปาฏิหาริย์ไปแล้ว แล้วยังเป็นผู้เฒ่าที่อายุยืนมากด้วย แต่ผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้ากลับอายุสามร้อยปี ในโลกมีคนที่อายุยืนขนาดนั้นจริงๆเหรอ?
เธอมองจากบนลงล่างอย่างแปลกใจ สังเกตผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน!
หลังจากจ้องมองแล้ว เธอกะพริบตากล่าว “ใบหน้าสามสิบปี ผมและหนวดร้อยปี คุณบอกว่าตัวเองใช่ชีวิตมาสามร้อยปี คุณไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเราใช่มั้ยคะ?”
“ล้อเล่น?” เต๋ายอดเซียนหัวเราะฮ่าๆขึ้นมา แล้วกล่าว “แกสาวน้อยคนนี้น่าสนใจจริงๆ แกคิดว่าฉันเหมือนกำลังล้อเล่นกับแกอยู่มั้ย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ