จอมนักรบทรงเกียรติยศ นิยาย บท 636

เป็นดั่งที่เทพธิดากล่าวไว้ สัตว์ป่าตัวนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ถูกสามคนล้อมวงเข้าโจมตีแต่กลับไม่เป็นอันใด แถมยังสามารถแบ่งพลังภายในเล็กน้อยออกมาในช่วงเวลาคับขันเพื่อปกป้องเรือนตระกูลฟางได้อีก ช่างน่าปวดหัวเสียจริง

ขวังซือแม้จะแข็งแกร่ง ทว่าอันที่จริงไม่สามารถสังหารหญิงหน้ากากพยัคฆ์และคนอื่นๆ คนใดคนหนึ่งได้

ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงฝืนทนเช่นนี้ต่อไป

ทั้งสามคนสร้างแนวการโจมตีแบบสามเหลี่ยม ล้อมขวังซือเอาไว้ แต่ไม่ได้โจมตี ก็ไม่ทราบว่าคิดอันใดอยู่เช่นกัน

หม่างเทียนมีสีหน้าดูไม่ค่อยได้เท่าไรนัก สีหน้าดูไม่ได้ยิ่งกว่ากินอุจจาระห้ากิโลกรัมลงไปเสียอีก หญิงหน้ากากพยัคฆ์คือใคร เทพธิดาที่เป็นที่ยอมรับ ทั้งประเทศหวาเธอกล้าที่จะขนานนามว่าเป็นลำดับที่สาม แล้วผู้ใดจะกล้าขนานนามว่าเป็นที่สอง? อันดับแรกแน่นอนว่าจำต้องเป็นโผ้จวินเทพแห่งสงครามผู้ลึกลับที่สุดของประเทศหวา เมื่อนึกถึงโผ้จวินผู้ลึกลับ ภายในใจของหม่างเทียนจึงเกิดความเคารพขึ้นมาอย่างลึกซึ้ง

คิดย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อน โผ้จวินใช้กำลังของตนเพียงคนเดียว สวมชุดคลุมลายมังกรสังหารศัตรูทั้งสิบประเทศ ทำให้ผู้ที่ได้ยินต้องหวาดผวา นอนไม่หลับเลยทีเดียว ทว่าหลังจากที่สู้รบครั้งนั้นเสร็จแล้ว เขาก็หลบซ่อนตนอย่างไร้ร่องรอย ไร้ซึ่งการบอกกล่าว หลายคนคิดว่าเขาก็ตายในสนามรบเช่นเดียวกัน ทว่าผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่า หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้า กองทัพพันธมิตรซานลู่ได้นำทหารบุกเข้าไปยังชายแดนภาคเหนืออีกครา พร้อมทั้งคุยโวโอ้อวดอย่างไม่กระดากใจว่าต้องการทำลายสำนักเจ็ดพิฆาตจึงบุกเข้ามายังชายแดนภาคเหนือ และต้องการจับเป็นโผ้จวิน ต้องการวางอำนาจอยู่ในดินแดนของประเทศหวา ดูหมิ่นพลังอำนาจของประเทศหวา

ขณะที่กองทัพใหญ่แห่งซานลู่ประชิดเข้ามาใกล้เขตแดน ชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมลายมังกรราวกับเทพเจ้าผู้นั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้นยังชายแดนภาคเหนืออีกครา และได้สังหารกองทัพพันธมิตรซานลู่ภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว ส่งผลให้แผนการที่จะตีชายแดนภาคเหนือให้แตกแล้วบุกเข้ามายังประเทศหวา ต้องล่าถอยไปอีกรอบ

โผ้จวิน!

ชายหนุ่มผู้ที่เป็นเสมือนเทพพระเจ้า ขอเพียงแค่มีเขาอยู่ ประเทศหวาก็ไม่เกรงกลัวพวกศัตรูที่หมายจะเข้ามาบุกรุกอีกต่อไป!

โผ้จวินเองก็เป็นบุคคลที่นินจาหลายคนแย่งกัน เพื่อต้องการที่จะแนบศีรษะบนเท้าทำความเคารพ นินจาหลายคนต่างก็ต้องการที่จะผูกสัมพันธ์กับชายหนุ่มที่มีตัวตนราวกับเทพเจ้ากันทั้งนั้น หนึ่งในนั้นก็รวมถึงเขาหม่างเทียนด้วย ทว่าคนผู้นี้ไร้ร่องรอย ราวกับหายไปจากโลกอย่างเงียบๆ แล้วอย่างไรอย่างนั้น

มีเพียงช่วงเวลาที่ชายแดนภาคเหนือ กระทั่งประเทศหวาประสบภัย โผ้จวินผู้ที่มีตัวตนราวกับเทพเจ้านั้นก็จะปรากฏตัวออกมา แล้วช่วยเหลือจัดการภัยทุกข์นั้น แบ่งเบาภาระให้ผู้คน

เขาเรียกสติกลับคืน ภายในใจของหม่างเทียนยังคงตกตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เทพธิดาผู้กล้าหาญและแข็งแกร่งเกือบพ่ายแพ้ให้กับขวังซือเสียแล้ว หากไม่ใช่เพราะมีสองคนข้างหลังซุ่มโจมตีอยู่ซ้ายขวา บางทีวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายของพวกเขาเสียแล้ว!

นี่สามารถล้มล้างความรู้เดิมที่เขามีต่อประเทศหวาได้อีกครา โดยเฉพาะขวังซือสัตว์ในตำนานคุ้มครองเรือนของตระกูลฟางตัวนี้ เขาแข็งแกร่งถึงเพียงใดกันแน่!

“เทพธิดา กรุณารอสักครู่ ผมจะจบสงครามนี้ให้เร็วที่สุด!”

หญิงหน้ากากพยัคฆ์มิได้ต่อบทสนทนา ครั้นเอ่ยขึ้นเสียงเบา “ลงมือ!”

สองคนที่อยู่ข้างหลังไม่ได้ลังเลแม้แต่นิด ง้างดาบและวิ่งพุ่งเข้าใส่ขวังซืออย่างรวดเร็วอีกครา ก่อนที่จะลงมือ หญิงหน้ากากพยัคฆ์มองออกไปยังภายนอกเรือนตระกูลฟาง สีหน้าตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าที่นั่นมีอันตรายบางอย่างกำลังจะมาเยือนอย่างไรอย่างนั้น

การต่อสู้ของทั้งสี่คนเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หม่างเทียนและซื่อนวี่ก็มิได้ลังเล เข้าไปลงมือสู้รบอีกครา

การสู้รบนี้แข็งแกร่งมาก ไม่นานก็มีเสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นอีก ราวกับเสียงฟ้าผ่าลั่นพสุธา

ชั่วพริบตาเดียว เรือนตระกูลฟางก็ได้กลายเป็นแดนชำระไปเป็นที่เรียบร้อย บริเวณที่มองเห็นนั้น ล้วนเป็นซากกำแพงถล่ม กระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ เดิมทีเรือนตระกูลฟางที่ยังมีพลังของขวังซือปกป้องอยู่นั้น ในบัดนี้ก็เริ่มถล่มพังทลายลงมาเช่นเดียวกัน เพียงพอที่จะมองออกแล้วว่าศึกต่อสู้นี้กำลังเข้าใกล้ขั้นดุเดือดแล้ว อีกทั้งแม้ว่าหม่างเทียนและซื่อนวี่จะมีบาดแผลบนร่างกายเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม ทว่าเวลานี้ก็อยู่ในสถานะที่มิใช่ผู้พ่ายแพ้แต่อย่างใด ทั้งสองฝ่ายได้อดทนกันต่อไป

เห็นสภาพอันเละเทะของเรือนตระกูลฟางแล้ว ฟางจินหยวนรู้สึกเพียงว่ามีเสียงดังก้องอยู่ในหัว และหัวสมองว่างเปล่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบทรงเกียรติยศ