วิชาลับเบญจธาตุอธิบายง่ายๆคือวิชาผสมผสานชนิดหนึ่ง ต้องการนินจาที่ในตัวขาดธาตุทอง ไฟ ไม้ น้ำ ไฟ ดินไปธาตุหนึ่งมารวมตัวกัน แต่ละคนฝีมือการต่อสู้ไม่เก่ง แน่นอนล่ะว่า ถ้าเป็นระดับปรมาจารย์ ค่อยว่ากันอีกที ถ้าวิชาเบญจธาตุในระดับต้าชี่มาต่อสู้ผสมผสานกัน สามารถสู้กับนินจาที่เป็นระดับปรมาจารย์ได้อย่างสูสีเลย
การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของวิชาลับเบญจธาตุคือ เฟิงหัว เทคนิคเฟิงหัวเป็นวิธีลับที่ใช้ธาตุประจำตัวของทั้งห้าคนมาเพิ่มพูนพลังตนโดยหลักการยืมค่ายกลเบญจธาตุ และความพิศวงขอวิธีลับนี้คือ สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของค่ายกลภายในพริบตา หนึ่งคนเป็นหนึ่งจุด ใช้คนแทน และจะได้พลังที่เหนือกว่าตัวเองเป็นผลตอบแทน
เฟิงหัวมันฝืนธรรมชาติเกินไป เหมือนจะชนะศัตรูแต่ก็ต้องเจ็บปางตายด้วย ผลสะท้อนกลับรุนแรงทำให้เหล่านักสู้เบญจธาตุได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน ปกติแล้วนักสู้เบญจธาตุจะไม่ใช้วิชานี้ และการโจมตีปกติแล้วน้อยคนนักจะรับไหว ต่อให้เป็นนินจาระดับปรมาจารย์ก็ประมาทไม่ได้
ฟางเหมี่ยวเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ รีบถามอย่างตะลึงว่า “คุณปู่ หมายถึงทั้งห้าคนนี้เป็นนักสู้เบญจธาตุ?”
“เสี่ยวเหมี่ยว หลานรู้จัก?” ฟางจินหยวนตะลึงเล็กน้อย พลางถาม
“ไม่รู้จักครับ แต่กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของการรวมตัวของนักสู้เบญจธาตุคือเฟิงหัว พอเฟิงหัวออกมาก็จะจัดการได้ทุกสิ่ง!” ฟางเหมี่ยวตอบตามมาตรฐาน เพราะข้อมูลพวกนี้บันทึกไว้อย่างจำกัด ส่วนเขาก็แค่รู้ตามที่บันทึกไว้เท่านั้น
วิชาเบญจธาตุในสมัยโบราณของประเทศหวามักใช้ในลัทธิเต๋า แต่เวลาผ่านไป หลังจากมนุษย์เกิดความคิดชั่วร้าย วิชาเบญจธาตุก็โดนพวกลัทธิมารสืบทอดลงมา โดยเฟิงหัวของวิชาลับเบญจธาตุถือเป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาทำความชั่วทุกอย่างไม่มีละเว้น ทุกการกระทำนั่นเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาได้!
“พวกเขาห้าคนน่าจะเป็นอาชญากรของประเทศหวา!”
ผู้หญิงหน้ากากมังกรหัวเราะเหอะๆว่า “เด็กน้อย ผู้ใหญ่ที่บ้านไม่ได้บอกหรอว่า ข้าวน่ะกินผิดได้ แต่จะพูดจาซี้ซั้วไม่ได้นะ?”
เห็นได้ชัดว่า ผู้หญิงหน้ากากมังกรยอมรับกลายๆในคำพูดของฟางเหมี่ยวแล้ว
ส่วนคนตระกูลฟางพอได้ยินคำพนี้ ต่างพากันสะท้านเยือกไปตามๆกัน เป็นอาชญากรของประเทศหวา นั่นคือทำความผิดมหันต์ไว้จนต้องหนีตาย คนแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นมือสังหารที่แท้จริง
ฟางเหมี่ยวระงับความพรั่นพรึงในใจ ทำหน้ามั่นถามว่า “ผมแปลกใจมาก ไพ่ตายของพวกคุณคืออะไร? หายไปนานขนาดนี้ ทำไมจู่ๆปรากฏตัวขึ้นมาอีก?”
“สำหรับพวกเราแล้ว เงินทองไม่เพียงพอแล้ว แต่ของบางอย่างดียิ่งกว่าเงิน ว่ากันว่า มีลงทุนก็จะมีตอบแทน มีกดดันถึงจะท้าทาย ของที่ตระกูลฟางของพวกแกมีมันดีมากเกินไป ต่อให้เป็นศึกสิ้นหวังแค่ไหน พวกเราก็ต้องได้มันมา”
“เด็กน้อย ฉันรู้ว่าแกพยายามถ่วงเวลา แต่แล้วยังไงล่ะ? ยังไงซะ เฟิงหัวของวิชาลับเบญจธาตุที่แกรู้ต้องใช้เวลามาพัฒนา งั้นฉันไม่ซีเรียสที่จะให้พวกแกอยู่นานต่ออีกหน่อย และจะบอกให้ว่าพวกเราต้องการอะไร ขลุ่ยไม้ไผ่อันหนึ่ง”
มั่นใจ!
ผู้หญิงหน้ากากมังกรแสดงออกมาถึงความมั่นใจสบายๆ ในคำพูดกลับเต็มไปด้วยคำดูถูก นี่ไม่ใช่อายุน้อยทำตัวกร่าง และไม่ใช่พูดจาโอ้อวดเกินตัว แต่เป็นความมั่นใจในฝีมืออันแข็งแกร่งของตนเลย!
ขลุ่ยไม้ไผ่?
คำตอบนี้ทำให้คนตระกูลฟางอึ้งอีกครั้ง แต่ทุกคนไม่ใช่คนโง่ ถ้าขลุ่ยไม้ไผ่นี่เป็นของธรรมดา พวกเธอคงไม่ต้องทำทุกอย่าง หรือแม้แต่ไม่เสียดายชีวิตตัวเองมาฆ่าล้างตระกูลฟางหรอก?
ฟางจินหยวนคิ้วขมวดตะคอกดังว่า “เพื่อขลุ่ยอันเดียวก็มาฆ่าล้างตระกูลฟาง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ